สถานี'กรุงเทพอภิวัฒน์' ศูนย์กลางโลจิสติกส์ภูมิภาค

โครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งถือว่าเป็นหนึ่งในโครงการที่รัฐบาลเล็งเห็นถึงความสำคัญของการพัฒนา เพื่อรองรับการเดินทางของประชาชนให้มีประสิทธิภาพ แก้ไขปัญหาด้านการจราจร เพื่อลดต้นทุนการขนส่งสินค้า และเชื่อมต่อการเดินทางจากใจกลางกรุงเทพมหานครสู่ปริมณฑล และเชื่อมโยงต่อไปยังทุกภูมิภาคทั่วประเทศ ดังนั้นจึงได้เดินหน้ายกระดับให้สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์เป็นศูนย์กลางการคมนาคมและการขนส่งทางรางของประเทศ และเป็นสถานีรถไฟที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน อีกทั้งเป็นศูนย์กลางการคมนาคมแห่งใหม่เทียบเท่าสถานีรถไฟชั้นนำของโลก

นอกจากนี้ยังมีแผนพัฒนาพื้นที่โดยรอบ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มในเชิงพาณิชย์ สร้างมูลค่าเพิ่มและพัฒนาเมืองในรูปแบบใหม่ เพื่อให้เกิดการกระตุ้นการขยายธุรกิจและเศรษฐกิจในพื้นที่ ส่งเสริมให้เกิดการกระจายโอกาสในด้านต่างๆ สู่ประชาชน ทั้งในด้านของการสร้างงาน สร้างอาชีพ ยกระดับคุณภาพชีวิต ซึ่งเป็นเป้าหมายที่รัฐบาลได้ดำเนินการในการมุ่งพัฒนาประเทศอย่างบูรณาการ

ล่าสุดในวันที่ 19 มกราคม 2566 ระหว่างเวลา 13.00-15.30 น. ศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม นำทัพเปิดให้บริการขบวนรถไฟทางไกล และปล่อยขบวนรถไฟเที่ยวปฐมฤกษ์ หลังจากที่การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้ปรับเปลี่ยนสถานีต้นทาง-ปลายทางของขบวนรถไฟทางไกล สายเหนือ ใต้ อีสาน ทั้งขบวนรถด่วนพิเศษ รถด่วน รถเร็ว จำนวน 52 ขบวน มาที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์

โดยจะมีจุดจำหน่ายตั๋วโดยสารเปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบ ณ บริเวณทางเข้าประตูที่ 4 และบริเวณจุดเชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีแดงและรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ชั้น G ซึ่งมีช่องจำหน่ายตั๋วให้บริการทั้งหมดกว่า 18 ช่อง รองรับการบริการให้กับผู้โดยสารอย่างทั่วถึง

สำหรับบริเวณจุดพักคอย เฉพาะผู้โดยสารที่มีตั๋วโดยสารรถไฟทางไกล สามารถรอขึ้นรถไฟทางไกลได้ภายในบริเวณโถงด้านล่างสถานี เพื่อรอขึ้นขบวนรถบนชานชาลา ก่อนเวลาขบวนรถออก 20 นาทีเมื่อขบวนรถจอดเทียบแล้ว อนุญาตให้ผู้โดยสารเข้าสู่บริเวณชานชาลาได้ ส่วนจุดให้บริการชานชาลาของรถไฟทางไกลของสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์จะอยู่ชั้นที่ 2 บริเวณประตู 4 มีจำนวน 12 ชานชาลา

โดยแบ่งออกเป็น 1.รองรับรถไฟทางไกล จำนวน 8 ชานชาลา คือ ชานชาลาที่ 1 และ 2 สำหรับรถไฟสายเหนือและสายตะวันออกเฉียงเหนือ (ขาออก) ชานชาลาที่ 5 และ 6 สำหรับรถไฟสายเหนือและสายตะวันออกเฉียงเหนือ (ขาเข้า) ชานชาลาที่ 7 และ 8 สำหรับรถไฟสายใต้ (ขาออก) ชานชาลาที่ 11 และ 12 สำหรับรถไฟสายใต้ (ขาเข้า) และ 2.รองรับระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดง จำนวน 4 ชานชาลา คือ ชานชาลาที่ 3 และ 4 สำหรับเส้นทางบางซื่อ-รังสิต ชานชาลาที่ 9 และ 10 สำหรับเส้นทางบางซื่อ-ตลิ่งชัน

ขณะเดียวกัน รฟท.ได้มีมาตรการอำนวยความสะดวกให้กับผู้โดยสารทุกคน จากการปรับเปลี่ยนสถานีต้นทางและปลายทางของขบวนรถไฟทางไกล สายเหนือ ใต้ และตะวันออกเฉียงเหนือ (อีสาน) จำนวน 52 ขบวน โดยผู้โดยสารที่เดินทางด้วยขบวนรถด่วนพิเศษ รถด่วน รถเร็ว รถธรรมดา และตั๋วเดือน สามารถใช้ตั๋วโดยสารเข้าใช้บริการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มภายในระยะเวลา 1 ปี

ส่วนผู้โดยสารที่ใช้บริการขบวนรถชานเมือง ก็สามารถใช้ตั๋วเดือนเข้าใช้บริการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม ทั้งนี้ รฟท.จะไม่มีการจำหน่ายตั๋วรถไฟทางไกลที่สถานีจตุจักร สถานีวัดเสมียนนารี สถานีบางเขน สถานีทุ่งสองห้อง สถานีหลักสี่ สถานีการเคหะ และสถานีหลักหก

ต้องยอมรับว่าที่ผ่านมาอาจจะมีเสียงคัดค้าน และไม่เห็นกับการย้ายรถไฟทางไกลจากเดิมที่สถานีหัวลำโพง มาที่สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ โดยให้เหตุผลว่าไม่มีความพร้อมในด้านการปฏิบัติการและให้บริการ​ แต่ฟากฝั่ง รฟท.ก็ยังยืนยันว่าการปรับเปลี่ยนในครั้งนี้ได้มีการพิจารณาอย่างถ้วนถี่และรอบคอบ พร้อมย้ำชัดเจนว่ายึดถือในประโยชน์ของประชาชนผู้ใช้บริการควบคู่กับการพัฒนาระบบการขนส่งทางรางของประเทศในระยะยาว ที่ในอนาคตจะพัฒนาพื้นที่โดยรอบสถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์ เป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์และเศรษฐกิจที่สำคัญของภูมิภาคอีกด้วย 

การผลักดันให้สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์เป็นฮับของภูมิภาคเป็นเรื่องที่ดีสำหรับประเทศไทย แต่สิ่งที่ยังขาดและ รฟท.ต้องเร่งดำเนินการคือการสร้างความเชื่อมั่นถึงการดำเนินงานที่โปร่งใส มีคุณธรรม ไร้ทุจริต. 

กัลยา ยืนยง

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

องค์กรต้องกล้าเปลี่ยนผ่าน

ท่ามกลางความผันผวนของเศรษฐกิจโลกและแรงกดดันด้านความยั่งยืนที่เข้มข้นขึ้น ทำให้ภาคธุรกิจต้องปรับตัวรองรับกับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ซึ่ง สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA)

แรงงานคืนถิ่น:ทางเลือกที่เป็นโอกาส

‘การเคลื่อนย้ายแรงงาน’ จากภูมิลำเนาเข้าสู่จังหวัดเศรษฐกิจเป็นปรากฏการณ์สำคัญที่ส่งผลต่อโครงสร้างเศรษฐกิจและสังคมของประเทศมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มคนทำงานตอนต้น ซึ่งเป็นกำลังแรงงานสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนา อย่างไรก็ตาม

ดันไทย-ญี่ปุ่นปักธงอุตสาหกรรม

ในภูมิทัศน์เศรษฐกิจโลกปัจจุบันที่ขับเคลื่อนด้วยการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีอย่างรวดเร็ว และเป้าหมายด้านความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อม ความสามารถของประเทศในการปรับตัวและสร้างพันธมิตรที่แข็งแกร่งในอุตสาหกรรมแห่งอนาคตถือเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง ประเทศไทยในฐานะฐานการผลิตหลักในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องยกระดับโครงสร้างอุตสาหกรรมไปสู่ยุคใหม่ที่เน้นมูลค่าสูงและมาตรฐานที่เข้มงวด

ถอดบทเรียนน้ำท่วมใหญ่ภาคใต้

จากเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ที่จังหวัดสงขลา สร้างความเสียหายเป็นวงกว้างทั้งพื้นที่เมืองและชนบท ส่งผลให้หลายหน่วยงานภาครัฐต้องเร่งวางมาตรการป้องกันอย่างเร่งด่วน ทั้งการฟื้นฟูถนน–สะพานที่ถูกตัดขาด การขุดลอกคูคลอง

เสริมสร้างธรรมาภิบาลองค์กร

ธรรมาภิบาลที่เข้มแข็งเป็นรากฐานสำคัญในการสร้างความไว้วางใจและดึงดูดการลงทุน ในช่วงเวลาที่นักลงทุนทั่วโลกให้ความสำคัญกับความยั่งยืนและความโปร่งใสมากขึ้น ท่ามกลางกระแสการตรวจสอบกรณีทุจริตทางธุรกิจที่เกิดขึ้นในหลายประเทศทั่วเอเชีย

ค้าปลีก-ร้านอาหารยังเติบโตในปี69?

เข้าสู่เดือนสุดท้ายของปี 2568 กันแล้ว แน่นอนว่าธุรกิจในปีหน้ายังคงมีโจทย์ท้าทายอีกหลายอย่างกำลังรออยู่ และตลอดปี 2568 นี้เอง ภาคธุรกิจต่างๆ ก็ไม่ง่าย! เพราะต้องเผชิญกับปัจจัยที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นตลอด