
ในช่วงวันหยุดยาวนี้ ไม่ว่าคุณจะหยุด 3 วัน และอีก 2 วัน หรือหยุดยาว 6 วันเลย ผมขออนุญาตพาพวกเราออกจากวังวนเรื่องการเมืองสัก 1 วันก็ยังดีครับ
เพราะมีแต่คนจะเป็นจะตายเรื่องใครจะเป็นนายก อดีตนายกกลับมา (หรือไม่) ขั้วไหนจะบริหารประเทศและขั้วไหนจะเป็นฝ่ายค้าน ในช่วงนี้มีแต่เรื่องราวแบบนี้หมุนเวียนอยู่ในกาย ใจ และสมองของคนจำนวนไม่น้อย แล้วทำให้คนเหล่านี้รู้สึกเครียด รู้สึกโกรธ รู้สึกกังวล (ทั้งๆ ที่มีเรื่องราวในชีวิตส่วนตัวที่ควรใส่ใจและสนใจมากกว่า) ผมเลยอยากให้พักสมอง พักกาย และพักใจสักนิดหนึ่ง ด้วยคอลัมน์เบาๆ ครับ
ผมขอย้อนกลับไปสักนิดหนึ่งก่อน ในคอลัมน์นี้ผมเคยเขียนถึงเรื่องเพลงเพลงหนึ่งที่ผมฟังตั้งแต่ผมอายุ 15 ชื่อเพลง Money for Nothing ของวง Dire Straits ผมเล่าว่า ผมร้องท่อนหนึ่งในเพลงนี้ผิดมาตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้ฟังมา ร้องผิดจนฟังกับลูกในรถเมื่อประมาณปีที่แล้ว และลูกสาวนั่นแหละเป็นคนบอกว่า “พ่อร้องเพลงนี้ผิด”
ผมคิดในใจว่า “โถ่เอ้ย หนูเพิ่งรู้จักเพลงนี้ เรารู้จักเพลงนี้มา 30 กว่าปีแล้ว” แต่พอเอาเนื้อเพลงมาดู เขาก็ถูกของเขา ท่อนที่ผมร้องว่า "We’ve got your movies…refrigerators, we’ve got your movies…color tvs!!!” จะต้องร้องว่า “We’ve got to move these refrigerators, we’ve got to move these color tvs!!!” แทนครับ เลยถูกเด็กผู้หญิงอายุ 8 ขวบ ตบหน้าทีเดียวเลย
ช่วงเร็วๆ นี้ พวกเรากลับมาฟังเพลงนี้อีกรอบ เพราะลูกชายผมชอบฟังเสียงกีตาร์กับเสียงกลอง คำแรกที่จะร้องในเพลงนี้คือ “I want my…I want my MTV!!” เลยทำให้ลูกถามขึ้นมาว่า “MTV คืออะไร?”
ผมเกือบไล่เขาลงจากรถ และให้เขาเดินไปโรงเรียนเอง เพราะถ้าถามคนยุคผมว่า “MTV คืออะไร?” นั้น มันหยาบคายพอๆ กับด่าพ่อแม่เราครับ ถ้าคำถามนี้ปรากฏในช่วงผมเป็นวัยรุ่น ผมบอกเลยว่า คนถามเตรียมตัวเป็นเป้าให้ถูก Bully ได้เลย ถ้าในยุคนั้นมีใครถามคำถามนี้ขึ้นมา พวกเราจะชุมนุมเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ เสนอให้มีกฎหมายหมิ่นประมาทความรู้สึกพวกเรา และเอาผิดกับคนถามนี้ให้ได้
สำหรับคนรุ่นหนึ่ง MTV คือทุกอย่างครับ เราเรียนรู้มาตั้งแต่เด็กว่า ดวงดาวทุกดวงหมุนรอบพระอาทิตย์ใช่ไหมครับ? สำหรับพวกเราไม่ใช่ สำหรับพวกเรา ทุกอย่างในจักรวาลหมุนรอบ MTV ครับ
MTV เปลี่ยนโฉมแวดวงเพลง ผ่านสายตาพวกเราที่กำลังดูอยู่ ก่อนยุค MTV วงดนตรีทั้งหลาย แทบไม่ต้องสนใจเรื่องการทำ Music Video (หรือสมัยนี้เรียกว่า MV) เพราะมันไม่มีช่องทางให้คนนั่งดู MV ที่ไหนเป็นประจำ อาจจะมีบางรายการที่เปิดให้ดูบ้าง แต่ไม่ได้มีช่องสำหรับการดู MV โดยเฉพาะ แต่ไม่ใช่ว่าวงทุกวงไม่ใส่ใจในการทำ MV เลย มีอยู่บ้าง เช่น Queen, David Bowie, Rolling Stones ที่ทำ MV แตกต่างไปกว่าวงอื่นที่อัดเทปตัวเอง เล่นเพลงที่กำลังร้องอยู่ ซึ่งไม่รู้ว่าร้องสด หรือ lip sync กันแน่
เหมือนยุคก่อนๆ ที่ระบบเสียง ไม่ว่าจะเป็นการอัดเสียงและการฟังเสียงเพลงนั้นปรับจาก Mono เป็น Stereo และจาก Stereo มาเป็น Dolby นั้น MTV เปลี่ยนแปลงและพัฒนา แวดวงเพลงจากที่เคยคุ้นหู คุ้นตา และคุ้นเคย มาเป็นอุตสาหกรรมใหม่ในโลกใหม่ครับ
พอ MTV ออกอากาศครั้งแรกเมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 1981 ด้วยเพลง “Video Killed the Radio Star” จากวง The Buggles โลกของเราไม่เหมือนเดิมแล้วครับ โลกของแวดวงเพลงก็เปลี่ยนแปลงโดยสิ้นเชิง ซึ่งบางคนบอกว่าเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีหรือในทางที่ไม่ดี จากวันนั้นจนถึงวันนี้ ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงจริงๆ ครับ บางคนบอกว่าจากเมื่อก่อน การออกอัลบั้มครั้งหนึ่ง การที่จะให้เพลงเป็นที่รู้จักและผ่านวิทยุให้ได้ ตัวเพลงต้องแข็งจริงๆ ตัวเพลงต้องไพเราะจริงๆ และคนเล่นคนแต่งต้องมีพรสวรรค์ เพราะกว่าเพลงจะเป็นที่คุ้นหูผ่านวิทยุ กว่าดีเจจะเล่นเพลงของเราบ่อยๆ มันต้องผ่านอุปสรรคมากมาย ต้องแข่งกับเพลงอื่นๆ เป็นจำนวนเยอะ ดังนั้นเวลาสู้กัน สู้กันด้วยคุณภาพของเพลง
แต่ยุค MTV มีอีกชั้นหนึ่งที่ทำให้ศิลปินเอาเพลงของตัวเองสู้กับคนอื่นได้คือ หน้าตาของคนร้อง พรสวรรค์ในการเต้น การแต่งตัว และคุณภาพของตัว MV ที่จะทำให้คนสนใจดู…ก่อนจะสนใจฟัง ในยุคนั้นเป็นยุคปลายของ Punk Rock กำลังจะเข้ายุคของ New Wave และยังมีเพลงร็อก และเพลงอื่นๆ ยังคงอยู่ แต่ด้วยแนวเพลง New Wave ที่นักร้องแต่ละคน แสดงตัวของตัวเอง ผ่านวิธีการแต่งตัว ทำให้การดูเพลงเพลิดเพลินพอๆ กับการฟังเพลงครับ
นักร้องและวงหลายวงที่อาจร้องไม่เก่งนัก กลับรุ่งในยุค MTV เพราะ MV เขาน่าสนใจ และน่าดู ไม่ว่าจะเป็น Adam and the Ants (แล้วค่อยเป็น Adam Ant), Madness, Tony Basil, ABC, Kajagoogoo เป็นต้น วงเหล่านี้ล้วนแต่ได้รับประโยชน์เต็มๆ จากการทำ MV ที่ MTV ฉายซ้ำแล้วซ้ำเล่าตลอดทั้งวัน เลยทำให้ยอดขายของเพลงเขา เป็นที่นิยมตาม Top of the Pops ของอังกฤษและ America’s Top 40 ของสหรัฐอเมริกา
วงเหล่านั้นเป็นคลื่นแรกๆ ของ MTV ส่วนคลื่นต่อไปที่ผลักดันให้ MTV ขึ้นอีกชั้น มาจากผลงาน Culture Club, The Police, Madonna, Duran Duran และในที่สุด Michael Jackson พอผ่านคนเหล่านี้และวงเหล่านี้นั้น แวดวง MV เปลี่ยนแปลงโดยสิ้นเชิง และจะกลับมายุค วงดนตรีหรือนักร้องอัดเทปตัวเองร้องเพลงเฉยๆ ไม่ได้เลยครับ
ปัญหาอยู่ที่ว่า นักร้องบางคน และวงบางวง ไม่ได้มีพรสวรรค์การร้องเพลง แต่ดูดี เต้นดี ทำ MV ดี เลยมียอดขายและยอดฮิตมากกว่า วงเดิมเดิมที่เคยครองตลาด เลยทำให้มีการโต้เถียงกันว่าอันไหนสำคัญไปกว่ากัน การดูดีเพื่อทำ MV หรือการแต่งเพลงดีๆ ให้คนฟัง?
จริงๆ แล้วคำถามนี้ ยังเป็นประเด็นถกเถียงกันได้ เพราะเราก็เห็นกันอยู่ว่ามีนักร้องอยู่หลายคน (ไม่ว่าจะเป็นไทยหรือเทศ) ขายดิบขายดีเพราะหน้าตามากกว่าพรสวรรค์ เอาไว้ค่อยหยิบยกเป็นประเด็น พูดภายหลังดีกว่า เพราะอยากจบคอลัมน์ในวันนี้ด้วยการบอกว่า MTV ที่ผมเคยบูชา และเสพตลอดเวลานั้น มันไม่เหมือนเดิมแล้ว จากที่เคยเป็นผู้นำในโลกอุตสาหกรรมเพลง ตอนนี้ไม่มีใครพูดถึงเลย เพราะเขาปรับจากการเน้น MV มาเป็นช่อง เน้นเรื่อง Reality TV มากกว่า ซึ่งผมไม่รู้ว่าเพราะโลกของเราอิ่มกับ MV เพราะดูเหมือนเป็นเรื่องเก่าแล้ว และไม่ได้เป็นเรื่องตื่นเต้น หรือเพราะในสมัยนี้มีช่องทางอื่นให้คนดูในสิ่งที่ตัวเองอยากดู?
ผมไม่รู้คำตอบคืออะไรครับ รู้อย่างเดียวว่า เมื่อลูกถาม “MTV คืออะไร?” ผมตอบว่า “ตอนพ่อวัยรุ่นมันคือทุกสิ่งอย่าง”.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
SEA Games แบบไทยๆ
คงไม่มีข่าวอะไรที่คนสนใจเท่ากับเรื่องผู้มีชื่อเสียง ผู้มีอำนาจหลายท่านมีรูปถ่ายกับเบน สมิธ ซึ่งถ้าโลกสวยเมื่อบุคคลเหล่านี้บอกว่าไม่รู้จักเขา เพียงถ่ายรูปเฉยๆ
ถ้าต้นไม้ล้มในป่าแล้วคนไม่ทำคอนเทนต์ ไม่ลงรูปลงโซเชียล…จะมีเสียงไหม?
“ต้นไม้ที่ล้มในป่าจะมีเสียงหรือไม่ หากไม่มีคนอยู่ในที่นั่น?” หรือเป็นภาษาอังกฤษคือ “If a tree falls in a forest and no-one is around to hear it, does it make a sound?”
'คำพูดเป็นนายเรา'ยังจริงไหม?
เรื่องการกลับลำของประธานาธิบดี Donald Trump เกี่ยวกับ Epstein Files ผมว่าตลกดี เพราะตั้งแต่เป็นประธานาธิบดี Trump พูดแล้วพูดอีกว่า
'Thailand. Taiwan? Thailand. Taiwan?' Ok, yes. Taiwan.'
วันนี้ขออนุญาตเขียนเรื่องที่คนไทยทุกคนที่เคยใช้ชีวิตในต่างแดนเจอทุกๆ คน ยิ่งต่างแดนที่เป็นเมืองฝรั่งๆ หน่อย ผมกล้าพูดเต็มปากเต็มคำว่าคนไทย 100% ต้องเจอทุกคน
SNAP ดีหรือไม่ดี?
ในที่สุดท่าทีการยุติ Government Shutdown ในสหรัฐที่จะยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ อาจสิ้นสุดลงแล้ว ไม่ใช่เพราะความพยายาม หรือการประนีประนอม
Back to the Future…
กราบสวัสดีแฟนคอลัมน์ทุกท่านครับ ครั้งสุดท้ายที่เจอกันวันนี้ ชีวิตผมเปลี่ยนแปลงโดยสิ้นเชิง เดี๋ยวผมค่อยเล่า วันนี้ขออนุญาตเป็นเรื่องเบาๆ ซึ่งหลายคนอาจบอกว่าไร้สาระ หรือน่าหมั่นไส้ก็ได้ แต่ขอสักวันละกัน

