ทำไมโปแลนด์จึงกลายเป็นเพื่อนบ้านที่มีความสำคัญที่สุดสำหรับยูเครนในการทำสงครามกับรัสเซีย?
คำตอบคือโปแลนด์รู้ว่าถ้ารัสเซียยึดยูเครนได้ เป้าต่อไปก็คือตัวเอง
ประวัติศาสตร์สอนโปแลนด์ถึงความเจ็บปวดของสงครามอย่างที่น้อยประเทศจะได้พานพบมาด้วยตนเอง
ตั้งแต่สงครามเริ่มต้น โปแลนด์ต้องรับผู้ลี้ภัยยูเครนกว่า 1.7 ล้านคน (จากทั้งหมดที่หนีสงครามออกนอกประเทศกว่า 7 ล้านคน)
และโปแลนด์กลายเป็นจุดผ่านที่สำคัญที่สุดสำหรับความช่วยเหลือและอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ต่างประเทศส่งมาให้ยูเครน
ใครจะเข้ายูเครนต้องผ่านโปแลนด์เพื่อเดินทางต่อทางรถไฟหรือถนน ซึ่งเป็นเส้นทางที่ปลอดภัยที่สุด เพราะเส้นทางขนส่งเข้ากรุงเคียฟถูกระงับด้วยสงคราม
นอกจากนั้นโปแลนด์ยังกลายเป็นประเทศที่ประกาศสนับสนุนให้ยูเครนเข้านาโตและสหภาพยุโรปที่ดังที่สุดประเทศหนึ่ง
โปแลนด์ยังออกมาวิพากษ์บางประเทศทางตะวันตกว่า “มีท่าทีอ่อนข้อต่อรัสเซียมากเกินไป” ในกรณีรุกรานยูเครน
รัฐบาลโปแลนด์ภายใต้การนำของประธานาธิบดี Andrzej Duda เพิ่งต้อนรับการไปเยือนของประธานาธิบดีเซเลนสกีอย่างอบอุ่น
ขณะที่สมาชิกนาโตอื่นๆ จัดสรรงบประมาณ 2% ของจีดีพีให้กับด้านกลาโหมตามข้อตกลงกับนาโต แต่โปแลนด์ไม่ลังเลที่จะปรับขึ้นไปที่ 4% เพื่อแสดงความทุ่มเทต่อความร่วมมือทางทหารขององค์กรทหารร่วม
เพื่อแสดงความพร้อมจะช่วยยูเครนรบกับรัสเซีย โปแลนด์เป็นประเทศแรกที่ส่งรถถัง Leopard2 ให้ยูเครน (ก่อนที่เยอรมนีซึ่งเป็นผู้ผลิตด้วยซ้ำ)
และเมื่อไม่นานมานี้ โปแลนด์ก็เป็นประเทศแรกที่ประกาศจะส่งมอบเครื่องบินรบให้กับยูเครนเพื่อสกัดการโจมตีของรัสเซีย
เมื่อเร็วๆ นี้ สหรัฐฯ และนาโตสร้างค่ายทหารถาวรใหม่ในโปแลนด์ที่ตั้งอยู่เคียงข้างคลังแสงอาวุธยักษ์ที่มีรถถังและรถหุ้มเกราะทหารรบหลายร้อยคันประจำการอยู่อย่างแข็งขัน
นายทหารสหรัฐฯ คนหนึ่งเรียกโปแลนด์วันนี้ว่าเป็น “ฟันเฟืองแห่งความมั่นคงของภูมิภาคแห่งนี้”
แต่ก่อนนี้ โปแลนด์เป็น “เด็กนอกคอก” ไม่มีใครสนใจอะไรเท่าไหร่
แต่พอรัสเซียบุกยูเครนเท่านั้นแหละ ประเทศเพื่อนบ้านทางตะวันตกของยูเครนแห่งนี้ก็มีความสำคัญขึ้นมาทันที
สงครามยูเครนทำให้เกิดการ “เคลื่อนย้ายด้านภูมิรัฐศาสตร์” ในยุโรปอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนหลังสงครามโลกครั้งที่ 2
อยู่ดี ๆ “ศูนย์แรงดึงดูด” ของนาโตก็ย้ายจากยุโรปตะวันตก เช่น ฝรั่งเศสและเยอรมนีไปทางตะวันออก...นั่นคือโปแลนด์และประเทศในทะเลบอลติกและชาติอื่นๆ ที่ครั้งหนึ่งเคยอยู่ใต้ “ม่านเหล็ก”
หมายถึงที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพโซเวียตก่อนการล่มสลายเมื่อปี 1991
ยุโรปกลางและตะวันออกนั้นมีประวัติศาสตร์ที่เข้มข้นกว่าทางตะวันตก...โศกนาฏกรรมของสงครามในอดีตและการหวนคืนมาของความขัดแย้งที่กลายเป็นการต่อสู้ด้วยอาวุธนั้นกลับมาหลอกหลอนความดำมืดแห่งประวัติศาสตร์อีกครั้ง
ไม่นานมานี้เอง นักประวัติศาสตร์เคยเรียกโปแลนด์ว่าเป็น “หัวใจของยุโรป”
ไม่ใช่เพียงจุดที่ตั้งทางภูมิศาสตร์เท่านั้น แต่โปแลนด์ดูเหมือนจะเป็น “เบ้าหลอม” ของกระแสธารแห่งความเคลื่อนไหวทางการเมืองที่แล่นผ่านทวีปยุโรปทั้งมวล
นักประวัติศาสตร์จำนวนหนึ่งมองย้อนประวัติศาสตร์ของโปแลนด์แล้วก็ประกาศว่าความจริงประเทศนี้มีความเป็นยุโรปมากกว่าประเทศอื่นใดบนทวีปนี้ด้วยซ้ำ
เพราะบทบาทเก่าในฐานะเป็น “ปราการแห่งอารยธรรมคริสต์แห่งโลกตะวันตก”
กูรูหลายคนของโปแลนด์กำลังเตือนความทรงจำว่า คนในย่านนี้ที่มีพรมแดนประชิดกับรัสเซียได้เตือนมาตลอดว่าจะต้องตั้งการ์ดสูงไว้เพื่อป้องกัน “ความใฝ่ฝัน” ของผู้นำรัสเซียบางคนที่อาจจะยังฝันถึงอดีตอันเกรียงไกรของจักรวรรดิรัสเซียในอดีต
นักประวัติศาสตร์มีชื่อเสียงของโปแลนด์คนหนึ่งเคยกล่าวไว้ว่า
“เราเตือนเอาไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นภัยคุกคามจากรัสเซีย หรือเรื่องความมั่นคงด้านพลังงาน และความเสี่ยงที่เราพึ่งพารัสเซียมากเกินไป... แต่ไม่มีใครฟังเรา ไม่ว่าจะเป็นเยอรมนีหรือประเทศอื่น...และวันนี้พิสูจน์แล้วว่าสิ่งที่เราพยากรณ์เตือนไว้นั้นล้วนถูกต้องหมด”
วันนี้รัฐบาลโปแลนด์กำลังพยายามจะสร้างกองทัพที่แข็งแกร่งที่สุดในยุโรป...ด้วยอาวุธที่มาจากสหรัฐฯ
นายกรัฐมนตรีโปแลนด์ Mateusz Morawiecki ปราศรัยที่มหาวิทยาลัย Heidelberg University ที่เยอรมนีว่ายุโรปกำลังเข้าสู่ “จุดเปลี่ยนแห่งประวัติศาสตร์”
นั่นหมายความว่ายุโรปตะวันตกจะต้องตระหนักถึงความเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงที่กำลังเกิดขึ้นจากสงครามยูเครน
การที่ประธานาธิบดีเซเลนสกีไปเยือนโปแลนด์อย่างเป็นทางการเมื่อสัปดาห์ก่อนมีความหมายสำคัญตรงที่ว่า ยูเครนกำลังจะจัดระเบียบของยุโรปตะวันออกใหม่
ตอนหนึ่งของคำกล่าวของเซเลนสกีบอกว่า “ในอนาคต 2 ประเทศของเราจะไม่มีพรมแดนแบ่งแยกประชาชนของเราอีก แต่ตอนนี้ภารกิจเฉพาะหน้าคือ การที่ยูเครนต้องได้รับชัยชนะในการทำสงครามกับผู้รุกรานก่อน”
โปแลนด์รู้ว่าหากยูเครนแพ้สงครามครั้งนี้ หนึ่งในเป้าหมายหลักของรัสเซียคือโปแลนด์อย่างปฏิเสธไม่ได้
ผู้นำโปแลนด์ยืนยันว่าจะผลักดันให้ยูเครนเข้าเป็นสมาชิกนาโตและสหภาพยุโรปโดยด่วน เพื่อสร้างป้อมปราการที่หนาแน่นสำหรับการรักษาไว้ซึ่งอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของตน
และเพื่อความมั่นคงของประเทศเพื่อนบ้านอื่นๆ ของยูเครนจากภัยคุกคามที่ไม่เคยชัดเจนและใกล้ตัวเท่าที่เห็นและเป็นอยู่เลย.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
แชร์สนั่นโซเชียล ลุกโชนเป็นไฟลามทุ่ง! ‘อนุทิน’ บุกเพจ ‘สุทธิชัย’ แจงกรณีคุยกับ ‘ทรัมป์’
ภายหลัง เพจ Suthichai Yoon โพสต์ข้อความว่า‘ทรัมป์‘ ให้สัมภาษณ์ Wall Street Journal ว่าเขาได้ใช้ tariff กดดันให้ไทยกับกัมพูชายุติการสู้รบ!
มีแม้วไม่มีเรา! วัดใจจุดยืน 'พรรคส้ม' หลังทักษิณขีดเส้นแบ่งข้างทุกเวทีแล้ว
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า "พรรคส้มกล้าไหม? มีแม้วไม่มีเรา!
ประเทศเดียวในโลก ‘นายกฯทับซ้อน’ มหันตภัยปี 2568
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่าสำนักวิจัยต่าง ๆ กำลังวิเคราะห์เพื่อพยากรณ์ว่าประเทศไทยจะต้องเผชิญกับความท้าทายสาหัสอะไรบ้างใน
‘หยุ่น’ ฟันเปรี้ยงรอดยาก! ชั้น 14 ดิ้นอย่างไรก็ไม่หลุด
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า เรื่องชั้น 14 จะดิ้นอย่างไรก็หลุดยาก จึงเห็นการเฉไฉ, ตีหน้าตาย
บิ๊กเซอร์ไพรส์ 'สุทธิชัย หยุ่น' เล่นซีรีส์ 'The White Lotus ซีซั่น 3'
เรียกว่าสร้างความเซอร์ไพรส์อย่างต่อเนื่อง สำหรับซีรีส์ The White Lotus ซีซั่น 3 ซึ่งจะสตรีมผ่าน Max ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2025 เพราะนอกจากจะมี ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล หรือ ลิซ่า BLACKPINK ไอดอลเกาหลีสัญชาติไทย ที่กระโดดลงมาชิมลางงานแสดงเป็นครั้งแรก ในบทของ มุก สาวพนักงานโรงแรม
ถามแสกหน้า 'ทักษิณ' จะพลิกเศรษฐกิจไทยยังไง ทุกซอกมุมในสังคมยังเต็มไปด้วยทุจริตโกงกิน
นายสุทธิชัย หยุ่น นักวิเคราะห์ข่าวและผู้ดำเนินรายการข่าวชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า “เขาจะพลิกประเทศไทยให้เศรษฐกิจล้ำโลกได้หรือ


