ผลของเสาร์จร(7)ย้ายจากมังกรเข้ากุมภ์ต่อคนทุกลัคนาราศี(ตอนที่ 3)

6.ท่านที่ลัคนาสถิตราศีกรกฎ-สองปีครึ่งของการรับมือการเจ็บไข้ได้ป่วย-พลัดพรากของคนในครอบครัวรวมทั้ง ฟืนไฟ ด้านดีอาจได้มรดก

เป็นหนึ่งลัคนาราศีที่ต้องพูดยาวเพื่อเตรียมรับมืออาการร้ายของพระเสาร์จรครั้งนี้มากกว่าดี

คือตั้งแต่1มีนาคม 2563เป็นต้นมาแล้ว พวกท่านดวงชะตาแตกเรื่องคู่ครอง หรือหุ้นส่วนชีวิต สูญเสียพ่อแม่ราวกับชีวิตถูกผ่าเป็นสองซีกที่เป็นมาประมาณสองปีครึ่งตั้งแต่การมาของโควิด-19

แล้วเริ่มเข้าสู่ปรากฎการณ์ใหม่และใหญ่ของชีวิต คือตั้งแต่มีนาคม2566 เป็นต้นไปถึง 14 กุภาพันธ์ 2569 ระวังฟืนไฟ และเสียเงินรับมือการเจ็บไข้ได้ป่วยไม่ของท่านเอง ก็อาจจะเป็นคู่ครองหรือบรรดาหุ้นส่วนชีวิตทั้งหลายเน้นไปที่พ่อหรือแม่และลูกๆหรือเด็กๆในดูแล หรือแฟน ซึ่งอาจจะมีเรื่องให้เศร้าหรือกระทบกระเทือนอารมณ์จากการสูญเสียไม่มีความสุขในครอบครัวตามโฉลก…เกรงชีวา มรณา ให้เกรงไฟ…(พระเสาร์จร7เดินในราศีกุมภ์-ภพมรณะ)

หรือบางท่านโดนเรื่องภาษีหรือยุ่งยากเรื่องมรดก

อีกอาการที่ต้องระวังคือเซ็ง หรือเบื่อหน่ายการงาน-นาย หรือเสียงาน เสียเกียรติยศ ชื่อเสียง

ส่วนด้านดีที่มีไม่มาก โดยหลายท่านอาจมีระยะจะโชคดีจากการได้มรดก หรือได้คืนภาษีหรือได้ของเก่า หรือบำนาญหรือประกันภัยหรือประกันชีวิต(พระเสาร์เป็นศรีจร-หรือมีดาวมิตรรองรับอิทธิพลของพระเสาร์จร) เช่นขายของเก่าค้างสล๊อคล้างหนี้ได้ทั้งหมดก็มี

คงจะไม่มีตัวอย่างใดที่พระเสาร์จร(7)เข้าเดินในภพมรณะที่จะเป็นตัวอย่างให้พวกท่านเตรียมการรับมือได้ดีเท่ากับปรากฎการณ์ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาพานพบมาตั้งแต่การอุบัติของโควิด-19 เพราะทั้งๆที่เป็นประเทศเบอร์หนึ่งของโลกในการรับมือโรคอุบัติใหม่ ครั้นเจอฤทธิ์พระเสาร์จรมุมนี้เข้าคนเจ็บและตายจากโควิด-19สูงที่สุดในโลก รวมทั้งกระทบการบริหาร(งาน)ของประเทศคือเปลี่ยนประธานาธิบดีเลยทีเดียว จนบางพวกรับไม่ได้(เบื่อ-โกรธ)ถึงขนาดบุกอาคารรัฐสภาหลังเลือกตั้ง

ฉะนั้นโปรดเตรียมเงิน และอารมณ์ไว้เพื่อรับมือเมื่อเกิดเหตุร้ายอาการใดอาการหนึ่งที่จะเกิดขึ้นที่ไม่จำเป็นต้องเกิดทั้งหมด เพราะเมื่อเกิดแล้วจะได้ไม่จิตตกมาก

 อย่างไรก็ตามปรากฎการณ์ร้ายจะไม่เกิดตลอดระยะเวลาสองปีครึ่งนี้  อีกทั้งยังมีอิทธิพลดาวอื่นๆที่ร่วมให้คุณ(และโทษ)และคานอำนาจของพระเสาร์จรได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งพฤหัสบดีจรที่จะได้เขียนถึงต่อไป

7.ท่านที่ลัคนาสถิตราศีสิงห์-ดวงชะตาแตกหรือช้ำหรือพินทุบาทว์ ชีวิตเหมือนถูกแบ่ง-ผ่าเป็นสองซีกคล้ายคนอกแตกและเป็นอีกหนึ่งลัคนาราศีที่ต้องอธิบายกันยาวๆ

ย้อนกลับไปตั้งแต่มีนาคม 2563มาแล้วที่พวกท่านพากันได้อะไรดีๆจากต่อสู้ปัญหาหรืออุปสรรคหรือหนี้สินหรือสุขภาพอนามัยการเจ็บไข้ได้ป่วยเช่นเจรจาลดต้น-ดอกกับสถาบันการเงินได้ หรือได้ทุนเรียนต่อที่เป็นหนี้ดีก้อนใหญ่ หรือป่วยประกันก็จ่ายอะไรทำนองนี้ ตามโฉลก…ได้ลาภใหญ่ก็ต้องใจอันสำราญ…

ครั้นตั้งแต่1มีนาคม 2566 เป็นต้นไป ถือว่าพวกท่านหมดโปรโมชั่นที่ได้จากพระเสาร์จรมาสองปีครึ่งแล้ว เข้าสู่ปรากฎการณ์ใหม่ดวงชะตาแตก ชีวิตเหมือนถูกแบ่งเป็นสองซีกคล้ายคนอกแตก (พระเสาร์จร7เล็งลัคนา)ซึ่งเป็นระยะที่จะทำให้ทุกข์พอๆกับหินใหญ่ทับตัว  หรือ….อาภัพอัปภาคย์ให้โทษแท้ประเหิรหิน….เลยทีเดียว

อาการแรก ที่มีโอกาสก่อตัวและจะค่อยๆเกิดคือ กินไม่ได้นอนไม่หลับ เพราะบริวารทั้งหลายเหล่านั้นในชีวิตของพวกท่านเช่นลูกน้อง คนใช้ สมาชิกในครอบครัว คนในบ้าน สิ่งของเครื่องใช้มือถือ- รถยนต์ ฯลฯเสียหายกระจัดกระจายไปคนละทาง…ถอยอาหาร บริวารจะจากไป… พบบางท่านเคยมีลูกน้องเกินร้อยเหลืออยู่คนเดียวก็มี

อาการที่สองระวังคู่ครอง ที่อาจจะจะเจ็บไข้ได้ป่วย แตกแยกในครอบครัวของคู่ครอง หรือหย่าร้างกันเอง กระทบทางชีวิต หรือสถานการณ์ในบ้าน  มีบ้างที่ออกมาด้านดีคือเจอคู่ที่อายุแตกต่างกันมาก หรือหม้าย

อาการที่สามระวังหุ้นส่วนชีวิตทั้งหลายที่มีแนวโน้มเกิดปัญหาปะทะหรือฟ้องกัน เช่นพ่อแม่ฟ้องกันกระทบเจ้าชะตา  หรือพี่น้องฟ้องกันเองเรื่องที่ดินหรือบรรดาหุ้นส่วนพรรคการเมืองที่สังกัดอยู่พรรคเดียวกันแตกระเจิงพลัดพรากไปคนละทิศละทาง หรือแยกทางกับหุ้นส่วนที่ทำธุรกิจกันมา แต่หากจังหวะออกแนวดีมีที่ได้ทำสัญญาหรือร่วมทุนกิจการขนาดใหญ่

ถ้าจะพอยกตัวอย่างให้เห็นสำหรับสิ่งที่เคยเกิดกับดวงชะตาเมืองรัตนโกสินทร์ที่เคยคล้ายเมืองอกแตกถูกแบ่งเป็นสองซีกคือเมื่อคราวกปปส.-สู้กันระหว่างเหลืองกับแดง ประเด็นคือต่อมาชาวเมืองก็ยังอยู่กันได้

 ทั้งนี้เพราะยังมีดาวอื่นๆอีกหลายดวงที่จะให้คุณ-โทษกับทุกดวงชะตา สำคัญคือช่วยคานอำนาจของพระเสาร์จรหัวหน้าดาวร้าย   โดยเฉพาะอย่างยิ่งพฤหัสบดีจรที่เปรียบได้กับหัวหน้าเทวดาประจำตัวของทุกดวงชะตา

ที่เมื่อถึงวาระจะได้เขียนถึงต่อไป

(ยังมีต่อ)