วันนี้ สงครามยูเครนเข้าสู่วันที่ 496...และเป็นจังหวะที่ประธานาธิบดีปูตินของรัสเซียประกาศว่ากำลังเสริมกองทัพรัสเซียด้วยนิวเคลียร์อย่างจริงจัง
สะท้อนว่าโอกาสการหาทางเจรจาสู่สันติภาพนั้นยิ่งนับวันยิ่งจะห่างไกลออกไป
สองสัปดาห์ก่อน ปูตินเปิดเผยแผนของ “อนาคตกองทัพรัสเซีย” ที่ตอกย้ำถึงการเสริมความแข็งแกร่งเพื่อเตรียมการทำสงครามยืดเยื้อ
และแม้หากจำเป็นต้องเปิดศึกกับกองทัพของ NATO ก็พร้อมจะรับมืออย่างไม่เกรงกลัว (เป็นคำยืนยันจากรัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย เซอร์เกย์ ลาฟรอฟ ก่อนหน้าปูตินจะประกาศแผนเสริมทัพรัสเซีย)
คำกล่าวของปูตินนั้นบอกว่ามอสโกจะเสริมความแข็งแกร่งให้กับกองกำลังนิวเคลียร์ 3 กลุ่ม และเสริมกำลังทหารด้วยอาวุธล้ำสมัย
ซึ่งรวมถึงโดรนและหุ่นยนต์
ในการพบปะกับบัณฑิตวิทยาลัยการทหารในกรุงมอสโกของรัสเซีย ปูตินย้ำว่าการเสริมกำลังกองทัพถือเป็นหนึ่งในความสำคัญสูงสุดของรัสเซีย
เพราะเป็นการพัฒนาบนพื้นฐานของ “ประสบการณ์อันประเมินค่าไม่ได้” จากปฏิบัติการทางทหารอย่างต่อเนื่องในยูเครน
อีกทั้งยังต้องสร้างความพร้อมเพื่อรับความท้าทายสมัยใหม่ที่รัสเซียกำลังเผชิญในทุกรูปแบบ
ปูตินยืนยันว่าอาวุธนิวเคลียร์สามกลุ่มของรัสเซียจะมีความสำคัญลำดับต้นๆ จากนี้ไป
เพราะนั่นจะเป็น “หลักประกันสำคัญด้านความมั่นคงทางทหารของรัสเซียและเสถียรภาพของโลก”
ประมาณครึ่งหนึ่งของหน่วยขีปนาวุธทางยุทธศาสตร์บนบกของรัสเซียได้รับการติดตั้งขีปนาวุธ Yars ที่ล้ำสมัยแล้ว
ซึ่งเป็นขีปนาวุธข้ามทวีปที่ทันสมัยที่สุดของรัสเซีย ปูตินเผย
นอกจากนี้ กองทัพรัสเซียยังมีเครื่องร่อน Avangard ที่มีความเร็วเหนือเสียงที่สามารถติดตั้งบนขีปนาวุธพิสัยไกลข้ามทวีปหรือ ICBMs
ไม่แต่เท่านั้น ปูตินยังบอกว่ากองทัพยังจะได้รับการจัดหาขีปนาวุธต่อต้านเรือ Zircon ที่มีความเร็วเหนือเสียง ซึ่งกองทัพเรือจะใช้คู่ขนานกับขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง Kinzhal
และอีกไม่ช้าไม่นาน ขีปนาวุธข้ามทวีปแบบหนัก Sarmat รุ่นใหม่ก็กำลังจะเข้าประจำการร่วมในการสู้รบได้เช่นกัน
แต่การปรับปรุงยกระดับให้กองทัพรัสเซียทันสมัยจะไม่จำกัดเฉพาะอาวุธนิวเคลียร์เท่านั้น
ปูตินย้ำว่าจะมีการอัปเกรดหรือยกระดับมาตรฐานของชุดเกราะหนา ระบบป้องกันภัยทางอากาศ และการผลิตโดรนทั้งหมด
ปูตินยืนยันว่า “เรายังต้องทำอะไรอีกมากเพื่อยกระดับคุณภาพทุกส่วนของกองทัพของเรา”
และเสริมว่ารัสเซีย “กำลังดำเนินการตามแผนเหล่านั้นอย่างเต็มที่”
โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุตสาหกรรมป้องกันประเทศของรัสเซียคาดว่าจะ "เพิ่มการผลิตโดรนจำนวนมาก"
อีกทั้งยังจะเสริมให้การผลิต "ระบบโจมตีด้วยหุ่นยนต์" ที่ "ได้ผลลัพธ์ที่ดีในการสู้รบ" อย่างเป็นจริงเป็นจังด้วย
ปูตินประกาศเสริมศักยภาพของกองทัพรัสเซียหนึ่งวันหลังจากรัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย เซอร์เกย์ ลาฟรอฟ กล่าวว่า มอสโกอาจพร้อมสำหรับความขัดแย้งกับนาโต
หากนาโตตัดสินใจโจมตีรัสเซีย “มาเลย นักรบของเราพร้อมแล้ว”
ปูตินเคยบอกว่าความขัดแย้งในยูเครนเป็นสงครามลูกผสมที่รัสเซียเผชิญหน้ากับ “กลไกทางทหารของตะวันตกทั้งหมด”
คำประกาศของปูตินมาในจังหวะที่ยูเครนเปิด “ยุทธการโต้กลับ” ตั้งแต่ต้นเดือนมิถุนายน
รัสเซียมองว่าปฏิบัติการครั้งใหม่ของยูเครนไม่ส่งผลทางบวกใดๆ ให้กับยูเครน
กระทรวงกลาโหมรัสเซียแจ้งว่าทหารยูเครนได้รับบาดเจ็บอย่างหนักจากความพยายามโจมตีที่ตั้งต่างๆ ของฝ่ายรัสเซีย
สื่อรัสเซียอ้างว่า แม้แต่เลขาธิการนาโตยังยอมรับว่ารัสเซียได้ปักหลักตั้งรับการตีโต้ของยูเครน “ด้วยการเตรียมพร้อมอย่างดี”
ค่อนข้างแน่ชัดว่าทหารรัสเซียได้สรุปบทเรียนจากสนามรบมาหลายๆ มิติ
ทหารยูเครนใช้วิธีซุ่มโจมตีที่ตั้งของรัสเซีย แต่ดูเหมือนว่าจะประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง
ทำให้ทหารรัสเซียในสนามรบต้องปรับตัวครั้งสำคัญ
เพราะมีกระแสข่าวว่าทหารรัสเซียต้องเผชิญกับปัญหาของการประสานงานในสมรภูมิรบจนเกิดความเพลี่ยงพล้ำในหลายๆ จุดของการสู้รบ
แต่นักยุทธศาสตร์ทางทหารมองว่ากองทัพรัสเซียกำลังเรียนรู้จากความผิดพลาดของตน และปรับให้เข้ากับยุทธวิธีของยูเครน
ในตอนแรกรัสเซียอาจจะประเมินความสามารถในการทำสงครามของทหารยูเครนต่ำไป
บางจังหวะนั้นทหารรัสเซียปราบทหารยูเครนได้ด้วยอำนาจการยิงที่เหนือกว่า
แต่เมื่อพลาดท่าเสียทีในตอนหลัง ก็มีการปรับกลยุทธ์ในภาคสนามกันพอสมควร
นักข่าวสงครามบางสำนักรายงานว่าการปรับตัวของทหารรัสเซียคือการไม่ลุยเข้าสู่เป้าหมายแบบเดิม
แต่หันมาใช้โดรนและเลือกเป้าหมายอย่างระมัดระวังมากขึ้น
บางครั้งก็ตะโกนเพื่อค้นหาสนามเพลาะของยูเครนก่อนที่จะโจมตี
ก่อนการ “ปราบกบฏวากเนอร์” ปูตินเชื่อว่าทหารรับจ้างได้แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการเอาชนะทหารยูเครนด้วยการผสมผสานระหว่างกลยุทธ์ที่ที่ปรับปรุงใหม่อย่างระมัดระวังตัวมากขึ้น
พอประกาศเปิดศึกรอบใหม่ หรือ counter-offensive ยูเครนมีอาวุธค่อนข้างจะครบครันจากตะวันตก
และอีกปัจจัยหนึ่งที่สำคัญคือการได้รับการสนับสนุนจากเทคโนโลยีการสื่อสารที่ดีขึ้นอีกด้วย
แต่กองกำลังของมอสโกได้ยกระดับการตั้งรับให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
เช่นการประสานงานของหน่วยปืนใหญ่กับการสนับสนุนทางอากาศ
เจ้าหน้าที่ตะวันตกยอมรับว่าการปรับแผนรบของทหารรัสเซียมีผลให้สามารถสกัดกั้นการรุกคืบของทหารยูเครนได้
นั่นคือการปรับแผนมาเป็นตั้งรับ ซึ่งต่างกับแผนตอนแรกของรัสเซียที่ลุยอย่างเต็มรูปแบบเพื่อจะ “ปิดเกม” สงครามให้เร็วที่สุด
แต่ทุกอย่างไม่ได้เป็นไปตามแผน
แม้แต่เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ยอมรับว่ายุทธวิธีของรัสเซียได้รับการปรับแก้อย่างมีนัยสำคัญ
เป็นที่มาของการประกาศของประธานาธิบดีเซเลนสกีให้ชะลอการรุกใหญ่ของฝ่ายยูเครน เพราะทหารของตนต้องเผชิญกับแรงต้านจากรัสเซียอย่างหนัก
เซเลนสกีบอกว่า “นี่ไม่ใช่หนังฮอลลีวูด...มันไม่ได้เดินตามบทหนังที่จะได้เริ่มเมื่อไหร่และจบอย่างไร”
เท่ากับยอมรับว่า “ศึกครั้งนี้ใหญ่หลวง...และหนักหน่วงนัก”
เมื่อไม่มีฝ่ายไหน “ปิดเกม” ได้ สงครามก็จะยืดเยื้อต่อไป
และคำประกาศของปูตินที่จะเสริมอาวุธนิวเคลียร์ในหน่วยต่างๆ ของกองทัพ ก็เท่ากับเป็นการยืนยันว่ามอสโกไม่มีวันยอมถอยจากสนามรบเพื่อไปโต๊ะเจรจาในเร็วๆ นี้แน่นอน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
มีแม้วไม่มีเรา! วัดใจจุดยืน 'พรรคส้ม' หลังทักษิณขีดเส้นแบ่งข้างทุกเวทีแล้ว
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า "พรรคส้มกล้าไหม? มีแม้วไม่มีเรา!
ประเทศเดียวในโลก ‘นายกฯทับซ้อน’ มหันตภัยปี 2568
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่าสำนักวิจัยต่าง ๆ กำลังวิเคราะห์เพื่อพยากรณ์ว่าประเทศไทยจะต้องเผชิญกับความท้าทายสาหัสอะไรบ้างใน
‘หยุ่น’ ฟันเปรี้ยงรอดยาก! ชั้น 14 ดิ้นอย่างไรก็ไม่หลุด
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า เรื่องชั้น 14 จะดิ้นอย่างไรก็หลุดยาก จึงเห็นการเฉไฉ, ตีหน้าตาย
บิ๊กเซอร์ไพรส์ 'สุทธิชัย หยุ่น' เล่นซีรีส์ 'The White Lotus ซีซั่น 3'
เรียกว่าสร้างความเซอร์ไพรส์อย่างต่อเนื่อง สำหรับซีรีส์ The White Lotus ซีซั่น 3 ซึ่งจะสตรีมผ่าน Max ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2025 เพราะนอกจากจะมี ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล หรือ ลิซ่า BLACKPINK ไอดอลเกาหลีสัญชาติไทย ที่กระโดดลงมาชิมลางงานแสดงเป็นครั้งแรก ในบทของ มุก สาวพนักงานโรงแรม
ถามแสกหน้า 'ทักษิณ' จะพลิกเศรษฐกิจไทยยังไง ทุกซอกมุมในสังคมยังเต็มไปด้วยทุจริตโกงกิน
นายสุทธิชัย หยุ่น นักวิเคราะห์ข่าวและผู้ดำเนินรายการข่าวชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า “เขาจะพลิกประเทศไทยให้เศรษฐกิจล้ำโลกได้หรือ
เขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดนที่กลายเป็น ที่ซ่องสุมของอาชญากรรมข้ามชาติ
เมื่อวานเขียนถึงรายงานในสำนักข่าวชายขอบที่สำนักจะได้รับความสนใจของรัฐบาลไทยว่าด้วยกิจกรรมอาชญากรรมข้ามชาติในบริเวณ “เขตเศรษฐกิจพิเศษ” ที่สามเหลี่ยมทองคำ


