ดูเหมือน “รัฐบาลใหม่” ที่มีพรรคเพื่อไทย (พท.) ของคนแดนไกลอย่าง “ทักษิณ ชินวัตร” ที่ช่วงนี้เจอโรคเลื่อนการกลับประเทศไทยแบบยังไม่มีการเคาะวันเวลาออกมา จากกำหนดเดิมที่จะกลับในวันที่ 10 ส.ค.นั้น เริ่มเห็นรูปร่างมากขึ้นเรื่อยๆ โดย หลังจากดึงพรรคภูมิใจไทยของ “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พรรคอันดับสามเป็นพรรคแรกแล้ว ล่าสุดก็ไปดึงพรรคต่างๆ มาร่วมได้อีก 6 พรรค อันประกอบด้วย พรรคประชาชาติ, พรรคเสรีรวมไทย, พรรคท้องที่ไทย, พรรคเพื่อไทรวมพลัง, พรรคชาติพัฒนากล้า และพรรคพลังสังคมใหม่ ...๐
โดยจำนวนเสียงในขณะนี้ก็ต้องบอกว่า พรรครัฐบาล 8 พรรคใหม่มีเสียงรวมแล้ว 228 เสียง ประกอบด้วย เพื่อไทย 141 เสียง, ภูมิใจไทย 71 เสียง, ประชาชาติ 9 เสียง, เพื่อไทยรวมพลัง 2 เสียง, ชาติพัฒนากล้า 2 เสียง, เสรีรวมไทย 1 เสียง, พลังสังคมใหม่ 1 เสียง และท้องที่ไทย 1 เสียง รวมทั้งสิ้น 228 เสียง ...๐
แต่ดูเหมือน “เพื่อไทย” จะตีปี๊บล่วงหน้าบวกพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ของ “วราวุธ ศิลปอาชา” รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมไปอยู่ในพรรครวมรัฐบาล 9 พรรคแล้ว แม้จะยังไม่มีการตกล่องปล่องชิ้นกันเลย แต่ในเพจ “หมอชลน่าน Fc ไม่มีดราม่า” ก็ทำกราฟฟิกกำหนดตัวเลขไปแล้วว่ามีทั้งสิน 238 เสียง ทั้งที่นัดหารือกับพรรคของ “ท็อป” ในวันพฤหัสบดีที่ 10 ส.ค.นี้ ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะ สายสัมพันธ์ทั้งของ “ทักษิณ” ที่มีต่อ “บรรหาร ศิลปอาชา” อดีตหัวหน้าพรรค รวมถึง “ประภัตร โพธสุธน” นั้น ต้องบอกว่ามองตาก็รู้ใจกันก็ได้ ...๐
ที่สำคัญดูเหมือน “เพื่อไทย” ยังคงเดินหน้าที่จะหาเสียงสนับสนุนเพิ่มเติมแบบต้องการปิดสวิตช์สภาสูงอย่างแท้จริง เพราะคงเช็กเสียงแล้วพบว่า แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีที่ชื่อ “เศรษฐา ทวีสิน” พ่อค้าขายบ้านที่มาเอาดีทางการเมืองนั้น แม้พรรคเพื่อไทยจะประกาศย้ำในเรื่องคุณสมบัติ และไม่มีการกระทำผิดกฎหมายใดๆ เลย แต่ดูเหมือน “สว.” นั้นยังหลอนในเรื่อง “บกพร่องโดยสุจริต” รวมถึงความขัดแย้งทางผลประโยชน์ที่อาจเกิดขึ้นซ้ำรอยยุคแม้วครองเมือง อีกก็เป็นได้ งานนี้เลยได้เห็น “ภูมิธรรม เวชยชัย” รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทยถึงกับยอมให้เด็กมาถอนหงอกในโลกออนไลน์ โดยยอมขอขมาและขอโทษพรรคก้าวไกล เพียงแต่ขอให้โหวตแคนดิเดตนายกฯ ที่ชื่อ “เศรษฐา” เท่านั้น ...๐
ยังไม่พอ “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ยังลงทุนพา “นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค” “ภูมิธรรม” และ “ประเสริฐ จันทรรวงทอง” จากอาคาร OAI ทาวเวอร์ ซึ่งเป็นที่ทำการพรรคไปยังอาคารไทยซัมมิทที่เป็นที่ทำการของพรรคก้าวไกล ที่อยู่ข้างๆ กัน เพื่อเข้าเจรจากับพรรค ก.ก.ในการขอเสียงโหวต แต่ “ก้าวไกล” ก็คงไม่บ้าจี้โหวตให้แน่ เพราะรู้ทั้งรู้ว่ายกมือโหวตไป แต่กลับถูกทิ้งถูกลอยแพทางอำนาจ งานนี้เราจึงได้เห็นเกมของ สส.ก้าวไกลทั้งในเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ที่พาเหรดทำโพลสำรวจเรื่องว่าควรโหวตให้หรือไม่ให้กันอย่างหนาตา โดยหวังใช้เป็นกำแพงพิงหลังอ้างความชอบธรรมในการไม่ยกมือให้ แม้จะเป็นการสวนทางในการป่าวประกาศเรื่องปิดสวิตช์ สว.มาอย่างต่อเนื่องก็ตามที เรียกว่าใช้จุดแข็งของตัวเองในการสร้างภาพสร้างความชอบธรรมตามสไตล์ ...๐
ดูง่ายๆ ขนาด “ปดิพัทธ์ สันติภาดา” รองประธานสภาฯ คนที่ 1 ที่เริ่มนับวันต้องพ้นจากเก้าอี้ เพราะ “ก้าวไกล” ต้องเป็นผู้นำฝ่ายค้านในสภาก็ได้ แม้ปากบอกไม่คิดมากหากต้องพ้นเก้าอี้ตามรัฐธรรมนูญ แต่ก็พาเหรดอัดว่าเป็นความผิดปกติของรัฐธรรมนูญปี 2560 รวมถึงการสืบทอดอำนาจของ คสช. จนทำให้เก้าอี้ที่ตัวเองครองอยู่ต้องหลุดออกไป แหม! ทีได้ประโยชน์จากรัฐธรรมนูญนี้จนได้เสียง สส.เข้ามาเป็นอันดันหนึ่งทำไมไม่เห็นด่ารัฐธรรมนูญเลย แต่พอเสียประโยชน์ทีไรก็ด่า รธน. และด่า คสช.ประจำ คุณน้องอ๋องจ๋า รัฐธรรมนูญใช้มาจะ 6 ปีแล้ว ส่วน คสช.ต้องบอกว่าจบไปแล้วตั้งแต่ปีมะโว้ ก็ยังขุดมาด่ามาหากินกันตลอด ...๐
หันมาดูความเคลื่อนไหวของกลุ่มทะลุวังกันบ้าง เพราะดูเหมือนว่าเสียงถูกเทหรือถูกทอดทิ้งเริ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จากพฤติกรรมกักขฬะเกินกว่าจะรับได้ ก็ ขนาด “เตี้ยหลังม็อบ” ยังโดดหนีก่อนใคร เลยทำให้ รุ่นพี่ ทั้ง “จตุพร พรหมพันธุ์” ที่เคยติดคุกติดตะรางและพลาดเก้าอี้รัฐมนตรีจากการนำม็อบ รวมถึง “สมบัติ บุญงามอนงค์” บก.ลายจุด ต่างก็ออกมาเตือนว่าด้วยการปรับพฤติกรรมการเคลื่อนไหว ก็ไม่รู้ “ทะลุวัง” จะฟังหูซ้ายทะลุหูขวาหรือไม่ เพราะประชาธิปไตยในสายตาของกลุ่มนั้นทุกคนเท่าเทียมกัน ไม่มีแก่ไม่มีหนุ่มไม่มีรุ่นไม่มีอายุจ้าคุณพี่ ...๐
ท.ศักดิ์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
บันทึกหน้า 4
น้ำลด การเมืองผุด! หลังเพลาไปช่วงมหาวิปโยคใต้ เวลานี้กลับมาร้อนฉ่าอีกรอบ ช่วงเย็นพุธที่ผ่านมา คล้อยหลัง "นายกฯ อนุทิน" แถลงโชว์ถอนรากสแกมเมอร์เขมรยึดทรัพย์หมื่นล้าน
บันทึกหน้า 4
ต้องยอมรับว่าแม้ “มหาอุทกภัยในภาคใต้” เริ่มคลี่คลายเข้าสู่จุดการเยียวยา-ฟื้นฟูแล้วก็ตามที แต่ยอดผู้เสียชีวิตและความเสียหายก็ยังไม่นิ่งเสียทีเดียว แต่อย่างไรยอดผู้เสียชีวิตก็คงไม่ถึงพันศพตามที่ “พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล” อดีต รอง ผบ.ตร. วาดหวังแน่ๆ แล้ว
บันทึกหน้า 4
หลังวิกฤตน้ำท่วม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา คลี่คลาย น้ำตาก็ท่วมเมือง เมื่อชาวหาดใหญ่เห็นสภาพบ้านเรือนของตัวเองกลายเป็นซากปรักหักพัง ทรัพย์สินที่สร้างมาพังพาบไปกับกระแสน้ำแทบสิ้นเนื้อประดาตัว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ร่วมประชาสัมพันธ์กิจกรรมความร่วมมือ “รวมใจไทย ฟื้นแดนใต้” ซึ่งรัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์เป็นแกนกลางในการประสานงานร่วมกับภาคเอกชนและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
บันทึกหน้า 4
ภายใต้วิกฤตหาดใหญ่ครั้งนี้ ผู้นำรัฐบาลอย่าง อนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ และ รมว.มหาดไทย ถูกเรียกร้องให้แสดงความรับผิดชอบ แม้ต้นตอของปัญหาไม่ได้มาจากเขาคนเดียว
บันทึกหน้า 4
ขึ้นต้นเดือนสุดท้ายของปี บรรยากาศสังคมไทยยังคงซึมๆ เศร้าๆ อยู่กับเหตุและเภทภัยที่พี่น้องชาวใต้กำลังเผชิญ "น้ำลดตอผุด" ถูกขุดขึ้นมาเป็นรายวัน เหมือนมีใครบางคนกำลังช่วงชิงสถานการณ์หวัง "ตีกิน" สร้างดรามา แต่งคอนเทนต์ไล่ล่าเอาคะแนนนิยมคืนจากรัฐบาลที่นำโดยพรรคภูมิใจไทย
บันทึกหน้า 4
น้ำใจไทยไม่เคยเหือดแห้ง ถนนทุกสายจากทั่วประเทศมุ่งสู่ใต้ โดยเฉพาะ "มหาวิปโยคหาดใหญ่" ไม่ใช่แค่ทั้งเมืองจมบาดาล ทรัพย์สินเสียหาย แต่รวมถึงชีวิตที่ประเมินค่าไม่ได้ ซึ่งมีการอัปเดตตัวเลขช่วงเย็น 27 พ.ย.



