การเมืองยามนี้แม้จะยังไม่ยุบสภาผู้แทนราษฎรอย่างเป็นทางการก็ตามที แต่ ดูเหมือนจะร้อนฉ่าอย่างมาก โดยเฉพาะหลังจาก “น้องตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมไปสมัครเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) พี่ใหญ่ของ 3 ป.อย่าง “พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐก็เริ่มออกแอกชันมากขึ้นเรื่อยๆ ...๐
แม้ในจดหมายเปิดใจของ “ลุงป้อม” จะกัดฟันบอกว่า 3 ป. Forever ก็ตามที แต่ช่างสวนทางกับการกระทำเมื่อวันอังคารเสียเหลือเกิน เพราะเจ้าตัวได้ลาประชุม ครม.ลงพื้นที่จังหวัดราชบุรีไปจัดแถวจัดทัพเด็กในบ้านกันเลย เนื่องจาก “น้องตู่” จะลงพื้นที่ไปเปิดงานตรุษจีนในวันพฤหัสบดีนี้ ...๐
ปาดหน้ารอบแรกยังไม่พอ ล่าสุด “พี่ป้อม” มีหมายที่จะปาดซ้ำอีกรอบในพื้นที่ จ.พิษณุโลก และนครสวรรค์ในวันที่ 20 ม.ค.นี้ ซึ่งต้องเรียกว่าไปเช็กเรตติ้งว่ายังดีอยู่ไหมอีกเช่นกัน เพราะดูเหมือน ส.ส.ในพื้นที่เริ่มเปลี่ยนพรรค โดยบางส่วนไปทั้งภูมิใจไทยของเสี่ยหนู และ รทสช.ของน้องตู่กันแล้วบ้างส่วน ทำให้จำเป็นที่พี่ใหญ่จะต้องลงออกเอกเซอร์ไซส์ให้บรรดาพวกที่ยังไม่ตัดสินใจ งานนี้ “พี่ป้อม” ก็มาดักหน้า “น้องตู่” ที่มีกำหนดการจะลงพื้นที่ จ.พิจิตรและนครสวรรค์ในช่วงปลายเดือน ม.ค.อีกครั้งด้วย ...๐
การเมืองระหว่าง “พี่น้อง” ระอุขนาดนี้ แต่กลับสวนทางกับการทำงานในสภาผู้แทนราษฎรของท่านผู้ทรงเกียรติยิ่งกว่า “ฟ้ากับเหว” สมกับได้รับฉายา 3 วันหนี 4 วันล่มจริงๆ เพราะในการประชุมล่าสุดใช้เวลาไม่ถึง 25 นาทีก็ต้องจรลีกันหมดแล้ว เพราะองค์ประชุมไม่ครบ ซึ่ง “วิษณุ เครืองาม” เจ้าของฉายาเครื่องจักรซักล้างก็ยืนยันว่าสภายังทำงานได้ ไม่ได้ถูลู่ถูกังแต่ประการใด เพราะ งานนี้เป็นการใช้เทคนิคหรือจงใจคว่ำกฎหมายนั่นแล ซึ่งเมื่อมองไปก็จะเห็นเป้าที่ “วิษณุ” ชี้ นั่นคือกฎหมายกัญชง กัญชา นั่นเอง ...๐
ส่วนความเคลื่อนไหวของคุณแม่ยังสาวอย่าง “แพทองธาร ชินวัตร” ที่อุ้มท้องหาเสียงอยู่ ล่าสุดก็ยังทำหน้าที่ทั้งแคนดิเดตนายกฯ และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย (หัวหน้าพรรคเพื่อไทยตัวจริง) ลงพื้นที่ตลาดสดนนทบุรี ซึ่งก็ไม่พลาดที่จะต้องกินบุญเก่า เอ่ยอ้างถึงคุณพ่ออย่าง “ทักษิณ ชินวัตร” อีกรอบ แต่ที่สังคมเขาสงสัยอย่างมากว่า “แคนดิเดตนายกฯ” อีกรายที่ชื่อ “เศรษฐา ทวีสิน” ทำไมไม่ลงพื้นที่บ้างหรืออย่างไร หรือมัวแต่สนใจในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของตัวเองอยู่ จนทำให้ใครต่อใครต้องหวนไปคิดถึงเรื่อง “ผลประโยชน์ทับซ้อน” เหมือนที่ให้วันที่ 31 ธันวาคมเป็นวันทำงานขึ้นมาซะอย่างนั้น ...๐
ส่วนพรรคก้าวไกล โดยเฉพาะก้าวย่างของ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” นั้น ก็เรียกว่าไม่เคยตกกระแสเสียจริงๆ เพราะขนาดในวันกองทัพไทย เจ้าตัวก็ยังร่อนจดหมาย พร้อมเสนอ 12 ข้อในการปฏิรูปกองทัพ ให้ติดเทรนด์กับเข้าด้วย ซึ่งชาวบ้านร้านถิ่นเขาก็พากันสงสัยว่าทำไมก้าวไกลชอบไปไกลเสียจริงๆ ทั้งแก้มาตรา 112 เอย ปฏิรูปตำรวจ ปฏิรูปศาล ปฏิรูปทหารเอย แต่เรื่องใกล้ๆ ตัวอย่างเรื่องครอบครัว ซึ่งเป็นเรื่องพื้นฐาน ทั้งเรื่องการทำร้ายผู้หญิง หรือพฤติกรรมชู้สาวแบบนี้ กลับแทบไม่เคยเสนอหรือออกแอกชันอย่างฉับไวเลย หรือเพราะมันเป็นของแสลงหรือประการใดจ๊ะ ...๐
พูดถึงก้าวไกลแล้วไม่พูดถึง “อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล” ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกลก็ไม่ได้ เพราะล่าสุด เจ้าตัวก็ออกมาแถลงตั้งข้อสังเกตถึงศาลอาญาและผู้พิพากษาในกรณี “ทานตะวัน ตัวตุลานนท์” และ “อรวรรณ ภู่วงษ์” 2 นักกิจกรรมที่ถอนประกันตนเองที่ถูกดำเนินคดีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 โดย ส.ส.ผู้ค้ำประกันอย่างอมรัตน์ถึงกับโวยว่าศาลควรควรตระหนักว่าเป็นผู้ผดุงความยุติธรรมให้คนไทยทุกคน ไม่ใช่เฉพาะผู้มีอำนาจ แหม! แต่ที่สังคมเขากังขาก็คือ ทั้ง "ตะวัน-แบม” นั้น ไม่น่าใช่เยาวชนกันเท่าไหร่นะ เพราะ อายุอานามก็มีสิทธิเลือกตั้งแล้ว ฉะนั้นเจ้าตัวก็ต้องรับผลการกระทำเหมือนคนทั่วไป อย่างที่พรรคก้าวไกลมักพูดมักอ้างเรื่องความเท่าเทียมเสมอๆ สิจ๊ะแม่คุณ ไม่ใช่มาอ้างเรื่องความเป็นเด็กเป็นเยาวชนสร้างความชอบธรรม ...๐
ทิ้งท้ายด้วยข่าว ฟ้าผ่าที่กระทรวงยุติธรรม เมื่อ “สมศักดิ์ เทพสุทิน” รมว.ยุติธรรม ลงนามในคำสั่งให้ “ไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์” อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ไปปฏิบัติหน้าที่ราชการที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และรักษาราชการแทนผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และให้ “พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล” ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ไปปฏิบัติหน้าที่ราชการที่ดีเอสไอแทน ก็ไม่รู้ว่า นี่ใช่พิษของ “ทุนจีนสีเทา” หรือเปล่า แต่ที่แน่ๆ เล่นเอาอากาศที่หนาวสะท้าน หนาวยะเยือกเข้าไปอีก ...๐
ท.ศักดิ์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
บันทึกหน้า 4
น้ำลด การเมืองผุด! หลังเพลาไปช่วงมหาวิปโยคใต้ เวลานี้กลับมาร้อนฉ่าอีกรอบ ช่วงเย็นพุธที่ผ่านมา คล้อยหลัง "นายกฯ อนุทิน" แถลงโชว์ถอนรากสแกมเมอร์เขมรยึดทรัพย์หมื่นล้าน
บันทึกหน้า 4
ต้องยอมรับว่าแม้ “มหาอุทกภัยในภาคใต้” เริ่มคลี่คลายเข้าสู่จุดการเยียวยา-ฟื้นฟูแล้วก็ตามที แต่ยอดผู้เสียชีวิตและความเสียหายก็ยังไม่นิ่งเสียทีเดียว แต่อย่างไรยอดผู้เสียชีวิตก็คงไม่ถึงพันศพตามที่ “พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล” อดีต รอง ผบ.ตร. วาดหวังแน่ๆ แล้ว
บันทึกหน้า 4
หลังวิกฤตน้ำท่วม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา คลี่คลาย น้ำตาก็ท่วมเมือง เมื่อชาวหาดใหญ่เห็นสภาพบ้านเรือนของตัวเองกลายเป็นซากปรักหักพัง ทรัพย์สินที่สร้างมาพังพาบไปกับกระแสน้ำแทบสิ้นเนื้อประดาตัว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ร่วมประชาสัมพันธ์กิจกรรมความร่วมมือ “รวมใจไทย ฟื้นแดนใต้” ซึ่งรัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์เป็นแกนกลางในการประสานงานร่วมกับภาคเอกชนและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
บันทึกหน้า 4
ภายใต้วิกฤตหาดใหญ่ครั้งนี้ ผู้นำรัฐบาลอย่าง อนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ และ รมว.มหาดไทย ถูกเรียกร้องให้แสดงความรับผิดชอบ แม้ต้นตอของปัญหาไม่ได้มาจากเขาคนเดียว
บันทึกหน้า 4
ขึ้นต้นเดือนสุดท้ายของปี บรรยากาศสังคมไทยยังคงซึมๆ เศร้าๆ อยู่กับเหตุและเภทภัยที่พี่น้องชาวใต้กำลังเผชิญ "น้ำลดตอผุด" ถูกขุดขึ้นมาเป็นรายวัน เหมือนมีใครบางคนกำลังช่วงชิงสถานการณ์หวัง "ตีกิน" สร้างดรามา แต่งคอนเทนต์ไล่ล่าเอาคะแนนนิยมคืนจากรัฐบาลที่นำโดยพรรคภูมิใจไทย
บันทึกหน้า 4
น้ำใจไทยไม่เคยเหือดแห้ง ถนนทุกสายจากทั่วประเทศมุ่งสู่ใต้ โดยเฉพาะ "มหาวิปโยคหาดใหญ่" ไม่ใช่แค่ทั้งเมืองจมบาดาล ทรัพย์สินเสียหาย แต่รวมถึงชีวิตที่ประเมินค่าไม่ได้ ซึ่งมีการอัปเดตตัวเลขช่วงเย็น 27 พ.ย.



