สหรัฐฯ เตรียมความพร้อมเพื่อรบกับจีนในอีก 2 ปีข้างหน้าจริงหรือ?
นั่นเป็น “คำคาดเดา” ของนายทหารในกองทัพอากาศของสหรัฐฯ ที่เขียนไว้ในบันทึกภายในที่เกิด “รั่ว” ออกมาในสื่อของสหรัฐฯ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
สร้างความฮือฮาอย่างกว้างขวาง
ไม่เพียงแต่ในแวดวงตะวันตกเท่านั้น แต่ผมเชื่อว่าข่าวชิ้นนี้รวมถึงรายละเอียดทั้งหมดกำลังถูกวิเคราะห์อย่างละเอียดในหมู่นายพลจีนอย่างเร่งด่วนด้วยอย่างแน่นอน
ภาพนี้คือนายพล General Michael Minihan กำลังเตรียมการบินเครื่องบิน “ซูเปอร์เฮอร์คิวเลส C-130” ในฐานะเป็นผู้บัญชาการของหน่วย Air Mobility Command (AMC) หรือศูนย์บัญชาการเคลื่อนที่ทางอากาศของกองทัพอากาศสหรัฐฯ
ความจริงหากเป็นการออกคำสั่งให้เตรียมพร้อมเป็นการภายในก็อาจจะไม่สร้างความตื่นเต้นมากนัก เพราะทุกหน่วยรบไม่ว่าของประเทศไหนก็ต้องมีการเตรียมการเผื่อ “ฉากทัศน์” ที่เลวร้ายที่สุดทั้งนั้น
แต่เมื่อเป็นการเขียนเป็นลายลักษณ์อักษรด้วยภาษาที่ค่อนข้างจะดุดัน ก็ส่งกระแสความระทึกขวัญไปได้กว้างไกลพอสมควร
บางส่วนของบันทึก นายพล Minihan ระบุว่า "เราเดินหน้าอย่างมุ่งมั่นตั้งใจ ไม่ประมาท"
และก็ยังเน้นว่า "คุณจะถูกควบคุมโดยหลักการของการคำนวณความเสี่ยงในการฝึก ซึ่งคุณจะต้องตีความว่าหมายถึงการหลีกเลี่ยงการเสียชีวิต การบาดเจ็บสาหัส และความเสียหายระดับ A เพื่อให้มีความพร้อม การผสานรวม และความว่องไวที่สูงขึ้น"
เป็นภาษากำชับหนักแน่นของครูฝึกทหารที่น่าจะเป็นเรื่องปกติ...หากไม่ถูกตีความว่าเนื้อหาเช่นนี้กำลังจะส่งสัญญาณอะไรไปยังปักกิ่ง
"สถานะสุดท้าย" หรือ “จุดสุดยอด” ที่ผู้บัญชาการ AMC กล่าวว่า เขากำลังแสวงหาให้ได้คือ "ทีมซ้อมรบร่วมที่มีการป้องกัน เตรียมพร้อม ผสานรวม และว่องไว พร้อมที่จะต่อสู้และคว้าชัยชนะในห่วงโซ่เกาะแนวแรก"
พื้นที่ภายใน "กลุ่มเกาะกลุ่มแรก" หมายถึงพื้นที่ระหว่างแผ่นดินใหญ่ของเอเชียตะวันออกกับเขตแดนที่เกิดจากหมู่เกาะต่างๆ ทางตะวันออก
พื้นที่ทั่วไปที่ครอบคลุมโดยคำว่า "หมู่เกาะกลุ่มที่หนึ่ง" เช่นเดียวกับของ "ห่วงโซ่เกาะแนวที่สอง" ที่อยู่ห่างออกไปในมหาสมุทรแปซิฟิก
ส่วนหลังของบันทึกเป็นการสรุปงานที่จะเสร็จสิ้นในเดือนกุมภาพันธ์ เช่นเดียวกับงานที่คาดว่าจะเสร็จสิ้นในเดือนมีนาคมและเมษายนของปีนี้
"หัวหน้าหน่วยทุกคนที่รับทราบคำสั่งนี้ต้องรายงานตรงถึงผมทันที" ภายในสิ้นเดือนหน้า
นอกจากนั้น ในบันทึกนั้นยังระบุว่า "บุคลากรของ AMC ทุกคนที่มีคุณสมบัติด้านอาวุธจะยิงคลิปไปที่เป้าหมาย 7 เมตร ด้วยความเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่าการยิงโดยไม่สำนึกผิดนั้นสำคัญที่สุด เล็งไปที่ศีรษะ"
“การยิงโดยไม่สำนึกผิด” หรือ Unrepentent lethality นั้นเป็นภาษาหัวหน้าหน่วยรบที่ดุดันจริงๆ
แปลว่าจะต้องยิงแม่น และต้องทำลายเป้าหมายอย่างไร้ความลังเล
ทำให้ผมคิดถึงคำสั่งของนายพลสหรัฐฯ ในสงครามโลกครั้งที่สอง George Patten ที่สั่งทหารว่า
“No dumb bastard ever won a war by going out and dying for his country. He won it by making some other dumb bastard die for his country."
“ไม่มีไอ้งั่งที่ไหนที่ชนะสงครามด้วยการออกรบและตายเพื่อประเทศของตนเอง ทหารชนะสงครามด้วยการทำให้ไอ้งั่งคนอื่นตายเพื่อประเทศของตนเอง...”
ในกรณีของนายพล Minihan นั้นเป็นการใช้ภาษาดุเดือดในทำนองเดียวกัน
เป็นการออกคำสั่งแบบก้าวร้าวอย่างชัดเจน
เพราะสำหรับนักรบแล้ว “การเล็งไปที่หัว” ของศัตรูไม่ใช่คำแนะนำทั่วไปสำหรับการฝึกอาวุธขนาดเล็กทั่วไป
การยิงที่ตรงกลางเป้าหมายย่อมมีความน่าเชื่อถือมากกว่า
พล.อ.ไมค์ มินิฮาน ผู้บัญชาการ AMC ท่านนี้เคยพูดไว้อย่างโผงผางว่า
“ผมไม่สนใจที่จะเป็นกองทัพอากาศที่ดีที่สุดในโลก” เขากล่าวในถ้อยแถลงที่รวมไว้ในเรื่องราวของกองบินเคลื่อนที่ทางอากาศที่ 60 เมื่อเร็วๆ นี้ เกี่ยวกับการฝึกบุคลากรด้วยเครื่องบินขับไล่ M4
"ผมสนใจที่จะเป็นพลังทำลายล้างมากที่สุดเท่าที่โลกเคยรู้จัก"
บันทึกภายในฉบับนี้หากไม่ได้รับการเผยแพร่ออกมา ก็คงมีเป้าหมายในการที่จะผลักดันเรื่องการของบประมาณสำหรับหน่วยงานของตนในปีสองปีข้างหน้า
จะว่าไปแล้ว นายพล Minihan ก็ไม่ใช่เป็นนายทหารคนเดียวในกองทัพสหรัฐฯ ที่เรียกร้องให้มีการเตรียมการให้กองทัพพร้อมในการตั้งรับ ในกรณีที่จีนตัดสินใจจะลุยเกาะไต้หวันโดยไม่ส่งสัญญาณล่วงหน้า
พอมีข่าวเรื่องนี้ก็ทำให้ผมมองเห็น “จุดพร้อมปะทุ” ในโลกที่น่ากังวลมากขึ้นอีก
นอกจากสมรภูมิยูเครนที่ยังร้อนระอุ และพร้อมจะขยายวงของสงครามกลายเป็นสงครามระดับทวีปยุโรป และนำไปสู่สงครามโลกครั้งที่สามได้แล้ว ก็ยังมี flashpoints หรือ “จุดวาบไฟ” อื่นๆ อีกหลายจุด เช่น
คาบสมุทรเกาหลี
อิหร่าน-อิสราเอล
อิสราเอล-ปาเลนไตน์
ไต้หวัน
ทะเลจีนใต้
และจุดพร้อมระเบิดเช่นชายแดนจีนกับอินเดีย ที่ดูเหมือนจะคุกรุ่นและพร้อมตูมตามออกมาสร้างความสะเทือนเลื่อนลั่นในเวทีระหว่างประเทศตลอดเวลา
แต่ก่อนเราสนใจเรื่องการเมือง, เศรษฐกิจ, สังคมและความมั่นคง
วันนี้ที่กลายเป็นเรื่องที่มองข้ามไม่ได้คือ
ความขัดแย้งภูมิรัฐศาสตร์ หรือ Geopolitics ที่สามารถทำให้โลกปั่นป่วนวุ่นวายคู่ขนานกับโรคระบาดที่อาจจะกลับมาหลอกหลอนชาวโลกเมื่อไหร่ก็ได้
ไม่ต้องพูดถึงวิกฤตโลกอันเกิดจาก Global Warming หรือโรคร้อนที่แสดงอาการให้เราได้ประสบอยู่ทุกวี่วันขณะนี้อีกอย่างหนึ่งเช่นกัน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
Open AI GPT-4 จะ ทำให้ใครตกงานบ้าง?
ถ้า “ปัญญาประดิษฐ์” หรือ AI ฉลาดขึ้นไปเรื่อยๆ อย่างที่ผู้คนเริ่มพูดถึง Chat-GPT รุ่นปรับปรุงใหม่ คนอาชีพอะไรจะตกงานบ้าง?
ศาลอาญาโลกจะจับปูตินได้หรือไม่?
มีคำถามว่าเมื่อศาลอาญาระหว่างประเทศออกหมายจับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย ฐานก่ออาชญากรรมสงครามแล้ว, ในทางปฏิบัติศาลนานาชาติแห่งนี้จะสามารถเอาตัวปูตินมาขึ้นศาลได้หรือไม่
เมื่อมะกัน-อังกฤษ-ออสซี่ เสริมกำลัง แถวบ้านเราก็เริ่มกังวล
ทันทีที่อเมริกา, อังกฤษ และออสเตรเลีย ประกาศแผนร่วมมือสร้างกองเรือดำน้ำนิวเคลียร์ให้ออสเตรเลียภายใต้ AUKUS มาเลเซียก็ออกแถลงการณ์ส่งสัญญาณเตือนภัยทันที
เมื่อจีนผงาดขึ้นเป็นผู้ไกล่เกลี่ยสันติภาพตะวันออกกลาง
ขณะที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ไปเล่นบทผู้แสวงหาสันติภาพที่มอสโกอยู่ขณะนี้ ก็ต้องหันไปดูบทบาทจีนที่ทำให้อิหร่านกับซาอุดีอาระเบียกลับมาสานสัมพันธ์กันอีกครั้งเมื่อต้นเดือนนี้เป็นตัวอย่างชัดเจน
ที่มอสโก: สี จิ้นผิงจะ ชวนปูตินคุยอะไร?
ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง บินถึงมอสโกเมื่อวานนี้...เตรียมจะคุยกับ “สหายรัก” วลาดิเมียร์ ปูตินในภาวะโลกกำลังจับตาอย่างใกล้ชิด
สี จิ้นผิง เยือนมอสโกวันนี้ขณะ ศาลโลกออกหมายจับปูติน!
วันนี้สงครามยูเครนเข้าสู่วันที่ 390 มีเรื่องร้อนๆ ที่เกิดขึ้นในไม่กี่วันที่ผ่านมา ที่ล้วนแล้วแต่ส่งสัญญาณไปในทางที่สร้างความตึงเครียดเพิ่มขึ้นในระดับโลก