ดีลรักหักเหลี่ยมโหด

เขาบอกว่าเป็นดีลรัก ไม่ใช่ดีลลับ

ดีครับ ก้าวไกล กับ เพื่อไทย ควรจะกอดคอกันเป็นรัฐบาลด้วยกัน

อย่าได้แทงหลังกันเด็ดขาด

เพื่อไทย จะต้องออกแรงจนสุดกำลังช่วย "พิธา ลิ้มเจริญรัตน์" เป็นนายกรัฐมนตรีให้ได้

แต่คำถามมันก็วกกลับไปที่เพื่อไทยครับว่า วันนี้ได้ช่วย "พิธา" อย่างเต็มกำลังความสามารถ ที่มีแล้วหรือยัง?

ยังหรอกครับ!

การแถลงข่าวของ ๘ พรรค วานนี้ (๓๐ พฤษภาคม) สาวกก้าวไกลพากันกรี๊ด! เตรียมฉลอง "พิธา" ได้เป็นนายกฯ แน่นอนแล้ว

เพราะเพื่อไทยบอกว่าช่วยเต็มที่

แต่คอการเมืองที่วางเดิมพันแล้ว เขาลุ้นกันตัวเกร็ง  เพราะเบื้องหลังการจัดตั้งรัฐบาล ก้าวไกล ออกแรงจนสุดศักยภาพแล้ว แต่ไม่อาจได้เสียงจาก ส.ว.เพิ่มตามเป้าหมายที่วางเอาไว้

สถานการณ์ที่ว่าดำเนินเรื่อยมาจนถึงการแถลงข่าว ๘ พรรควานนี้ ก็ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

แถลงข่าวเสร็จแล้ว เพื่อไทย ยังคงนิ่งเฉยในประเด็นสำคัญที่สุด คือการล็อบบี้ ส.ว.

ฝาก "ชลน่าน ศรีแก้ว" ไปบอก นายใหญ่ทักษิณ แต่ไม่รู้จะเข้าถึงหรือเปล่า บอกว่าให้ช่วยออกแรงล็อบบี้ ส.ว.สัก ๖๕-๗๐ คน โหวต "พิธา" เป็นนายกฯ ได้หรือเปล่า

ถ้าได้....แบบนี้ถึงจะเรียกว่าช่วยจริง

แต่เท่าที่เห็น เพื่อไทย ตามน้้ำเก็บแต้มไปเรื่อยๆ เสียมากกว่า

ไอ้เรื่องตั้งกรรมการ ๗ คณะ เพื่อตอบสนองปัญหาของประชาชน อาทิ...

คณะทำงานค่าไฟฟ้า น้ำมันดีเซลและพลังงาน

คณะทำงานด้านภัยแล้ง เอลนีโญ

คณะทำงานด้านชายแดนใต้

คณะทำงานแก้รัฐธรรมนูญ

คณะทำงานเรื่องสิ่งแวดล้อมและพีเอ็ม ๒.๕

คณะทำงานด้านเศรษฐกิจปากท้องเอสเอ็มอี

และคณะทำงานแก้ยาเสพติด

ฟังดูแล้ว เห็นได้ชัดว่า " พิธา" กลัดกระดุมผิด 

แต่จำใจกลัดผิดครับ เพราะสถานการณ์มันถูกบังคับให้ทำเช่นนั้น ไม่มีทางเลี่ยงเป็นอย่างอื่นได้ พรรคอันดับ ๑ หมดข้อต่อรองแล้ว จึงต้องสร้างเรื่องมามัดให้ ๘ พรรคอยู่ด้วยกัน

ดูๆ ไป มันเหมือนโฆษณาขายถ่านไฟฉายตรากบ คั่นเวลาฉายหนังกลางแปลงเสียมากกว่า

แต่ก็ถือเป็นมิติใหม่ของการตั้งรัฐบาล ที่มีพิธีกรรมที่ต่างออกไปจากอดีต

ยังไม่รู้ใครจะได้เป็นนายกฯ แต่ ๘ พรรคการเมืองจับมือกันแถลงนโยบายแล้ว

ทุกพรรคเล่นตามบทตัวเอง

๖ พรรคเล็กคงจะว่าตามน้ำไปเรื่อย

แต่ ก้าวไกล กับ เพื่อไทย ไม่น่าจะมีเป้าหมายเดียวกัน

ขณะนี้เพื่อไทยสร้างภาพตัวเอง จนกองเชียร์ ทั้ง ด้อมส้ม ด้อมแดง เชื่อแล้วว่า จะปักหลักอยู่กับ ก้าวไกล

ราวกับว่าฝ่ายประชาธิปไตยจะกอดคอกันไปจนตาย!

"ชลน่าน" บอกว่า

"...เราเน้นย้ำตลอดว่า ทั้ง ๒๕ ล้านเสียงที่เลือกพรรคเพื่อไทยกับพรรคก้าวไกล เป็นเจตจำนงของประชาชน ทั้งสองพรรคปฏิเสธไม่ได้ ที่จะทำความฝัน ความหวังของพวกเขาให้บรรลุ คือ รัฐบาลที่มาจากฝ่ายเสรีประชาธิปไตย          ขอให้ความมั่นใจว่า ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เราจะอยู่ด้วยกันตลอดไป..."

ทั้งที่วันก่อน "ชลน่าน" ยังบ่นอยากต่อยปาก "ศิธา ทิวารี" เพราะเรื่องให้เซ็น เอ็มโอยู แอดวานซ์ ฝ่ายประชาธิปไตยจะไม่พรากจากกัน

ก็เสียดายครับไม่มีการเซ็นเป็นลายลักษณ์อักษรว่า ๘ พรรค จะรักกันไปตลอดกาล

ขั้นตอนการตั้งรัฐบาลที่ถูกที่ควร ณ วินาทีนี้ ก้าวไกล ต้องเล็งไปที่วุฒิสภาเป็นหลัก ไม่ใช่มานั่งแถลงนโยบายก่อนมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้ง นายกรัฐมนตรีคนที่ ๓๐

รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ด้วยซ้ำว่า ก่อนเข้ารับหน้าที่ คณะรัฐมนตรีต้องถวายสัตย์ปฏิญาณต่อพระมหากษัตริย์

แต่ "พิธา" ทำราวกับว่า ได้รับโปรดเกล้าฯ เป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว

หรือมีอะไรซ่อนอยู่?

เนื่องจากในอดีต ไม่เคยมีว่าที่นายกรัฐมนตรีคนไหน จัดแจงตั้งคณะทำงานให้ว่าที่พรรคร่วมรัฐบาลรับผิดชอบเป็นส่วนๆ ไป ก่อนมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้ง นายกรัฐมนตรี

ทั้งหมดทำตามที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญทั้งสิ้น

ฉะนั้น ก้าวไกล เล่นเกมนี้เพื่อให้เกิดการรับรู้ว่า "พิธา" ได้เป็นนายกรัฐมนตรีอย่างแน่นอน

ในวันที่ที่ประชุมร่วมรัฐสภาโหวตนายกฯ แล้ว "พิธา" ได้คะแนนไม่ถึงครึ่งจะเกิดอะไรขึ้น

ทำให้นึกถึงการเคลื่อนไหวทางการเมืองของพรรคอนาคตใหม่-ก้าวไกล ที่พยายามชี้นำมวลชนครั้งแล้วครั้งเล่า โดยยึดเอาผลประโยชน์ของตนเองเป็นหลัก

เช่นคดีความต่างๆ

ทุกครั้งที่ อนาคตใหม่-ก้าวไกล แพ้คดี ทัวร์ลงศาลอย่างไม่กลัวเกรง

ครั้งนี้ก็เช่นกันหาก "พิธา" ไม่ได้เป็นนายกฯ "ด้อมส้ม" จะออกป่วนทันที

เพราะการปูพื้นข้อมูลที่ขัดแย้งกับความเป็นจริง ไม่ว่าจะเป็น ก้าวไกลได้เสียงข้างมาก ทั้งที่ข้อเท็จจริง ก้าวไกล ชนะเลือกตั้งเป็นพรรคอันดับ ๑

อย่าลืมนะครับ ตลอด ๔ ปีที่ผ่านมา อนาคตใหม่-ก้าวไกล ใช้มวลชนเคลื่อนไหวกดดันทางการเมืองมาโดยตลอด

ครับ...ขมวดการแถลงข่าว ๘ พรรควานนี้ ก้าวไกล คิดอย่าง เพื่อไทย คิดอีกอย่าง แต่เบื้องหน้ารักกันหวานซึ้ง

ถามว่าทั้ง ๒ พรรคจะร่วมรัฐบาลกันจริงหรือไม่ คำตอบ ถึงวินาทีนี้ ก้าวไกล ยังไม่เชื่อว่า เพื่อไทย จะรักษาสัญญา ในการแถลงข่าวถึงได้ออกอาการสนิทชิดเชื้อแบบเขินๆ

ส่วนเพื่อไทย อยู่ในสภาพกลืนเลือด เพราะเป็นผู้แพ้

มิได้แพ้ใครที่ไหน แต่แพ้ก้าวไกล

ขณะเดียวกันในเส้นทางตั้งรัฐบาล เพื่อไทย ก็โอกาสมากกว่า ก้าวไกล

อยู่ที่เพื่อไทยจะฉวยโอกาสตรงนั้นหรือไม่

ถ้าเพื่อไทย ช่วย "พิธา" จริง ไม่ต้องพูดพร่ำทำเพลง ขอเสียง ส.ว.สัก ๖๕-๗๐ เสียงให้ได้

สายสัมพันธ์ลึกซึ้งระหว่าง กลุ่ม ส.ว.นายพล ลุงป้อม  และ ทักษิณ ในช่วงที่ผ่านมา มีการพูดคุยกันในระดับหนึ่ง

เพียงแต่สูตรนี้ ไม่มี ก้าวไกล.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'นักโทษ'ตรวจการบ้าน

ยกประเทศให้ไปเลยดีมั้ยครับ นานๆ ประชดที เพราะทนเห็นบางคนยังใช้สันดานเดิม เป็นสันดานที่ทำให้ต้องหนีไปอยู่ต่างประเทศนานถึง ๑๗ ปีไม่ได้

เลือกคุกจะได้คุก

ว่อนสิครับ! หนังสือจาก "เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ" ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี

ตายหมู่ไปกับ 'ดิจิทัลวอลเล็ต'

ในที่สุดก็ชัดเจน ถือเป็นความรับผิดร่วมกันของคณะรัฐมนตรี โดยมิอาจมีใครปฏิเสธในภายหลังได้เลยว่า ไม่มีส่วนรับรู้กับนโยบายแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต ให้ประชาชนหัวละ ๑ หมื่นบาท ด้วยงบประมาณกว่า ๕ แสนล้านบาท

มันมากับความเงียบ

งานเลี้ยงใกล้เลิกรา... สมาชิกวุฒิสภาชุดปัจจุบันจะหมดวาระลงเดือนพฤษภาคมนี้แล้วครับ

แผนแทรกแซงกองทัพ

ก็ยังไม่เห็นว่าหน้าตาชัดๆ เป็นอย่างไร หมายถึงกฎหมายต้านการปฏิวัติรัฐประหารครับ

ประชาธิปไตยแบบไทยๆ

นักการเมืองคนไหนที่บอกว่า "รวยพอแล้ว" อย่าไปเชื่อ เพราะถ้าพอจะไม่แสวงอำนาจการเมือง