สหรัฐฯ เตรียมทำสงครามกับจีนจริงหรือ?
ถ้าจริง สงครามนั้นจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่และในสถานการณ์ใด?
ดูเหมือนนักยุทธศาสตร์ทางทหารของสหรัฐฯ จะกังวลเรื่องจีนบุกไต้หวัน ว่าอาจจะเป็นสาเหตุที่จะทำให้สองยักษ์ใหญ่เผชิญหน้ากันทางทหาร
แต่ที่เป็นข่าวเกรียวกราวเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาก็คือ “บันทึกภายใน” ของกองทัพอากาศสหรัฐฯ ที่ “รั่ว” ออกมาจนกลายเป็นเรื่องฮือฮากันไปทั่ว
เพราะในบันทึกฉบับนั้น นายพลระดับสูงของกองทัพอากาศสหรัฐฯ สั่งให้ลูกน้องเตรียมพร้อมทำสงครามกับจีน “ในอีก 2 ปีข้างหน้า...”
ในบันทึก พล.อ.อ.ไมค์ มินิฮาน หัวหน้ากองบัญชาการเคลื่อนย้ายทางอากาศของกองทัพอากาศสหรัฐฯ (US Air Force Air Mobility Command หรือ AMC) ได้ออกคำเตือนที่เป็นลางร้ายเกี่ยวกับความขัดแย้งระดับไฮเอนด์ในอนาคตที่จะเกิดขึ้นกับจีน ซึ่งน่าจะมีความรุนแรงบนเกาะไต้หวันเป็นต้นเหตุ
นายพลมะกันคนนี้แจ้งกับลูกน้องว่าหากสถานการณ์เช่นนั้นเกิดขึ้นจริง จะต้องเตรียมพร้อมสำหรับการตอบสนอง จึงสั่งให้ผู้ใต้บังคับบัญชาทั้งหลายทำทุกอย่างเพื่อให้แน่ใจว่า หน่วยงานของตนมีการเตรียมพร้อมมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้เพื่อสร้างสมศักยภาพนี้
และยังบอกให้บุคลากรฝึกยิงให้แม่นยำ แม่นขนาดที่ถือว่าเป็น "การยิงเป้าหมายโดยไม่มีความสำนึกผิด"
โดยนายพล Minihan กำชับให้ "เล็งไปที่หัว" เพื่อให้ได้ผลสูงสุด
เป็นภาษาของนายทหารสายเหยี่ยวที่ใช้ภาษาแบบทหารในสนามรบ ที่ต้องรักษาชีวิตตนเองด้วยการทำลายล้างศัตรูทุกวิถีทาง
หากเป็นการพูดจากันภายในโดยไม่มีเอกสารลายลักษณ์อักษรประกอบ หรือหากมีตัวหนังสือก็เก็บไว้สำหรับกลุ่มเล็กๆ ที่ควรรับรู้สารเฉพาะกิจเท่านั้น ก็คงจะไม่เป็นข่าวร้อนแรงเพียงนี้
แต่นี่เป็นลายลักษณ์อักษร และลงวันที่ล่วงหน้าเป็น 1 กุมภาพันธ์ 2023 (ทั้งๆ ที่เขียนประมาณวันที่ 26 มกราคม)
ถ้อยความที่ว่านี้ นายพล Minihan รวมอยู่ในบันทึกภายในยาว 2 หน้า และไปปรากฏบนโซเชียลมีเดีย
โฆษกของ Air Mobility Command (AMC) ยอมรับว่าเอกสารนี้เป็นของจริง หน่วยงาน AMC ของกองทัพอากาศดูแลเรือบรรทุกน้ำมันและเครื่องบินบรรทุกสินค้าจำนวนมากของกองทัพอากาศ และยังมีภารกิจความรับผิดชอบอื่นๆ อีกหลายอย่าง
นายพล Minihan เริ่มบันทึกฉบับนี้ด้วยการบอกว่า "ผมหวังว่าการประเมินสถานการณ์ของผมจะเป็นความคิดที่ผิดน่ะ...แต่มีอะไรบางอย่าง อาจจะเป็นสัญชาตญาณของผม บอกผมว่าเราอาจจะต้องทำการสู้รบในปี 2025...”
เหตุผลที่เขาอ้างว่าเป็นปัจจัยที่ทำให้เขาประเมินเช่นนั้นคือ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีนกำลังจะดำรงตำแหน่งสมัยที่สาม และได้ตั้งทีมงานที่เรียกว่า “สภาสงคราม" (War Council) เมื่อเดือนตุลาคม ปี 2022"
และด้วยภาษาที่โผงผางในคำเกริ่นนำ นายพลทหารอากาศคนนี้ก็โยงมาถึงการเลือกตั้งประธานาธิบดีของไต้หวันที่จะมีขึ้นในปี 2024 กับความกลัวเรื่องสงครามกับจีนของเขา
เขาบอกว่าการเลือกตั้งประธานาธิบดีไต้หวันอาจจะทำให้สี จิ้นผิง มีเหตุผลที่จะทำอะไรบางอย่างเกี่ยวกับไต้หวัน อีกทั้งนายพล Minihan ยังอ้างถึงการเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกาจะมีขึ้นในปี 2024 เช่นกัน ทำให้เขาสรุปว่า
“...ซึ่งจะทำให้อเมริกาเสียสมาธิ ขณะที่สี จิ้นผิง มีทีมงาน เหตุผล และโอกาสที่บรรจบมาสอดคล้องกันในปี 2025"
จังหวะเวลาและการเลือกตั้งที่ตรงกันของสหรัฐฯ กับไต้หวัน ประกอบกับการต่ออายุทางการเมืองของสี จิ้นผิง ทำให้นายพลทหารอากาศมะกันคนนี้นำมาประกอบเป็นสถานการณ์ ที่ทำให้เขาเชื่อว่าอาจจะเกิดสงครามระหว่างสหรัฐฯ กับจีนกรณีไต้หวัน
เขายังหวังว่าเขาคิดผิด คิดมากไป และคิดเกินเหตุ
แต่ในฐานะผู้บัญชาการทหารคนหนึ่ง นายพล Minihan ถือเป็นหน้าที่ที่จะต้องวาด “ฉากทัศน์” เลวร้ายสุด (worst-case scenario) เพื่อให้หน่วยงานของเขาเตรียมพร้อมสำหรับเหตุการณ์อันไม่พึงประสงค์นั้น ฟังดูแล้วน่ากลัว เพราะการประเมินเช่นนั้นย่อมจะทำให้รัฐบาลและพรรคคอมมิวนิสต์จีนที่ปักกิ่งเพิ่มความระแวงคลางแคลงที่มีอยู่แล้ว จนเกิดความเชื่อจริงๆ ว่าวอชิงตันคิดจะรบกับจีนอย่างเต็มที่
นั่นยิ่งทำให้จีนต้องเตรียมการกองทัพของตนเพื่อทำสงครามกับสหรัฐฯ พร้อมๆ กับแผนการ “รวมชาติ” กับไต้หวัน
สี จิ้นผิง กล่าวในหลายๆ โอกาสว่า จะพยายามรวมชาติกับไต้หวันด้วยวิธีการสันติจนถึงที่สุด
แต่ก็สงวนสิทธิ์ที่จะใช้กำลังเพื่อบรรลุเป้าหมายนั้น หากไต้หวันประกาศแยกตัวเป็นเอกราชจากจีน เพราะจีนไม่อาจจะยอมรับการประกาศเป็นอิสระของไต้หวันได้เป็นอันขาด
ปักกิ่งแจ้งกับวอชิงตันตลอดเวลาว่า เรื่องไต้หวันเป็นกิจการภายในของจีน และความพยายามใดๆ ของสหรัฐฯ ที่จะส่งเสริมแสนยานุภาพทางทหารของไต้หวัน หรือมีปฏิสัมพันธ์กับไต้หวันทางการเมือง, เศรษฐกิจ และความมั่นคงนั้นถือว่าเป็นการ “แทรกแซงกิจการภายใน” ของจีน
ในแง่ของสหรัฐฯ นั้น แม้จะยอมรับนโยบาย “จีนเดียว” มาตั้งแต่สถาปนาความสัมพันธ์กับปักกิ่งในปี 1979 แต่ก็สงวนสิทธิ์ของการสนับสนุนไต้หวันให้มีศักยภาพที่จะป้องกันตนเองจากการถูกรุกราน
ความสัมพันธ์สามเส้าของจีน, สหรัฐฯ และไต้หวัน จึงเป็นหอกข้างแคร่ในความสัมพันธ์ของสองยักษ์ใหญ่มาตลอด
และหนึ่งในจุด “พร้อมปะทุ” หรือ flashpoint ของโลกก็คือ ช่องแคบไต้หวัน นี่แหละ
ความจริงในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ทหารระดับสูงของสหรัฐฯ จากกองทัพอากาศและหน่วยงานอื่นๆ ได้เตือนว่ากองทัพปลดแอกประชาชนจีน (PLA) อาจอยู่ในจุดที่รู้สึกมั่นใจมากพอที่จะเริ่มดำเนินการเรื่องยึดคืนไต้หวันภายในปี 2027
และในหลายๆ ครั้ง เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ บางหน่วยงานก็วิเคราะห์ว่า PLA อาจบรรลุจุดความพร้อมนี้เร็วกว่ากรอบเวลานี้ก็ได้
ดังนั้น ภายในกลไกด้านความมั่นคงของสหรัฐฯ จึงมีการส่งสัญญาณให้กองทัพต้องเตรียมพร้อมสำหรับเหตุการณ์ฉุกเฉินเช่นนี้ตลอดเวลาเช่นกัน
นายพล Minihan ระบุในบันทึกภายในฉบับนี้ว่า “เราใช้เวลาปี 2022 ในการวางรากฐานสำหรับชัยชนะ” เขากล่าวเสริม "เราจะใช้เวลาในปี 2023 สร้างกิจกรรมในการปฏิบัติการที่คล่องแคล่วบนรากฐานความพร้อมนั้น"
แต่เขาย้ำว่า หน่วยงานของเขาคือ AMC จำเป็นต้อง "ดำเนินการให้เร็วขึ้น" ซึ่งหมายถึงต้องเร่งฝีเท้าขึ้นมากกว่าแผนเดิมอีก
นายพลทหารอากาศคนนี้บอกด้วยว่า บันทึกนี้จะเป็นคำสั่งรายเดือนชุดแรก โดยจะมีตามมาอีกรวมแล้วอย่างน้อย 8 คำสั่ง
เป้าหมายก็เพื่อ "ขับเคลื่อนความพร้อม การบูรณาการ และความปราดเปรียวของหน่วยรบของเราและกองกำลังร่วมเพื่อยับยั้ง และหากจำเป็นให้เอาชนะจีน”.
(พรุ่งนี้: วิเคราะห์โอกาสสงครามสหรัฐฯ-จีน)
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
แชร์สนั่นโซเชียล ลุกโชนเป็นไฟลามทุ่ง! ‘อนุทิน’ บุกเพจ ‘สุทธิชัย’ แจงกรณีคุยกับ ‘ทรัมป์’
ภายหลัง เพจ Suthichai Yoon โพสต์ข้อความว่า‘ทรัมป์‘ ให้สัมภาษณ์ Wall Street Journal ว่าเขาได้ใช้ tariff กดดันให้ไทยกับกัมพูชายุติการสู้รบ!
มีแม้วไม่มีเรา! วัดใจจุดยืน 'พรรคส้ม' หลังทักษิณขีดเส้นแบ่งข้างทุกเวทีแล้ว
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า "พรรคส้มกล้าไหม? มีแม้วไม่มีเรา!
ประเทศเดียวในโลก ‘นายกฯทับซ้อน’ มหันตภัยปี 2568
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่าสำนักวิจัยต่าง ๆ กำลังวิเคราะห์เพื่อพยากรณ์ว่าประเทศไทยจะต้องเผชิญกับความท้าทายสาหัสอะไรบ้างใน
‘หยุ่น’ ฟันเปรี้ยงรอดยาก! ชั้น 14 ดิ้นอย่างไรก็ไม่หลุด
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า เรื่องชั้น 14 จะดิ้นอย่างไรก็หลุดยาก จึงเห็นการเฉไฉ, ตีหน้าตาย
บิ๊กเซอร์ไพรส์ 'สุทธิชัย หยุ่น' เล่นซีรีส์ 'The White Lotus ซีซั่น 3'
เรียกว่าสร้างความเซอร์ไพรส์อย่างต่อเนื่อง สำหรับซีรีส์ The White Lotus ซีซั่น 3 ซึ่งจะสตรีมผ่าน Max ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2025 เพราะนอกจากจะมี ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล หรือ ลิซ่า BLACKPINK ไอดอลเกาหลีสัญชาติไทย ที่กระโดดลงมาชิมลางงานแสดงเป็นครั้งแรก ในบทของ มุก สาวพนักงานโรงแรม
ถามแสกหน้า 'ทักษิณ' จะพลิกเศรษฐกิจไทยยังไง ทุกซอกมุมในสังคมยังเต็มไปด้วยทุจริตโกงกิน
นายสุทธิชัย หยุ่น นักวิเคราะห์ข่าวและผู้ดำเนินรายการข่าวชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า “เขาจะพลิกประเทศไทยให้เศรษฐกิจล้ำโลกได้หรือ


