ครบรอบ 1 ปีสงครามยูเครน สมาชิกสหประชาชาติลงมติอีกครั้งเพื่อเรียกร้องให้รัสเซียถอนตัวออกจากยูเครน
เสียงที่เห็นด้วยคือ 141 ต่อเสียงค้าน 7 เสียงที่ “งดออกเสียง” อยู่ที่ 32 ชาติ
ที่น่าสนใจสำหรับคนไทยคือ รัฐบาลไทยตัดสินใจลงคะแนนสนับสนุนข้อมตินี้
ลงมติทางเดียวกับเพื่อนอาเซียนอีก 7 ประเทศคือ อินโดนีเซีย, มาเลเซีย, ฟิลิปปินส์, บรูไน, สิงคโปร์, กัมพูชาและเมียนมา
ที่เมียนมาลงมติอย่างนี้ทั้งที่รัฐบาลทหารพม่าใกล้ชิดกับรัสเซีย ก็เพราะผู้แทนของพม่าประจำสหประชาชาติยังเป็นนักการทูตคนเดิมคือ Kyaw Moe Tun ที่ตั้งโดยรัฐบาลพลเรือนของอองซาน ซูจี
เพราะคณะกรรมการสหประชาชาติที่รับผิดชอบเรื่องพิจารณาตัวแทนของแต่ละประเทศในยูเอ็นยังไม่ได้พิจารณาชื่อทูตพม่าคนใหม่ที่รัฐบาลของมิน อ่อง หล่าย เสนอมา
ส่วนเวียดนามและลาวตัดสินใจงดออกเสียง คงเพราะ “เกรงใจรัสเซีย” อันเป็นแนวเดียวกับจีนและอินเดียที่งดออกเสียงเช่นกัน
ส่วน 7 ประเทศที่ลงมติยืนเคียงข้างรัสเซียอย่างเต็มที่นั้น เป็นกลุ่มประเทศที่รู้ๆ กันอยู่ว่าเป็นสหายสนิทของมอสโก
นั่นคือ เกาหลีเหนือ, ซีเรีย, เบลารุส, มาลี, นิการากัว และเอริเทรีย
ไทยเรากลับมายกมือสนับสนุนข้อมติครั้งนี้แตกต่างไปจากคราวที่แล้วที่ “งดออกเสียง”
คราวนั้นเป็นญัตติประเด็นเรื่อง “บูรณภาพแห่งดินแดน” ซึ่งได้รับการอธิบายจากกระทรวงต่างประเทศว่า เพราะเราไม่ต้องการกดดันรัสเซียจนปิดโอกาสการหาทางออกจากวิกฤต
คราวนั้นไทยเราเป็นเสียงส่วนน้อยในบรรดาสมาชิกอาเซียนที่ตัดสินใจลงมติเช่นนั้น
ครั้งนี้ไทยกลับมาโหวตเหมือนเพื่อนๆ ส่วนใหญ่ในอาเซียน
ซึ่งก็อาจจะทำให้คนที่เคยวิพากษ์กระทรวงต่างประเทศในการลงมติคราวที่แล้วเริ่มเห็นว่ารัฐบาลไทยกลับมายืน ณ จุดที่ตอบคำถามของประชาคมโลกได้ดีกว่าครั้งก่อน
กระทรวงต่างประเทศไทยออกรายงานในเรื่องนี้ว่าอย่างนี้
ไทยลงมติสนับสนุนข้อมติล่าสุดของที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติ เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2566 ที่เรียกร้องให้มีการยุติสงครามในยูเครนทันที เพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่จะครบ 1 ปีของการบุกยูเครนโดยรัสเซีย ซึ่งมี 141 ชาติสมาชิกให้การสนับสนุน คัดค้าน 7 ประเทศ และงดออกเสียงอีก 32 ประเทศ
ก่อนการลงคะแนน นายสุริยา จินดาวงษ์ เอกอัครราชทูตและผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ได้กล่าวคำอธิบายถึงเหตุผลในการลงคะแนนของไทย ก่อนการประชุมฉุกเฉินสมัยพิเศษ ครั้งที่ 11 ณ สำนักงานใหญ่ของสหประชาชาติในนครนิวยอร์ก โดย “มติชน” ได้แปลถ้อยแถลงดังกล่าวที่มีรายละเอียดดังนี้
1.ประเทศไทยยืนหยัดแน่วแน่ต่อกฎบัตรสหประชาชาติ ทั้งในตัวอักษรและในจิตวิญญาณ รวมถึงกฎหมายระหว่างประเทศ ว่าเป็นสิ่งที่ต้องยึดมั่นในหลักปฏิบัติอันเป็นมาตรฐานของนานาอารยประเทศ
2.ไทยยึดมั่นในสิทธิของประชาชนต่อการดำรงชีวิตอย่างปลอดภัยว่าเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานอันเป็นสากลและไม่อาจต่อรองได้ ข้อพิจารณาในมนุษยธรรมจะต้องไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองหรือการเลือกปฏิบัติ
3.เราขอเรียกร้องให้สหประชาชาติดำเนินความพยายามในเรื่องการทูตเชิงป้องกันอย่างเต็มที่และทำให้ดีที่สุด เพื่อปกป้องพื้นฐานด้านสิทธิมนุษยชนทั่วโลก และไม่ปล่อยให้มันเป็นส่วนหนึ่งของละครเกี่ยวกับศีลธรรมที่เปลี่ยนสถานการณ์อันซับซ้อนอย่างยิ่ง ให้กลายเป็นเพียงเรื่องของความดีและความชั่ว ตามด้วยการชี้นิ้วและการประณาม
4.ควรต้องมีการใช้ความพยายามอย่างถึงที่สุด เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการมีปฏิสัมพันธ์และการเจรจาพูดคุยเพื่อยุติข้อพิพาท เพราะเมื่อมันปะทุขึ้นแล้ว เราจะต้องไม่เติมน้ำมันเข้าไปในกองไฟ ความพยายามทั้งหมดของสหประชาชาติควรมุ่งเน้นไปที่ “การไม่กระทำให้เกิดอันตราย” ดังคำปฏิญาณของฮิปโปเครตีส
5.ในวันครบรอบ 1 ปีของสงครามยูเครน เราเรียกร้องให้ชาติสมาชิกขององค์กรอันทรงเกียรตินี้ทำสิ่งที่ถูกต้องต่อโลกโดยรวม และเพื่อคนกว่า 8 พันล้านคน ที่เป็นเพียงผู้ไม่มีส่วนรับรู้ต่อเรื่องราวที่เกิดขึ้น แต่ต้องแบกรับผลกระทบจากสงครามในหนทางที่ต่างกันไป เพื่อให้กระบวนการสันติภาพได้เริ่มต้น เราต้องพยายามที่จะเข้าใจถึงต้นตอของความขัดแย้ง บนพื้นฐานของความเป็นจริงและไม่มองอย่างคับแคบ และหลีกเลี่ยงความคิดเห็นเพียงในเชิงอำนาจและศีลธรรม
โลกนี้กว้างใหญ่และอุดมสมบูรณ์เพียงพอสำหรับประเทศที่มีอุดมการณ์และรูปแบบการเมืองการปกครองที่หลากหลายจะสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติ ถ้าเราเรียนรู้ที่จะเคารพความแตกต่างและสถานภาพในการดำรงอยู่
6.อาวุธที่เพิ่มขึ้นจะทำให้การต่อสู้ยิ่งรุนแรงขึ้น ยิ่งการต่อสู้ย่ำแย่ลง ผู้คนก็ทุกข์ทรมานมากขึ้นเท่านั้น การคว่ำบาตรที่เพิ่มขึ้นก็จะยิ่งทำให้ความเจ็บปวดของผู้คนรุนแรงขึ้น และมันไม่เคยนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครอง การประณามก็มิได้ส่งผลในการสร้างน้ำหนักเชิงบวกต่อการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและการปฏิบัติ
7.ไทยเรียกร้องให้ทุกฝ่ายยกระดับความพยายามทางการทูต เพื่อให้เกิดการเจรจาที่จะนำไปสู่ทางออกสำหรับความขัดแย้งในยูเครน สงครามในยูเครนเป็นความท้าทายที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และยังเป็นอันตรายอย่างที่สุดที่ส่งผลคุกคามต่อภูมิรัฐศาสตร์ การเงินการคลัง เศรษฐกิจ ความมั่นคง และต่อสมดุลของโลกในภาพรวม
8.มีการกล่าวกันว่า จริงๆ แล้วการทูตก็คือการต่อยอดให้สงครามยืดเยื้อต่อไปในอีกรูปแบบหนึ่ง สงครามไม่อาจยุติลงได้ด้วยการส่งมอบอาวุธที่ร้ายแรงยิ่งกว่า มันจะไม่ยุติลง เว้นแต่ว่าจะเป็นการทำลายล้างและการล้มตายของผู้คนทั้งหมด ซึ่งเป็นเพียงจุดประสงค์และตัวเลือกเดียวเท่านั้นที่มีอยู่ สงครามสามารถยุติลงได้จากการหาข้อตกลงและการเจรจา ด้วยการยึดแนวทางที่ทำให้เกิดผลขึ้นได้จริงในทางปฏิบัติ ไม่ใช่เพียงแค่แนวคิดในเชิงอุดมคติ และไม่ใช่แนวคิดที่ว่าผู้ชนะจะต้องได้ทุกอย่าง ดั่งในอิสยาห์ 1:18 ที่ว่า ถึงเวลาแล้วที่ทุกชาติจะต้องมาหาเหตุผลร่วมกัน
การปรับท่าทีของรัฐบาลไทยต่อสงครามยูเครนเป็นกรณีศึกษาว่าด้วยการทูตไทยในศตวรรษที่ 21 อย่างน่าสนใจ
หากกระทรวงต่างประเทศฟังเสียงวิพากษ์วิจารณ์และแนวทางวิเคราะห์ของผู้ที่เกาะติดสถานการณ์ระหว่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ก็จะช่วยให้การดำเนินการทูตของไทยในเวทีระหว่างประเทศจะต้องอยู่บนพื้นฐานของ “การมีส่วนร่วม” ของประชาชนมากขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมจริงๆ.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
แชร์สนั่นโซเชียล ลุกโชนเป็นไฟลามทุ่ง! ‘อนุทิน’ บุกเพจ ‘สุทธิชัย’ แจงกรณีคุยกับ ‘ทรัมป์’
ภายหลัง เพจ Suthichai Yoon โพสต์ข้อความว่า‘ทรัมป์‘ ให้สัมภาษณ์ Wall Street Journal ว่าเขาได้ใช้ tariff กดดันให้ไทยกับกัมพูชายุติการสู้รบ!
มีแม้วไม่มีเรา! วัดใจจุดยืน 'พรรคส้ม' หลังทักษิณขีดเส้นแบ่งข้างทุกเวทีแล้ว
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า "พรรคส้มกล้าไหม? มีแม้วไม่มีเรา!
ประเทศเดียวในโลก ‘นายกฯทับซ้อน’ มหันตภัยปี 2568
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่าสำนักวิจัยต่าง ๆ กำลังวิเคราะห์เพื่อพยากรณ์ว่าประเทศไทยจะต้องเผชิญกับความท้าทายสาหัสอะไรบ้างใน
‘หยุ่น’ ฟันเปรี้ยงรอดยาก! ชั้น 14 ดิ้นอย่างไรก็ไม่หลุด
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า เรื่องชั้น 14 จะดิ้นอย่างไรก็หลุดยาก จึงเห็นการเฉไฉ, ตีหน้าตาย
บิ๊กเซอร์ไพรส์ 'สุทธิชัย หยุ่น' เล่นซีรีส์ 'The White Lotus ซีซั่น 3'
เรียกว่าสร้างความเซอร์ไพรส์อย่างต่อเนื่อง สำหรับซีรีส์ The White Lotus ซีซั่น 3 ซึ่งจะสตรีมผ่าน Max ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2025 เพราะนอกจากจะมี ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล หรือ ลิซ่า BLACKPINK ไอดอลเกาหลีสัญชาติไทย ที่กระโดดลงมาชิมลางงานแสดงเป็นครั้งแรก ในบทของ มุก สาวพนักงานโรงแรม
ถามแสกหน้า 'ทักษิณ' จะพลิกเศรษฐกิจไทยยังไง ทุกซอกมุมในสังคมยังเต็มไปด้วยทุจริตโกงกิน
นายสุทธิชัย หยุ่น นักวิเคราะห์ข่าวและผู้ดำเนินรายการข่าวชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า “เขาจะพลิกประเทศไทยให้เศรษฐกิจล้ำโลกได้หรือ


