รวมใจ...รวมไทยสร้างชาติ มิใช่เพื่อความเป็นใหญ่...แต่เมืองไทยต้องไป

ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เมื่อวันที่ 9 มกราคม 2566 เวลา 17.00 น.จนเกือบ 20.00 น. เป็นเวลาฤกษ์ผานาทีที่ดี ลุงตู่เดินทางมาสมัครเป็นสมาชิกของพรรครวมไทยสร้างชาติ พรรคที่ตั้งขึ้นมาด้วยปณิธานมุ่งแก้ปัญหาประชาชนในทุกๆ ด้าน และมุ่งสร้างการพัฒนาที่จะนำพาประเทศไทยให้เจริญก้าวหน้า โดยกลุ่มคนที่พร้อมจะบริหารประเทศด้วยการใช้คุณธรรมนำความรู้

นับเป็นการเปิดตัวที่ยิ่งใหญ่ ทำให้แวดวงทางการเมืองสะเทือนเลื่อนลั่น ฝ่าย FC ลุงตู่ยิ้มแก้มบานอย่างมีความสุขจากภาพของความยิ่งใหญ่เกรียงไกรที่ได้เห็น สะท้อนให้เห็นว่าประชาชนที่พอใจผลงานลุงตู่ และพร้อมที่จะสนับสนุนลุงตู่ให้เป็นนายกรัฐมนตรียังมีอยู่เป็นจำนวนมาก และสามารถพูดได้ว่ามากพอที่จะจุดกระแส “ลุงตู่อยู่ต่อ” ให้เป็นกระแสหลักของการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในปี 2566 นี้ และน่าจะเป็นกระแสที่เชิญชวนให้ประชาชนมาลงคะแนนเลือกผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้แทนราษฎรที่สังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติ สามารถชนะการเลือกตั้งได้ในหลายพื้นที่ เพราะประชาชนต้องการให้ลุงตู่อยู่ต่อ เพื่อพัฒนาประเทศชาติต่อไปด้วยความรู้ ความสามารถ และด้วยความซื่อสัตย์สุจริตที่ประชาชนไว้ใจได้

จากภาพการเปิดที่ยิ่งใหญ่นั้น เพราะเจาะเข้าไปดูรายละเอียดของงาน เราก็สามารถพูดได้ว่างานใหญ่ครั้งนี้ไม่ได้ใหญ่แต่เปลือก แต่เป็นการใหญ่จริงเข้าไปถึงเนื้อใน ที่ต้องเลือกสถานที่ใหญ่ขนาดศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ก็เพราะคนที่จะมาร่วมในงานนี้มีจำนวนมาก จึงจำเป็นต้องใช้ศูนย์ประชุมดังกล่าว จะใช้สถานที่เล็กกว่านั้นก็คงไม่ได้ เมื่อมองดูคนที่มาร่วมงานด้วยเราก็จะเห็นผู้ก่อตั้งพรรคและที่ปรึกษาพรรคที่เข้ามาร่วมงานกับพรรคก่อนลุงตู่ ก็ล้วนเป็นคนดี เด่น ดัง ที่น่ายกย่องนับถือทั้งความดี และความรู้ความสามารถ ส่วนคนที่มาร่วมในวันนั้นมีทั้ง ส.ส.รุ่นใหญ่ที่เป็นดาวฤกษ์ ที่จะมาเป็นผู้สมัครลงรับเลือกตั้งบ้าง มีเป็นที่ปรึกษาบ้าง มาเป็นพี่เลี้ยงบ้าง มีทั้งกลุ่ม ส.ส.บ้านใหญ่ที่มากันหลายจังหวัด เขาเอา ส.ส.มาเป็นกลุ่ม มีทั้งคนรุ่นใหม่ที่เป็นหนุ่มสาวที่มีคุณสมบัติที่ดี ทั้งการศึกษา การทำงาน และผลงาน อีกทั้งยังมีนักการเมืองท้องถิ่นอีกหลายจังหวัดที่จะเข้ามาร่วมงานด้วย และยังมี FC ของลุงตู่ที่มาให้กำลังใจกันอย่างล้นหลามด้วยเสียงตะโกนเชียร์ และบางคนมาพร้อมกับป้ายที่ให้กำลังใจลุงตู่ จนลุงตู่ต้องพูดว่าถ้ารู้ว่ามีคนรักมากขนาดนี้น่าจะมาสมัครเข้าพรรคตั้งนานแล้ว

ก่อนที่จะถึงวันที่ลุงตู่มาปรากฏตัวสมัครเป็นสมาชิกพรรคการเมือง ลุงตู่เคยพูดว่าตลอด 8 ปีที่ทำหน้าที่เป็นายกรัฐมนตรีได้สร้างผลงานไว้มากมาย ทั้งผลงานในการแก้ปัญหาที่หมักหมมมานาน และการทำโครงการใหม่ๆ ที่เป็นการพัฒนาประเทศ ที่สำคัญคือสามารถบริหารการจัดการกับวิกฤตการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้ยอดเยี่ยมจนเป็นที่ยอมรับขององค์การอนามัยโลก ว่าประสบการณ์ของประเทศไทยคือแบบอย่างที่หลายประเทศจะต้องมาเรียนรู้และทำตาม ที่สำคัญก็คือ ด้านเศรษฐกิจนั้น ลุงตู่ก็สามารถบริหารการเติบโตของประเทศไทยจนทำให้ประเทศไทยติดอันดับต้นๆ ในหลายๆ ด้านของเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะเป็นด้านเงินทุนสำรอง การพัฒนาที่ยั่งยืน การลงทุนของต่างชาติ การรักษาระดับอัตราเงินเฟ้อที่ต่ำมาก และการส่งออก จน IMF กล่าวว่าประเทศไทยจะเป็น 1 ใน 2 ประเทศของเอเชียที่ GDP จะโตเป็นบวกในปี 2566 นี้

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าลุงตู่จะมีผลงานมากมายแต่ก็ยังมีงานบางอย่างที่ยังไม่แล้วเสร็จ ต้องใช้เวลาอีก 1-2 ปี งานต่างๆ ที่กำลังดำเนินการอยู่น่าจะแล้วเสร็จได้ ดังนั้นลุงตู่จึงต้องการที่จะทำงานการเมืองเพื่อบริหารประเทศต่อไป ทำงานต่างๆ ที่กำลังดำเนินการอยู่ให้แล้วเสร็จไปตามที่ตั้งใจ ในการเปิดตัวเมื่อวันที่ 9 มกราคม 2566 นั้น ลุงตู่พูดชัดเจนว่าที่เข้ามาทำงานการเมืองแบบนักการเมืองอย่างเต็มตัวนั้น ไม่ได้ต้องการที่จะมีอำนาจเพื่อเป็นใหญ่ แต่ประเทศไทยต้องไปต่อ ดังนั้นเหล่าบรรดา FC ทั้งหลายจะต้องช่วยกันเผยแพร่แนวคิดนี้ แนวคิดที่ว่า ลุงตู่ต้องอยู่ต่อ เพื่อสานงานต่อ ให้ประเทศชาติได้พัฒนาต่อ แนวความคิดนี้จะต้องใช้เป็นกระแสหลักของการตัดสินใจลงคะแนนเลือก ส.ส.ในการเลือกตั้งปี 2566 นี้ ถ้าหากใครต้องการให้ลุงตู่อยู่ต่อ เพื่อมาสานงานต่อ ให้ประเทศชาติได้พัฒนาต่อ ก็จะต้องลงคะแนนให้แก่ผู้ที่สมัครลงรับเลือกตั้งในนามพรรครวมไทยสร้างชาติ เพื่อมาร่วมใจ รวมไทยสร้างชาติ ประกาศให้ลุงตู่อยู่ต่อ เพื่อสานงานต่อ

ช่วยกันรณรงค์ให้ผู้ลงคะแนนเลือกตั้งในครั้งนี้ว่า เราไม่ได้ลงคะแนนให้ได้ใครเป็น ส.ส.เท่านั้น แต่เราลงคะแนนเพื่อให้ได้ลุงตู่เป็นนายกรัฐมนตรี เราจึงต้องลงคะแนนเลือกคนที่ลงสมัครรับเลือกตั้งในนามของพรรครวมไทยสร้างชาติ และในเมื่อการเลือกตั้งในครั้งนี้เป็นการใช้บัตร 2 ใบ โดยที่ใบหนึ่งนั้นเราต้องกาเพื่อเลือกตั้ง ส.ส.เขต และอีกใบหนึ่งนั้นเราต้องกาเพื่อเลือก ส.ส.บัญชีรายชื่อ ถ้าหากเราต้องการให้ลุงตู่มีความชอบธรรมที่จะเป็นนายกรัฐมนตรี เราต้องกาพรรครวมไทยสร้างชาติทั้ง ส.ส.เขตและ ส.ส.บัญชีรายชื่อ เราต้องตระหนักรู้ว่าการเลือกตั้งครั้งนี้เราไม่ได้แค่เลือก ส.ส. แต่เรากำลังเลือกนายกรัฐมนตรี เราจึงต้องรู้ว่า ถ้าเราต้องการให้ลุงตู่อยู่ต่อในฐานะนายกรัฐมนตรีอย่างสง่างาม เราจะต้องเลือกคนที่อยู่พรรครวมไทยสร้างชาติเหมือนลุงตู่ ไม่ว่าจะเป็น ส.ส.เขตหรือ ส.ส.บัญชีรายชื่อ

ถ้าหากยังลังเลเพราะมี ส.ส.ในดวงใจที่อยากจะเลือก แต่เขาไม่ได้สังกัดพรรครวมไทยสร้างชาติ เราต้องถามตัวเราเองว่า ถ้าหากรวมไทยสร้างชาติไม่ได้มีจำนวน ส.ส.มากกว่าพรรคอื่นๆ ที่มาร่วมจัดตั้งรัฐบาล แล้วลุงตู่จะมีโอกาสได้เป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ ถ้าหากมีพรรคอื่นที่มาร่วมจัดตั้งรัฐบาลยินยอมให้ลุงตู่เป็นนายกรัฐมนตรีก่อน 2 ปี แล้วหัวหน้าพรรคเขาจะรับไม้ต่ออีก 2 ปี แล้วลุงตู่จะมีความชอบธรรมในการเป็นนายกรัฐมนตรีหรือ จะเป็นได้อย่างสง่างามหรือ จะบริหารประเทศได้ดีหรือ จะไม่โดนพรรคที่มี ส.ส.มากกว่าขี่คอเอาหรือ เลือกตั้งครั้งนี้ต้องคิดว่าเราไม่ได้เลือกแค่ ส.ส. แต่เราเลือกนายกรัฐมนตรี และเราต้องรู้นะว่าต้องเลือกคนที่ลงสมัครในนามพรรครวมไทยสร้างชาติเท่านั้นเพื่อให้ได้ลุงตู่อยู่ต่อ สานงานต่อ ก่องานให้ประเทศไทยพัฒนา ปัญหาได้แก้ไข และคนไทยจะเป็นสุข...คิดดูกันดีๆ นะ ระวังนโยบายขายฝันที่หลอกให้หลง ระวังจะได้รัฐบาลเคยโกงกลับมาโกงอีกนะคะ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

เด็กฝึกงาน...ไม่ผ่านโปร

ฉากทัศน์ทางการเมืองของประเทศไทยหลังจากรู้ผลของการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 เป็นภาพที่สร้างความกังวลให้กับคนไทยจำนวนมากที่ไม่ได้เลือกพรรคส้มหรือพรรคแดง

'ความเป็นไทย' กับกรณีน้ำท่วมภาคเหนือ-ภาคใต้

ถึงแม้จะก่อเกิด ถือกำเนิด ที่อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี...แต่ด้วยเหตุเพราะไปเติบโตที่ภาคใต้ ไม่ว่าเริ่มตั้งแต่อำเภอทุ่งสง จังหวัดหน่ะคอนซี้ทำหมะร่าด ไปจนอำเภอกันตัง

ได้ฤกษ์ 'นายพล' ล็อต 2

ผ่านเดดไลน์ตามคำสั่ง ผบ.ต่าย-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ให้ทุกหน่วยส่งบัญชีข้อมูลผู้เหมาะสมเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น

'ดร.เสรี' กรีดเหวอะ! ใครมีลูกสาวเก่งพอที่จะเป็นนายกฯ ต้องบอกลูกให้มีผัว 9 คนอยู่ใน 9 ภาค

ดร.เสรี วงษ์มณฑา นักวิชาการด้านการตลาดและการสื่อสารโพสต์เฟซบุ๊กว่า ใครมีลูกสาวที่เก่งพอที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีได้ ต้องบอกลูกนะคะ

ช่างกล้า...ช่างมั่น รับประกันด้วยตำแหน่ง

ในขณะที่ประชาชนผู้รักชาติ รักแผ่นดิน มีความเป็นห่วงเป็นใยว่าการเจรจาแบ่งผลประโยชน์จากทรัพยากรในท้องทะเลใต้เกาะกูดตามที่มีการลงนามความเข้าใจร่วม (MOU) 44