สงครามยูเครนทำให้จีน-รัสเซีย ยิ่งต้องขยับเข้าใกล้กันมากขึ้น

ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับรัสเซียเคยถูกเรียกขานว่า “ไร้ขีดจำกัด” ในคำแถลงการณ์ร่วมเมื่อต้นปี 2022 ระหว่างการไปเยือนปักกิ่งของปูติน...ก่อนมอสโกเปิดสงครามยูเครน

คำนี้ไม่ปรากฏในคำแถลงการณ์ร่วมระหว่างสี จิ้นผิงที่ไปเยือนรัสเซียกับปูตินเมื่อสัปดาห์ก่อน

เปลี่ยนเป็น “การทำให้ความสัมพันธ์ลุ่มลึกกว่าเดิมในโลกยุคใหม่”

แต่สะท้อนว่ารัสเซียต้องพึ่งพาจีนมากขึ้นหลังปูตินตัดสินใจทำสงครามกับยูเครนที่ลากยาวมาเกินหนึ่งปีแล้ว

ปูตินยอมรับว่าแอบอิจฉาจีนอยู่เหมือนกันเพราะโมเดลเศรษฐกิจจีน “มีประสิทธิภาพมากกว่าของประเทศอื่นเยอะ”

ยิ่งพอเกิดสงครามยูเครน รัสเซียก็ยิ่งต้องการคบกับจีนทางการค้ามากขึ้นเพราะเป็นการต่อต่อหายใจให้เศรษฐกิจของรัสเซียในยามที่ต้องเผชิญกับการใช้ทรัพยากรเพื่อสงครามอย่างหนัก

ประกอบกับการที่ตะวันตกคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจรัสเซียเพิ่มขึ้นด้วย ก็ยิ่งต้องการให้ “สหายรัก” มาอุ้มชูให้หนักขึ้นกว่าเดิม

นั่นคือสาเหตุที่ทำให้การค้าขายระหว่างจีนกับรัสเซียพุ่งขึ้นไปที่ $190,000 ล้านเมื่อปีที่แล้ว

นักวิชาการตะวันคนหนึ่งบอกว่าเมื่อรัสเซียต้องพึ่งพาจีนมากขึ้นอย่างนี้ มอสโกก็กลายเป็น “หุ้นส่วนผู้น้อง” หรือ “junior partner” ของจีนที่กลายเป็น “ผู้พี่” ในความสัมพันธ์ของสองประเทศขึ้นมาทันที

ปีที่แล้ว การส่งออกน้ำมันดิบและก๊าซของรัสเซียไปยังจีนเพิ่มขึ้น 44% และถ้าตีค่าด้วยเงินดดล่าร์ก็จะเท่ากับเพิ่มขึ้นกว่า 100%

ขณะเดียวกันในปีที่ผ่านมาการส่งออกของจีนไปยังรัสเซียเพิ่มขึ้น 12.8%

การจัดส่งไมโครชิปของจีนเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว

แหล่งข่าวตะวันตกอ้างว่าบริษัทจีนบางแห่งได้จัดหาสิ่งของสำหรับการใช้งานทางการทหารโดยตรง เช่น ภาพถ่ายดาวเทียม เทคโนโลยีการรบกวน และชิ้นส่วนสำหรับเครื่องบินขับไล่ให้รัสเซีย แม้ว่าจะมีในปริมาณเล็กน้อยก็ตาม

ข้อตกลงเหล่านี้บางส่วนอาจเกิดขึ้นก่อนจึงไม่อาจจะบอกว่าจีนส่งอาวุธให้รัสเซียทำสงครามยูเครน

แต่ความสัมพันธ์ของสองประเทศทางด้านความมั่นคงยังเดินหน้าในรูปแบบที่ต่อเนื่อง

จีนยังคงเข้าร่วมการซ้อมรบร่วมกับรัสเซีย

ในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา เครื่องบินทิ้งระเบิดทางยุทธศาสตร์ของจีนและรัสเซียบินลาดตระเวนร่วมกันเหนือทะเลญี่ปุ่นและทะเลจีนตะวันออก

และลงจอดที่สนามบินของกันและกันเป็นครั้งแรก

ณ วันครบรอบปีแรกของการรุกรานยูเครนของรัสเซียในเดือนกุมภาพันธ์ เรือรบของรัสเซีย จีน และแอฟริกาใต้ซ้อมรบร่วมกันในมหาสมุทรอินเดีย

ต่อมาในวันที่ 15 มีนาคม รัสเซีย จีน และอิหร่านได้เริ่มการฝึกซ้อมทางเรือร่วมกันในอ่าวโอมาน

จึงเชื่อได้ว่าแทนที่จะลดระดับความสัมพันธ์ สีจิ้นผิงดูเหมือนจะยิ่งเดินหน้ากระชับความสัมพันธ์

หากเชื่อว่ารัสเซียประเมินผิดในการบุกยูเครน แต่จีนก็อาจจะใช้ประโยชน์จากความอ่อนแอของรัสเซียในช่วงนี้เพื่อเสริมอำนาจต่อรองของตน

จีนได้ประโยชน์ชัดเจนในการซื้อพลังงานราคาถูกจากรัสเซีย

และในขณะเดียวกัน สี จิ้นผิงก็ค่อนข้างมั่นใจได้ว่าในยามนี้ปูตินจะต้องยืนเคียงข้างเขาทางด้านการทูตกรณีไต้หวัน

และยังได้รับประโยชน์จากการแสวงหาเทคโนโลยีทางทหารระดับสูงของรัสเซีย

เช่น ระบบขีปนาวุธพื้นสู่อากาศ และเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ที่ออกแบบมาเพื่อจ่ายไฟให้กับเรือดำน้ำ

และอาจจะกดดันทางอ้อมให้ปูตินระงับหรือชะลอการส่งสิ่งของที่คล้ายคลึงกันให้กับลูกค้ารัสเซียรายอื่นที่มีข้อพิพาทเรื่องกับจีน เช่น อินเดียและเวียดนาม

ไม่แต่เท่านั้นรัสเซียยังสามารถช่วยอัพเกรดคลังแสงนิวเคลียร์ของจีน หรือทำงานเกี่ยวกับระบบเตือนภัยขีปนาวุธร่วมกัน

ดูเหมือน สี จิ้นผิงจะเร่งฝีเท้าเรื่องการทูตกับรัสเซียในช่วงหลังนี้

สองวันก่อนวันครบรอบสงครรมยูเครน สีได้ส่งหวัง อี้ นักการทูตระดับแนวหน้าของเขาไปพบปูตินที่กรุงมอสโก ที่หวัง อี้พูดตามสคริปท์ของผู้นำจีนเกือบจะคำต่อคำเลยทีเดียว

เขาบอกว่าความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ของจีนกับรัสเซีย “แข็งแกร่งดั่งภูผา”

และให้คำมั่นว่าจะทำงานร่วมกับรัสเซียเพื่อ “เสริมสร้างการประสานงานเชิงกลยุทธ์ ขยายความร่วมมือเชิงปฏิบัติ และปกป้องผลประโยชน์ที่ชอบด้วยกฎหมายของทั้งสองประเทศ”

ยิ่งวันรัสเซียก็ยิ่งจะต้องกระชับความสัมพันธ์กับจีนในเกือบทุก ๆ ด้าน

รัสเซียใช้เซอร์เวอร์จาก Huawei และรถยนต์ยี่ห้อจีนก็เข้ามาแทนที่แบรนด์ตะวันตกหลังจากการคว่ำบาตร

เมื่อมีการสร้างท่อก๊าซเพิ่มระหว่างสองประเทศก็จะทำให้จีนได้พลังงานจากรัสเซียเป็นส่วนใหญ่

ภายในสิ้นปีนี้ก็เชื่อว่าการค้าระหว่างสองประเทศจะใช้เงินสกุลหยวนเป็นหลัก

เพราะการคว่ำบาตรของตะวันกตกทำให้รัฐบาลรัสเซียเผชิญกับการขาดดุลงบประมาณ $34,000 ล้านในสองเดือนแรกของปีนี้

เหตุหนึ่งก็เพราะต้องใช้เงินสำหรับทำสงครามหนักขึ้นเพราะการสู้รบถูกลากยาวมาเกินกว่าที่คาดการณ์ไว้เดิมมาก

ปีที่แล้วจีนสั่งพลังงานรัสเซีย (ซึ่งเท่ากับ 40% ของรายได้ทั้งหมดของประเทศ) เพิ่มจาก  $52.8 พันล้านเป็น $81.3 พันล้าน

รัสเซียเป็นแหล่งน้ำมันดิบและถ่านหินใหญ่อันดับสอง

ข้อมูลชุดนี้สะท้อนว่าความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศยิ่งวันจะยิ่งมีความผูกพันกันมากขึ้น

ตามสถิติของศุลกากรจีน เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมารัสเซียแซงหน้ากาต้าร์, เตอร์กเมนนิสสถาน,และออสเตรเลียในฐานะผู้ขายก๊าซให้กับจีน

เดือนนั้นเดือนเดียว รัสเซียส่งมอบก๊าชให้จีน 2.7 พันล้านลูกบาศ์กเมตรทีเดียว

ขณะเดียวกันรัสเวียก็หันไปหาจีนเพื่อซื้อไมโครชิป, อุปกรณ์ 5G และเครื่องจักรหนักสำหรับอุตสาหกรรมเพราะถูกตะวันตกคว่ำบาตร ไม่ขายสิ้นค้า “ยุทธศาสตร์” เหล่านี้ให้

ปีที่แล้ว มอสโกสั่งเข้าเครื่องจักรไฟฟ้าและชิ้นส่วนจากจีนรวมมูลค่า $4.8 พันล้านเพราะไม่อาจจะหาซื้อได้จากแหล่งประเทศตะวันตกอย่างที่เคยทำได้ก่อนสงครามยูเครน

เมื่อได้เห็นสถิติอย่างนี้แล้วคงจะพอเข้าใจได้แล้วว่าทำไมสีและปูตินจะเน้นคำว่า “ความสัมพันธ์อันลึกซึ้ง” ระหว่างกัน

จีนอาจจะไม่สบายใจที่ถูกมองว่าเข้าข้างรัสเซียในสงครามยูเครน

แต่สงครามเปิดบาดแผลและจุดอ่อนของรัสเซียที่หันไปหาใครไม่ดีเท่าจีนอย่างนี้ ปักกิ่งจะต้องรับรู้ซึ้งถึง “วิกฤตของเพื่อนอาจจะเป็นโอกาสของเรา” ได้เช่นกัน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

แชร์สนั่นโซเชียล ลุกโชนเป็นไฟลามทุ่ง! ‘อนุทิน’ บุกเพจ ‘สุทธิชัย’ แจงกรณีคุยกับ ‘ทรัมป์’

ภายหลัง เพจ Suthichai Yoon  โพสต์ข้อความว่า‘ทรัมป์‘ ให้สัมภาษณ์ Wall Street Journal ว่าเขาได้ใช้ tariff กดดันให้ไทยกับกัมพูชายุติการสู้รบ!

ประเทศเดียวในโลก ‘นายกฯทับซ้อน’ มหันตภัยปี 2568

นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่าสำนักวิจัยต่าง ๆ กำลังวิเคราะห์เพื่อพยากรณ์ว่าประเทศไทยจะต้องเผชิญกับความท้าทายสาหัสอะไรบ้างใน

บิ๊กเซอร์ไพรส์ 'สุทธิชัย หยุ่น' เล่นซีรีส์ 'The White Lotus ซีซั่น 3'

เรียกว่าสร้างความเซอร์ไพรส์อย่างต่อเนื่อง สำหรับซีรีส์ The White Lotus ซีซั่น 3 ซึ่งจะสตรีมผ่าน Max ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2025 เพราะนอกจากจะมี ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล หรือ ลิซ่า BLACKPINK ไอดอลเกาหลีสัญชาติไทย ที่กระโดดลงมาชิมลางงานแสดงเป็นครั้งแรก ในบทของ มุก สาวพนักงานโรงแรม

ถามแสกหน้า 'ทักษิณ' จะพลิกเศรษฐกิจไทยยังไง ทุกซอกมุมในสังคมยังเต็มไปด้วยทุจริตโกงกิน

นายสุทธิชัย หยุ่น นักวิเคราะห์ข่าวและผู้ดำเนินรายการข่าวชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า “เขาจะพลิกประเทศไทยให้เศรษฐกิจล้ำโลกได้หรือ