บันทึกหน้า 4

ไทยโพสต์ "อิสรภาพแห่งความคิด" www.thaipost.net ปิดฉาก "นายกฯ อุปโลกน์" รอบแรก หลังที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภามีมติเห็นชอบให้ "พิธา ลิ้มเจริญรัตน์" หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรี เพียง 324 เสียง ขณะที่ไม่เห็นชอบ 182 งดออกเสียง 199 จากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาที่มีอยู่ทั้งหมด 749 เสียง เนื่องจาก น.ส.เรณู ตังคจิวางกูร ส.ว. ลาออก 12 ก.ค. มากกว่ากึ่งหนึ่งก็คือต้องได้ 375 เสียงขึ้นไป เท่ากับยังขาดถึง 51 เสียง "สิ่งที่เป็นไม่ใช่สิ่งที่เห็น" ที่เลขาธิการพรรคก้าวไกลพร่ำบอกก่อนหน้านี้ สุดท้ายสิ่งที่เป็นก็คือสิ่งที่เห็นตำตาตำใจ เสียงจาก ส.ว. ที่มั่นใจจะได้เกินกว่า 60 เสียง หดเหลือแค่ 13 คนเท่านั้น ได้แก่ ศ.เกียรติคุณ นพ.ไกรสิทธิ์ ตันติศิรินทร์, พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา, เฉลา พวงมาลัย, ซากีย์ พิทักษ์ชุมพล, พ.ต.ท.ณัฏฐวัฒก์ รอดบางยาง, พีระศักดิ์ พอจิต, พิศาล มาณวพัฒน์, มณเฑียร บุญตัน, วันชัย สอนศิริ, วุฒิพันธุ์ วิชัยรัตน์, สุรเดช จิรัฐิติเจริญ, อำพล จินดาวัฒนะ, ประภาศรี สุฉันทบุตร          

"ผลที่ออกมาเรายอมรับ แต่ไม่ยอมแพ้ และยอมรับว่าเสียงมติไม่ถึง 376 ได้เพียง 324 แล้วสาเหตุที่ออกมาเช่นนี้เพราะว่ามีการกดดัน ส.ว.เยอะ และที่ไม่มาประชุมอีก 40 กว่าคน จึงไม่ตรงตามที่เราคาดการณ์ไว้ และหลังจากนี้เราก็จะหาเวลาคิดยุทธศาสตร์เพื่อรวบรวมเสียงในการโหวตครั้งต่อไป... เราได้สัญญากับประชาชนไว้อย่างไร เราก็ทำอย่างนั้น ไม่ถอยมาตรา 112" 6 ชั่วโมงที่ "พิธา" โดนซักฟอก ถ้าย้อนไปปี 62 ถือว่าใช้เวลาสั้นกว่าคราวอภิปราย "บิ๊กตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งมาราธอนถึง 15 ชั่วโมง กว่าจะได้ลงมติ แต่ถ้าเทียบความเข้มข้นของเนื้อหาที่สมาชิกสองสภาระดมใส่แล้ว ดุเดือดไม่แพ้กัน และดูจะข้อหาหนักกว่าด้วยซ้ำในประเด็นยกเลิก 112 ยิ่งศาลรัฐธรรมนูญเพิ่งมีคำสั่งรับคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร อดีตทนายความพระพุทธะอิสระ กรณีนายพิธา และพรรคก้าวไกล หาเสียงเลือกตั้งเสนอแก้ไขมาตรา 112 เข้าข่ายล้มล้างการปกครอง ช่วยตอกย้ำชัดขึ้น แถมข้อหาฉกาจฉกรรจ์กว่าปมถือหุ้นสื่อเยอะเลย ในเมื่อ "พิธา" หูทวนลมไม่ฟังเสียงทักท้วงจากเพื่อนสมาชิกทั้งสองสภา ไม่มีเกียร์ถอยหลัง ก็เตรียมรับชะตากรรมในภายภาคหน้าได้เลย

๐ ถ้าเปรียบเป็นละครโรงใหญ่ ต้องยกนิ้วให้เพื่อไทย เอาไปเลยตุ๊กตาทอง จูบปากก้าวไกลแสดงได้ลื่นไหล โดยเฉพาะนักแสดงคิวบู้ "อดิศร เพียงเกษ" ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เปลี่ยนบท 360 องศา อภิปรายหนุนพิธา ตบท้ายร่ายกลอนหวานเจี๊ยบ "ขอสัญญาจะเลือกพิธา ขอ ส.ว.ยกมือสนับสนุน ประชาชนเขาเลือกมานั้น เป็นคุณ พิธาจะทำงานแทนคุณประเทศเอย" หนังคนละม้วนกับตอนเลือกประธานสภาฯ ห้าวใส่ไม่ยั้ง ตราหน้าพรรคส้มเป็นพระบวชใหม่ริจะเป็นเจ้าอาวาส ฉวยแก้ 112 หาเสียงจนชนะ ชนิดสู้ไปโกหกไป ส่วนหัวหน้าพรรค "หมอชลน่าน ศรีแก้ว" ผู้เสนอชื่อพิธาเป็นนายกฯ ต่อที่ประชุมร่วมรัฐสภา ก่อนหน้านี้ก็โอดครวญโดนคลุมถุงชนให้มาแต่งกับก้าวไกล เรียกว่าแจกบทกันเล่นก็ว่าได้ เกมที่รู้ดีแก่ใจว่า "พิธา" ไม่มีวันชนะ ก็เลยต้องเล่นเอาใจกระแสสังคม ถึงจะหมั้นหมายกันแล้ว แต่ถ้าว่าที่เจ้าบ่าวมีอันเป็นไป วิวาห์ก็ล่มไปโดยปริยายจริงมั้ย

๐ ในเมื่อเวลานี้ทุกอย่างก็เริ่มเป็นใจ ช่างสอดรับช่วง "นายใหญ่" กลับบ้าน สูตรรัฐบาลใหม่ที่มีเพื่อไทยเป็นแกนนำนั่งนายกฯ สว่างไสวขึ้น ก็ต้องดูว่ายังเลือกจับมือ 8 พรรคเดิมหรือเปล่า พท.ย่อมรู้ดีว่าตราบใดที่มีก้าวไกลร่วมรัฐบาล หวังเสียงสนับสนุนจาก ส.ว.ได้ยาก แต่หนทางจะเปิดโล่งทันที หากเพื่อไทยเปลี่ยนขั้วไปจับมือกับพรรครัฐบาลเดิมที่มี 188 เสียง จากภูมิใจไทย 71 เสียง พลังประชารัฐ 40 เสียง รวมไทยสร้างชาติ 36 เสียง ประชาธิปัตย์ 25 เสียง ชาติพัฒนา 10 เสียง และยังมีพรรคเล็กอีก 6 เสียง เมื่อรวมกับ พท. 141 เสียง จะได้รัฐบาล 329 เสียง ตัวแปรสำคัญอย่าง ส.ว. เทคะแนนให้ง่ายขึ้น เก้าอี้นายกฯ คนที่ 30 ฉลุยแน่ ไม่ว่าจะชื่อ "เศรษฐา ทวีสิน" หรือ "แพทองธาร ชินวัตร" แค่ผลักก้าวไกลเป็นฝ่ายค้านเท่านั้นเอง ต้องจับตาดูพุธหน้าประชุมโหวตนายกฯ รอบสอง ยังเข็นชื่อ "พิธา" อีกรอบหรือเปล่า เพื่อสร้างความชอบธรรมให้ พท. ก่อนที่จะตลบหลังเขี่ยทิ้งขึ้นชิงเองในรอบสาม.

 

ลี้คิมฮวง

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

บันทึกหน้า 4

น้ำลด การเมืองผุด! หลังเพลาไปช่วงมหาวิปโยคใต้ เวลานี้กลับมาร้อนฉ่าอีกรอบ ช่วงเย็นพุธที่ผ่านมา คล้อยหลัง "นายกฯ อนุทิน" แถลงโชว์ถอนรากสแกมเมอร์เขมรยึดทรัพย์หมื่นล้าน

บันทึกหน้า 4

ต้องยอมรับว่าแม้ “มหาอุทกภัยในภาคใต้” เริ่มคลี่คลายเข้าสู่จุดการเยียวยา-ฟื้นฟูแล้วก็ตามที แต่ยอดผู้เสียชีวิตและความเสียหายก็ยังไม่นิ่งเสียทีเดียว แต่อย่างไรยอดผู้เสียชีวิตก็คงไม่ถึงพันศพตามที่ “พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล” อดีต รอง ผบ.ตร. วาดหวังแน่ๆ แล้ว

บันทึกหน้า 4

หลังวิกฤตน้ำท่วม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา คลี่คลาย น้ำตาก็ท่วมเมือง เมื่อชาวหาดใหญ่เห็นสภาพบ้านเรือนของตัวเองกลายเป็นซากปรักหักพัง ทรัพย์สินที่สร้างมาพังพาบไปกับกระแสน้ำแทบสิ้นเนื้อประดาตัว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ร่วมประชาสัมพันธ์กิจกรรมความร่วมมือ “รวมใจไทย ฟื้นแดนใต้” ซึ่งรัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์เป็นแกนกลางในการประสานงานร่วมกับภาคเอกชนและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

บันทึกหน้า 4

ภายใต้วิกฤตหาดใหญ่ครั้งนี้ ผู้นำรัฐบาลอย่าง อนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ และ รมว.มหาดไทย ถูกเรียกร้องให้แสดงความรับผิดชอบ แม้ต้นตอของปัญหาไม่ได้มาจากเขาคนเดียว

บันทึกหน้า 4

ขึ้นต้นเดือนสุดท้ายของปี บรรยากาศสังคมไทยยังคงซึมๆ เศร้าๆ อยู่กับเหตุและเภทภัยที่พี่น้องชาวใต้กำลังเผชิญ "น้ำลดตอผุด" ถูกขุดขึ้นมาเป็นรายวัน เหมือนมีใครบางคนกำลังช่วงชิงสถานการณ์หวัง "ตีกิน" สร้างดรามา แต่งคอนเทนต์ไล่ล่าเอาคะแนนนิยมคืนจากรัฐบาลที่นำโดยพรรคภูมิใจไทย

บันทึกหน้า 4

น้ำใจไทยไม่เคยเหือดแห้ง ถนนทุกสายจากทั่วประเทศมุ่งสู่ใต้ โดยเฉพาะ "มหาวิปโยคหาดใหญ่" ไม่ใช่แค่ทั้งเมืองจมบาดาล ทรัพย์สินเสียหาย แต่รวมถึงชีวิตที่ประเมินค่าไม่ได้ ซึ่งมีการอัปเดตตัวเลขช่วงเย็น 27 พ.ย.