คนอเมริกันกำลังจับตาดูว่าโดนัลด์ ทรัมป์ จะกลับมาท้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในปีหน้าอีกรอบหรือไม่...ถือเป็นการชำระแค้น โจ ไบเดน ที่เอาชนะเขาไปคราวที่แล้ว
แต่รอบนี้ ทรัมป์เจออุปสรรคขวากหนามหลายคดีอื้อฉาว อีกทั้งยังมีผู้ท้าชิงในพรรครีพับลิกันเป็นแถวยาวเหยียด
ที่สร้างความหงุดหงิดใจให้เป็นพิเศษ เห็นจะเป็นเพราะคนสนิทหลายคนแทนที่จะมาหนุนหลังให้ตนกลับสู่ทำเนียบขาว กลับเสนอตัวมาแข่งขันเสียเอง
ไมก์ เพนซ์ อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ เพิ่งประกาศว่าจะกระโดดลงมาแข่งกับทรัมป์เพื่อให้พรรคเลือกเขาเป็นตัวแทนแข่งกับโจ ไบเดน
และดูเหมือนไมก์ เพนซ์ จะไม่กลัวที่จะยืนอยู่คนละข้างกับเจ้านายเก่าในหลายประเด็นที่สำคัญๆ
ลองจินตนาการว่าทั้งสองต้องขึ้นเวทีดีเบตกัน ระหว่างการทำศึกเพื่อให้พรรคเลือกเพียงคนเดียว จะดุเด็ดเผ็ดมันเพียงใด
ก่อนหน้าไมก์ เพนซ์ ประกาศลงมัคร Chris Christie (คริส คริสตี) อดีตผู้ว่าการรัฐนิวเจอร์ซีย์ก็เสนอตัวเป็นคู่แข่งอีกคน
และ Doug Burgum (ดั๊ก เบอร์กัม) ผู้ว่าการรัฐนอร์ทดาโคตาก็เพิ่งกระโจนลงสนามเช่นกัน
ผมลองเรียงลำดับผู้ท้าชิงของพรรครีพับลิกันเท่าที่แสดงตนแล้วอย่างเป็นทางการ ก็จะเห็นภาพการแข่งขันที่ค่อนข้างจะดุเดือด
Donald Trump โดนัลด์ ทรัมป์
ทรัมป์ วัย 76 ปี ประกาศหาเสียงลงสมัครอย่างเป็นทางการตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว
ตอนนี้ทรัมป์โดนเสียงวิจารณ์ดังที่สุดจากภายในพรรคเอง เพราะล้มเหลวในการหนุนผู้สมัครพรรคขวาจัดที่พ่ายแพ้ในการเลือกตั้งกลางเทอม
แต่บารมีของทรัมป์ยังไม่ถึงกับเสื่อมคลายมาก เพราะลูกพรรคจำนวนไม่น้อยยังหวังพึ่งความนิยมชมชอบของคนอเมริกันจำนวนหนึ่งต่อทรัมป์ ในการช่วยหาเสียงให้ตนในการลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.และ ส.ว.ในปลายปีหน้าเช่นกัน
ทรัมป์ยังมีฐานเสียงเป็นกอบเป็นกำ และพยายามจะรักษากลุ่มคนเหล่านี้ไว้เพื่อสู้กับความถดถอยในคะแนนนิยม หลังเขาถูกฟ้องร้องโดยอัยการนิวยอร์กในข้อหาจ่ายเงินให้แก่ดาราหนังโป๊
ถึงวันนี้ไม่ว่าจะมีผู้สมัครท้าชิงเขากี่ราย ยังถือได้ว่าทรัมป์ยังเป็น “ตัวเต็ง” สำหรับพรรครีพับลิกันอยู่...ถ้าไม่มีอุบัติเหตุทางการเมืองอย่างอื่นเข้ามาแทรกจากนี้ถึงวันเลือกตั้งสิ้นปีหน้าเสียก่อน
คนที่สร้างความปวดหัวให้ทรัมป์ไม่น้อยคือ Ron DeSantis (รอน เดแซนทิส) ผู้ว่าการรัฐฟลอริดา
มีคนมองว่าเขามีนโยบายหลายอย่างไม่ต่างจากทรัมป์มากนัก เดแซนทิสจึงพยายามวางตำแหน่งตัวเองไปทางขวากว่าทรัมป์อีกในหลายประเด็น
เดแซนทิส วัย 44 ปี ซึ่งครองอันดับสองรองจากทรัมป์ในการสำรวจความคิดเห็นส่วนใหญ่ ได้ลงนามในร่างกฎหมายที่กำหนดข้อจำกัดใหม่เกี่ยวกับการทำแท้งและคลายกฎหมายปืนเพิ่มเติม
เป็นจุดยืนที่อาจช่วยดันคะแนนนิยมของเขาในพรรครีพับลิกัน แต่ก็อาจเป็นผลร้ายในมวลหมู่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งอิสระและผู้มีสิทธิเลือกตั้งระดับปานกลาง
เขามีประเด็นที่ฟาดฟันกับ Walt Disney Co เกี่ยวกับสวนสนุกในฟลอริดาที่มีผลทำให้ผู้บริจาคเงินช่วยเขาบางคนตกใจ
จุดยืนของเขาที่มาในรูปการส่งข้อความที่หลากหลาย วิพากษ์วิจารณ์จุดยืนของสหรัฐฯ ที่ช่วยยูเครน ยูเครนก็อาจมีผลกระทบต่อฐานเสียงอนุรักษนิยมของเขาได้
ผู้สมัครอีกคนหนึ่งคือ Tim Scott (ทิม สกอตต์) วุฒิสมาชิกสหรัฐฯ จากพรรครีพับลิกัน ผู้เป็นนักการเมืองผิวดำเพียงคนเดียวที่ไม่ค่อยมีชื่อเป็นที่รู้จักนอกรัฐเซาท์แคโรไลนาซึ่งเป็นบ้านเกิดของเขา
จุดแข็งของเขาคือ ทัศนคติที่มองโลกในแง่ดีและการมุ่งเน้นรวมพรรคที่แตกแยกเป็นหนึ่งเดียว
แนวทางนี้อาจจะช่วยให้เขาได้คะแนนจากคนที่เบื่อหน่ายต่อท่าทีที่แข็งกร้าวมากขึ้นของทรัมป์และเดแซนทิส
แต่ผู้สนับสนุนสกอตต์ยอมรับว่า ท่าทีอันราบเรียบนั้นแม้จะเป็นจุดขายได้แต่อาจไม่เพียงพอที่จะชนะได้
สกอตต์ วัย 57 ปี มีผู้สนับสนุนจากสมาชิกพรรครีพับลิกันที่ลงทะเบียนเพียง 1% ตามการสำรวจของรอยเตอร์/อิปซอส
สุภาพสตรีหนึ่งเดียวขณะนี้คือ Nikki Haley (นิกกี เฮลีย์)
อดีตผู้ว่าการรัฐเซาท์แคโรไลนาและเอกอัครราชทูตที่ทรัมป์ตั้งไปประจำสหประชาชาติ
เฮลีย์ วัย 51 ปี ได้เน้นย้ำถึงอายุที่ยังน้อยของเธอถือเป็นจุดแข็ง โดยเฉพาะเมื่อเปรียบเทียบกับไบเดนและทรัมป์
เธอตอกย้ำถึงภูมิหลังชีวิต ในฐานะลูกสาวของพ่อแม่ที่เป็นผู้อพยพชาวอินเดีย (รองประธานาธิบดีคนปัจจุบัน กมลา แฮร์ริส และจะลงแข่งเป็นคู่หูของไบเดนก็มีเชื้อสายอินเดียเหมือนกัน)
เฮลีย์เป็นที่รู้จักในพรรครีพับลิกันในฐานะนักอนุรักษนิยม ที่มีความสามารถในการแก้ไขปัญหาเรื่องเพศและเชื้อชาติ ในแบบที่น่าเชื่อถือได้มากกว่าเพื่อนนักการเมืองของเธอหลายคน
เธอยังตั้งตัวเป็นผู้ปกป้องผลประโยชน์ของชาวอเมริกันในต่างประเทศ เธอดึงดูดเสียงสนับสนุนประมาณ 4% จากผู้มีสิทธิเลือกตั้งจากพรรครีพับลิกัน
นักธุรกิจที่แปลงตัวมาเป็นนักการเมือง Vivek Ramaswamy (วิเวก รามาสวามี) ก็กระโดดลงแข่งเช่นกัน
เขาเป็นอดีตนักลงทุนและผู้บริหารด้านเทคโนโลยี ชีวภาพวัยเพียง 37 ปี
เขาเริ่มก่อตั้งบริษัทในปี 2565 โดยเน้นโครงการริเริ่มด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล
วิเวกประกาศเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ว่า เขาลงสมัครรับเลือกตั้งโดยขายประเด็นว่าเขาเป็น “คนนอกวงการการเมืองที่จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงการเมือง”
อดีตรองประธานาธิบดี Mike Pence (ไมก์ เพนซ์) ลงสมัครครั้งนี้คงจะตระหนักได้ว่าหลีกหนีไม่พ้นที่จะต้องปะทะกับทรัมป์
เพนซ์แตกหักกับทรัมป์เมื่อผู้สนับสนุนทรัมป์บุกเข้าไปในอาคารรัฐสภาของสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2021 เพื่อไม่ให้รัฐสภายอมรับผลการเลือกตั้งที่ให้ไบเดนชนะ
ในขณะนั้นเพนซ์อยู่ในตึกรัฐสภา ทำหน้าที่เป็นประธานวุฒิสภาโดยตำแหน่ง และปฏิเสธที่จะประกาศให้ผลการนับคะแนนเป็นโมฆะ
เพนซ์ในวัย 64 ปีเคยประกาศว่า "ประวัติศาสตร์จะทำให้ทรัมป์ต้องรับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้น" อันหมายถึงเหตุจลาจลที่ตึกรัฐสภาวันนั้น
Chris Christie (คริส คริสตี) อดีตผู้ว่าการรัฐนิวเจอร์ซีย์ วัย 60 ปี เคยให้คำปรึกษาการหาเสียงในทำเนียบขาวในยุคของทรัมป์
คริสตีเริ่มหาเสียงเมื่อต้นเดือนมิถุนายนและเข้าร่วมในฐานะผู้มาทีหลัง
มีเพียง 1% ของพรรครีพับลิกันที่เชื่อว่าเขาจะเป็นผู้ได้รับการเสนอชื่อในปี 2024 จากแบบสำรวจของ Reuters/Ipsos ที่จัดทำขึ้นเมื่อวันที่ 9-15 พฤษภาคม
ผู้อาสาอีกคนคือ Asa Hutchinson (อาซา ฮัตชินสัน)
อดีตผู้ว่าการรัฐอาร์คันซอ ซึ่งเปิดตัวเมื่อเดือนเมษายนโดยเรียกร้องให้ทรัมป์หลีกทางเพื่อไปแก้ปัญหาคดีต่างๆ ของเขาเสีย
ฮัตชินสัน วัย 72 ปี ขายความเป็นผู้มีประสบการณ์ในการเป็นผู้นำรัฐอนุรักษนิยม ที่ย้ำนโยบายการลดภาษีและการริเริ่มสร้างงาน
แต่คนนอกรัฐของเขาน้อยคนจะจดจำชื่อของเขาได้
นักการเมืองที่ยังไม่เป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางคือ Doug Burgum (ดั๊ก เบอร์กัม) ผู้ว่าการรัฐนอร์ทดาโคตาสมัยที่สอง วัย 66 ปี
เขาสร้างธุรกิจซอฟต์แวร์ที่ประสบความสำเร็จ ก่อนที่จะขายให้แก่ Microsoft Corp ในปี 2544
นโยบายหาเสียงของเขาคือ อัตราภาษีต่ำและกฎระเบียบที่น้อยลง
เน้นจุดแข็งของการเป็นตัวแทนพวกอนุรักษนิยมดั้งเดิม ที่ให้ความสำคัญกับเศรษฐกิจและความรักชาติเป็นหลัก
สรุปว่าผู้ขอขึ้นเวทีท้าชิงทรัมป์ยืนคอยเป็นคิวยาวเหยียด...แต่หากฟังทรัมป์หาเสียงแล้ว เขาไม่ได้หวั่นเกรงความท้าทายใดๆ เลย
ทรัมป์มองข้ามช็อตเตรียมจะยิงหมัดน็อกใส่โจ ไบเดน เท่านั้น!
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
มีแม้วไม่มีเรา! วัดใจจุดยืน 'พรรคส้ม' หลังทักษิณขีดเส้นแบ่งข้างทุกเวทีแล้ว
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า "พรรคส้มกล้าไหม? มีแม้วไม่มีเรา!
ประเทศเดียวในโลก ‘นายกฯทับซ้อน’ มหันตภัยปี 2568
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่าสำนักวิจัยต่าง ๆ กำลังวิเคราะห์เพื่อพยากรณ์ว่าประเทศไทยจะต้องเผชิญกับความท้าทายสาหัสอะไรบ้างใน
‘หยุ่น’ ฟันเปรี้ยงรอดยาก! ชั้น 14 ดิ้นอย่างไรก็ไม่หลุด
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า เรื่องชั้น 14 จะดิ้นอย่างไรก็หลุดยาก จึงเห็นการเฉไฉ, ตีหน้าตาย
บิ๊กเซอร์ไพรส์ 'สุทธิชัย หยุ่น' เล่นซีรีส์ 'The White Lotus ซีซั่น 3'
เรียกว่าสร้างความเซอร์ไพรส์อย่างต่อเนื่อง สำหรับซีรีส์ The White Lotus ซีซั่น 3 ซึ่งจะสตรีมผ่าน Max ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2025 เพราะนอกจากจะมี ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล หรือ ลิซ่า BLACKPINK ไอดอลเกาหลีสัญชาติไทย ที่กระโดดลงมาชิมลางงานแสดงเป็นครั้งแรก ในบทของ มุก สาวพนักงานโรงแรม
ถามแสกหน้า 'ทักษิณ' จะพลิกเศรษฐกิจไทยยังไง ทุกซอกมุมในสังคมยังเต็มไปด้วยทุจริตโกงกิน
นายสุทธิชัย หยุ่น นักวิเคราะห์ข่าวและผู้ดำเนินรายการข่าวชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า “เขาจะพลิกประเทศไทยให้เศรษฐกิจล้ำโลกได้หรือ
เขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนที่กลายเป็น ที่ซ่องสุมของอาชญากรรมข้ามชาติ
เมื่อวานเขียนถึงรายงานในสำนักข่าวชายขอบที่สำนักจะได้รับความสนใจของรัฐบาลไทยว่าด้วยกิจกรรมอาชญากรรมข้ามชาติในบริเวณ “เขตเศรษฐกิจพิเศษ” ที่สามเหลี่ยมทองคำ


