ผมเขียนถึงบทบาทของจีนที่โยงกับรัสเซียในสงครามยูเครนมาสองวัน น่าจะเห็นว่าปักกิ่งต้องใช้ยุทธศาสตร์ที่เปิดทางเลือกให้ตัวเองที่หลากหลายพอที่จะไม่ถูกผลักให้ติดมุม
สี จิ้นผิง จึงเลือกที่จะเสนอตัวเป็น “ผู้ไกล่เกลี่ยเพื่อสันติภาพ” เพื่อสลัดออกจากบทที่ถูกกดดันให้ต้อง “เลือกข้าง”
ล่าสุด จีนส่งนักการทูตอาวุโสเดินสายเพื่อให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวกับสงครามได้พยายามร่วมกันหา “สูตรสันติภาพทางการเมือง” เพื่อยุติสงคราม
ทูตชั้นนำของจีนคนนี้ได้เริ่มการเยือนยูเครน รัสเซีย และประเทศอื่นๆ ในยุโรปตั้งแต่วันจันทร์ที่ผ่านมา
โดย “ปฏิบัติการพิเศษทางการทูต” ครั้งสำคัญนี้ปักกิ่งระบุว่ามีเป้าหมายเพื่อหารือเกี่ยวกับ "สูตรยุติสงครามด้วยวิถีทางการเมือง" ต่อวิกฤตยูเครน
ทูตจีนคนนี้ชื่อ หลี่ ฮุย ตำแหน่งปัจจุบันคือผู้แทนพิเศษของจีนด้านกิจการเอเชียและอดีตเอกอัครราชทูตประจำรัสเซีย
ดังนั้น จึงเป็นนักการทูตที่คุ้นเคยกับรัสเซียเป็นอย่างดี
อย่างน้อยก็คงจะได้ใจประธานาธิบดีปูตินของรัสเซีย เพราะได้ทูตที่มอสโกรู้จักมักคุ้นมาก่อน
เมื่อปักกิ่งให้มอสโกมีความสบายใจกับตัวบุคคลแล้ว ก็คงจะทำให้บรรยากาศเริ่มต้นเป็นไปทางบวก
ส่วนยูเครนก็คงจะพอใจที่ตัวแทนจีนพร้อมจะมาฟังข้อเสนอของกรุงเคียฟ เพื่อนำไปบอกกล่าวกับฝั่งรัสเซีย
เป็นการปูทางไปสู่โอกาสที่จะเจรจาต่อรองกันได้ในวันใดวันหนึ่งข้างหน้า
แม้ว่าสมรภูมิรบในยูเครนยังเดือดอยู่อย่างต่อเนื่อง
ล่าสุด รัสเซียก็ยังส่งขีปนาวุธและโดรนถล่มโจมตีเป้าหมายในยูเครนอย่างไม่หยุดยั้ง
ต้นสัปดาห์นี้ ปฏิบัติการทางอากาศของรัสเซียต่อยูเครนยังหนักหน่วง และพุ่งเป้าไปที่เมืองหลวงเคียฟโดยตรงในหลายๆ กรณีด้วย
ฝ่ายยูเครนก็ไม่ลดละ กำลังพูดถึง “ปฏิบัติการตอบโต้ครั้งใหญ่” หรือ counter-offensive อาวุธยุทโธปกรณ์ทันสมัยชุดล่าสุดจากหลายๆ ประเทศทางตะวันตก
ประธานาธิบดีเซเลนสกีของยูเครนเองก็ตระเวนไปหลายประเทศในยุโรป เช่น อิตาลี, เยอรมนี และสหราชอาณาจักร เพื่อระดมความช่วยเหลือทั้งด้านการทหาร, การทูตและเศรษฐกิจอย่างคึกคัก
อีกทั้งยังประกาศว่าขณะนี้ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะเจรจากับปูติน
ทำให้การทำงานของทูตพิเศษจีนคนนี้ยิ่งจะเจอกับความท้าทายที่หนักหน่วงขึ้นไปอีกหลายเท่า
ทูตหลี่ ฮุย จะเยือนโปแลนด์ ฝรั่งเศส เยอรมนี ในการเดินสายติดต่อกันหลายวัน
กระทรวงการต่างประเทศจีนออกข่าวนี้เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดกำหนดการมากพอที่จะรู้ว่าเขาจะพบกับปูตินและเซเลนสกีเมื่อไหร่ อย่างไร
แต่ต้องถือว่าจีนให้ความสำคัญกับภารกิจครั้งนี้ไม่น้อย
เพราะทูตคนนี้เป็นเจ้าหน้าที่จีนที่อาวุโสที่สุดที่เดินทางเยือนยูเครน นับตั้งแต่รัสเซียเปิดศึกในเดือนกุมภาพันธ์ 2565
ทูตหลี่ ฮุย กับรองประธานสภาความมั่นคงแห่งชาติรัสเซีย เมดเวเดฟ.
แต่จังหวะของการเดินสายครั้งนี้อาจจะย้อนแย้งกับบรรยากาศในภาคสนามของสงครามที่เกิดขึ้น
เพราะตรงกับจุดเริ่มต้นของการที่ยูเครนเตรียมฏิบัติการตอบโต้ที่เดิมคาดหมายมานาน
เพราะยูเครนต้องการดินแดนที่รัสเซียยึดครองกลับคืนมา
โดยเซเลนสกีอ้างว่าจะไม่โจมตีเป้าหมายในดินแดนของรัสเซีย...เพียงต้องการจะ “ปลดปล่อย” ดินแดนที่รัสเซียเข้ามายึดครองในยูเครนเท่านั้น
แม้ว่าจะมีข่าวเป็นระยะๆ ว่าโดรนจากยูเครนได้เข้าไปโจมตีและก่อวินาศกรรมหลายๆ จุดในดินแดนของรัสเซียก็ตาม
ทูตหลี่ ฮุย มีกำหนดเดินทางเยือนยูเครนเมื่อวันอังคารและพุธ แต่เจ้าหน้าที่รัฐบาลยูเครนปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดเพิ่มเติม โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีนกล่าวว่า รายละเอียดการเดินทางของทูตคนนี้จะมีการเปิดเผยเมื่อได้จังหวะเวลาที่เหมาะสม
การเยือนครั้งนี้มีขึ้นหลายสัปดาห์หลังจากประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน คุยโทรศัพท์กับเซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน ในปลายเดือนเมษายน
นั่นคือการพูดคุยครั้งแรกระหว่างผู้นำทั้งสองนับตั้งแต่สงครามเริ่มขึ้น
เซเลนสกีเขียนขึ้นทวิตเตอร์แจ้งว่า การสนทนากับผู้นำจีน "ยาวนานและมีความหมาย"
ในขณะที่สี จิ้นผิง บอกว่า จีนจะมุ่งเน้นไปที่การส่งเสริมสันติภาพ แม้ว่าข้อเสนอของปักกิ่งในการยุติความขัดแย้งจะได้รับความกังขาจากชาวตะวันตก เพราะความสัมพันธ์ที่ลุ่มลึกระหว่างปักกิ่งกับมอสโก
แต่ผู้นำยุโรปหลายคน รวมทั้งประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครงของฝรั่งเศส และเออร์ซูลา ฟอน แดร์ ไลเอิน หัวหน้าคณะกรรมาธิการยุโรป ได้เรียกร้องให้สี จิ้นผิง พูดคุยกับเซเลนสกี
และเรียกร้องให้จีนมีบทบาทที่แข็งขันมากขึ้นในการยับยั้งการกระทำของมอสโก
เป็นการส่งสัญญาณชัดเจนจากยุโรปให้กับผู้นำจีนระหว่างการเยือนเมืองหลวงของจีนตั้งแต่เดือนมีนาคมเป็นต้นมา
ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ปักกิ่งได้นำเสนอแผน 12 ประเด็นเพื่อนำไปสู่การยุติทางการเมืองต่อวิกฤตของยูเครน
แต่จังหวะไม่สวยนัก เพราะแผนที่ว่านี้เปิดตัวในวันครบรอบปีแรกของการรุกรานของรัสเซียพอดี
เนื้อหาส่วนใหญ่แล้วเป็นการย้ำถึงแนวปฏิบัติก่อนหน้านี้ของจีนเกี่ยวกับสงคราม
นั่นคือเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะลดความรุนแรงลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป และเตือนไม่ให้มีการใช้อาวุธนิวเคลียร์
นักวิชาการหลายคนเห็นว่าการไปเยือนยุโรปของทูตหลี่ ฮุย ครั้งนี้ถือเป็นการสร้างโอกาสที่ดีมากในการส่งเสริมการสื่อสารและการหารือกับทุกฝ่าย และทำให้ทุกฝ่ายเข้าใจปัญหาสำคัญๆ ตรงกัน
ยูเครนประกาศหนักแน่นว่าจะไม่ยอมเสียดินแดนให้กับรัสเซียแม้แต่ตารางนิ้วเดียว
นั่นรวมถึงคาบสมุทรไครเมียที่รัสเซียผนวกไปเป็นของตนในปี 2557
และตั้งแต่ปีที่แล้ว มอสโกอ้างว่าได้ผนวกดินแดนยูเครนอีก 4 ภูมิภาคมาเป็นส่วนหนึ่งของสหพันธ์รัสเซียด้วย
ประเด็นที่ทำให้ยุโรปและตะวันตกคับข้องใจคือ ตลอดช่วงสงคราม จีนได้ละเว้นจากการประณามพันธมิตรทางยุทธศาสตร์อย่างมอสโก
ไม่ยอมใช้คำว่า "การรุกราน" แม้จะยืนยันในหลักการเคารพอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของทุกประเทศก็ตาม
ซึ่งนำไปสู่การวิพากษ์วิจารณ์จากประเทศในยุโรปและสหรัฐอเมริกา ที่ตั้งคำถามถึงความน่าเชื่อถือของจีนในฐานะ "นายหน้า” ที่มีความน่าไว้วางใจในการทำหน้าที่เป็นกลางได้จริงๆ
แต่ก็เห็นได้ชัดว่าสี จิ้นผิง ไม่ยอมลดละที่จะแสดงความพร้อมที่จะสวมบทบาทของ “ผู้ไกล่เกลี่ย” ที่มีความจริงใจและจริงจัง
จากนี้ไม่นานก็คงจะได้เห็นว่าฝ่ายไหนถูก ฝ่ายไหนผิดกันแน่
เพราะจีนย้ำเสมอว่าปักกิ่ง “ยืนอยู่ข้างที่ถูกต้องของประวัติศาสตร์เสมอ”!.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ถามแสกหน้า 'ทักษิณ' จะพลิกเศรษฐกิจไทยยังไง ทุกซอกมุมในสังคมยังเต็มไปด้วยทุจริตโกงกิน
นายสุทธิชัย หยุ่น นักวิเคราะห์ข่าวและผู้ดำเนินรายการข่าวชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า “เขาจะพลิกประเทศไทยให้เศรษฐกิจล้ำโลกได้หรือ
เขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนที่กลายเป็น ที่ซ่องสุมของอาชญากรรมข้ามชาติ
เมื่อวานเขียนถึงรายงานในสำนักข่าวชายขอบที่สำนักจะได้รับความสนใจของรัฐบาลไทยว่าด้วยกิจกรรมอาชญากรรมข้ามชาติในบริเวณ “เขตเศรษฐกิจพิเศษ” ที่สามเหลี่ยมทองคำ
แหล่งค้ามนุษย์ใน 3 เหลี่ยมทองคำ
เขตเศรษฐกิจพิเศษหรือ SEZ บริเวณสามเหลี่ยมทองคำที่โยงกับไทยนั้นกลายเป็นประเด็นเรื่องอาชญกรรมข้ามชาติที่สมควรจะได้รับความสนใจของรัฐบาลไทยอย่างจริงจัง
ไบเดนหรือทรัมป์? เอเชียน่าจะเลือกใครมากกว่า?
ผมค่อนข้างมั่นใจว่าการดีเบตระหว่างโจ ไบเดน กับโดนัลด์ ทรัมป์ วันนี้ (เวลาอเมริกา) จะไม่ให้ความสำคัญต่อเอเชียหรืออาเซียน
พรุ่งนี้ ลุ้นดีเบตรอบแรก โจ ไบเดนกับโดนัลด์ ทรัมป์
ผมลุ้นการโต้วาทีระหว่างโจ ไบเดน กับโดนัลด์ ทรัมป์ ที่จะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ (27 มิถุนายน) เพราะอยากรู้ว่า “ผู้เฒ่า” สองคนนี้จะมีความแหลมคมว่องไวในการแลกหมัดกันมากน้อยเพียงใด
เธอคือ ‘สหายร่วมรบ’ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรค NLD คนสุดท้าย!
อองซาน ซูจีมีอายุ 79 ปีเมื่อวันที่ 19 มิถุนายนที่ผ่านมา...และยังถูกจำขังในฐานะจำเลยของกองทัพพม่าที่ก่อรัฐประหารเมื่อกว่า 3 ปีที่แล้ว