รัฐบาลเศรษฐา 1 ชัดเจนเกือบ 100% แล้ว มีหลายตำแหน่งน่าสนใจ แต่ตำแหน่งที่คิดว่าไม่น่าจะมีอะไร กลับควรจับตามองมากที่สุดตำแหน่งหนึ่ง นั่นคือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ที่ชื่อของ "พันตำรวจเอกทวี สอดส่อง" มาแรงตั้งแต่โค้งแรกยันโค้งสุดท้าย เพราะกระทรวงยุติธรรมจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับชะตากรรมของ "นักโทษชายทักษิณ ชินวัตร"
แม้ตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นโควตาของพรรคประชาชาติก็ตาม แต่ชื่อ "ทวี สอดส่อง" คือชื่อที่ใกล้ชิดกับ "ทักษิณ ชินวัตร" มานาน จะลึกซึ้งแค่ไหนลองไปตาม "ร้อยตำรวจเอกเฉลิม อยู่บำรุง" ดู หาก "เฉลิม" ยอมพูดความจริง รับรองได้ว่ามันหยด สุดติ่งกระดิ่งแม้วอย่างแน่นอน เพราะ "เฉลิม" เป็นฝ่ายถูกกระทำ ช่วงรัฐบาลยิ่งลักษณ์
จิ้งจกร้องทักยังต้องฟัง ไฉนแล้ววุฒิสมาชิกออกปากเตือนให้ระวังรัฐบาลเศรษฐาจะพังเพราะ "ทักษิณ" จะมองข้ามไปได้อย่างไร "จเด็จ อินสว่าง" กระตุกเตือนเรื่องการสร้างความเป็นธรรม เป็นเรื่องสำคัญ เพราะตอนนี้คนกำลังจับตามองอยู่ถึงเรื่องความสัมพันธ์ของพรรคเพื่อไทยกับนักโทษชายทักษิณ ชินวัตร จะทำอย่างไร จะไม่ให้ประชาชนเห็นว่ามีความเหลื่อมล้ำต่ำสูงกันมาก ถึงขั้นประชาชนทนไม่ได้ แล้วจะเกิดการประท้วง
"ผมคิดว่าคุณทักษิณตอนนี้หากยินดีรับโทษตามกฎหมายบ้านเมือง สักพักประชาชนจะเข้าใจว่านายทักษิณเป็นลูกผู้ชายตัวจริงที่มารับโทษตามกฎหมาย อย่าใช้อภิสิทธิ์อะไร เรื่องนี้นายกรัฐมนตรีต้องเฝ้าดูร่วมกับคนที่จะมาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เพื่อสร้างความเป็นธรรมให้เกิดกับสังคมไทย เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สังคมไทยกำลังจับตามองอยู่”
ฟังได้ว่าเป็นเสียงเตือน แต่อีกมุมคือการดักคอก็คงไม่ผิดนัก เพราะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมสามารถอำนวยความสะดวกให้นักโทษหลายเรื่อง หนึ่งในนั้นคือการขอพระราชทานอภัยโทษ แม้ในทางกฎหมายเรื่องนี้ "ทักษิณ" สามารถทำได้เลย แต่ในแง่ของความรู้สึกของประชาชนยังขัดข้องใจว่า "ทักษิณ" ไม่เคยติดคุกแม้แต่วันเดียว ขณะนี้ติดอยู่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ และมีแนวโน้มไม่ยอมย้ายไปไหน จนกว่าจะได้รับพระราชทานอภัยโทษ ...๐
มาฟังวุฒิสมากอีกคน ให้ความเห็นที่ต่างออกไป "วันชัย สอนศิริ" มาในฐานะ...โหน...โหร... โพสต์เฟซบุ๊กเรื่อง “เศรษฐามา..ราหูไป” มีรายละเอียดตามนี้ ....เศรษฐานายกฯ คนใหม่มาแล้ว จะด้วยอิทธิพลของราหูที่ทับดวงเมืองอยู่ และกำลังจะย้ายออกในวันที่ 17 ต.ค.66 ช่วงนี้อาจจะมีอะไรขลุกขลักยึกยักอยู่บ้าง แต่ก็จะเรียบร้อยลงตัว อีกไม่นานนัก…ทนอีกนิด รออีกหน่อย ทุกสิ่งทุกอย่างจะเข้าที่เข้าทางด้วยบารมีแห่งดาวอาทิตย์ที่อยู่ในเรือนอริ จากศัตรูจะกลายเป็นมิตร ร่วมจิตร่วมใจไปด้วยกัน ประเทศมีนายกฯ คนใหม่ รัฐบาลใหม่และฝ่ายค้านใหม่ ความศิวิไลซ์แห่งประเทศจะบังเกิด ที่ไม่เคยเห็นจะได้เห็น… ที่ไม่เคยเป็นจะได้เป็น… ที่ไม่เคยมีจะได้มี… ความสามัคคีปรองดองจะเกิดขึ้น ความขัดแย้งจะไม่มีอีกต่อไป ไพร่ฟ้าหน้าใสคนไทยเป็นสุข…
นายกฯ เศรษฐามา ราหูไป 17 ต.ค. เป็นปฐมบทแห่งรัฐบาลใหม่ที่จะนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงใหญ่ทั้งชีวิตจิตใจ เศรษฐกิจสังคมและการเมืองจะเป็นเรื่องที่คาดไม่ถึงจริงๆ มหัศจรรย์พันลึก.. บรรจงลงตัวพอดี ด้วยเหตุนี้… วัดไก่เตี้ย เขตตลิ่งชัน จึงจะสวดนพเคราะห์เจริญพระพุทธมนต์เป็นมิ่งขวัญแห่งมงคลชัยกับคนไทยทั้งประเทศ ในวันที่ 17 ต.ค.66 เวลา 19.00 น.
สมัย ร.1 แม่ทัพนายกองเมื่อออกศึกสงครามจะมาอธิษฐานจิตต่อหน้าหลวงพ่อสัมฤทธิ์ประสิทธิโชค วัดไก่เตี้ย รบทุกครั้ง..ชนะทุกครั้ง สัมฤทธิ์ดังจิตปรารถนา นายกฯ เศรษฐาน่าจะเริ่มต้นแห่งความสัมฤทธิ์ด้วยจิตอธิษฐาน ณ วัดไก่เตี้ยนะครับ…
นั่นคือคำทำนาย อาจตรงหรือไม่ตรงก็ได้ ถ้าตรงถือเป็นบุญของประเทศ จะได้สงบสุขกันเสียที แต่ถ้าไม่ตรงเพราะ "ทักษิณแทรก" ก็จะฉิบหายวายป่วงแทน ...๐
ดูแนมโน้มแล้ว "พิธา ลิ้มเจริญรัตน์" ไม่ยอมเป็นผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้ ท่านรองหมูกระทะ "ปดิพัทธ์ สันติภาดา" ยังสามารถนั่งเก้าอี้รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ได้ต่อไป ทั้งๆ ที่ตำแหน่ง "ผู้นำฝ่ายค้าน" เป็นตำแหน่งที่ได้รับการโปรดเกล้าฯ เช่นกัน ก็แสดงว่าพรรคก้าวไกลประสงค์จะใช้ตำแหน่งรองประธานสภาฯ เพื่อผลประโยชน์ของพรรค ทั้งๆ ที่ในข้อเท็จจริงแล้ว ตำแหน่งนี้ให้คุณให้โทษพรรคการเมืองไม่ได้ ยกเว้นมีการเล่นการเมืองแบบสกปรก อาศัยตำแหน่งรองประธานสภาฯ ยัดการแก้ ม.112 เข้าสภาให้ได้ ...๐
นายชื่น ประชา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
บันทึกหน้า 4
น้ำลด การเมืองผุด! หลังเพลาไปช่วงมหาวิปโยคใต้ เวลานี้กลับมาร้อนฉ่าอีกรอบ ช่วงเย็นพุธที่ผ่านมา คล้อยหลัง "นายกฯ อนุทิน" แถลงโชว์ถอนรากสแกมเมอร์เขมรยึดทรัพย์หมื่นล้าน
บันทึกหน้า 4
ต้องยอมรับว่าแม้ “มหาอุทกภัยในภาคใต้” เริ่มคลี่คลายเข้าสู่จุดการเยียวยา-ฟื้นฟูแล้วก็ตามที แต่ยอดผู้เสียชีวิตและความเสียหายก็ยังไม่นิ่งเสียทีเดียว แต่อย่างไรยอดผู้เสียชีวิตก็คงไม่ถึงพันศพตามที่ “พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล” อดีต รอง ผบ.ตร. วาดหวังแน่ๆ แล้ว
บันทึกหน้า 4
หลังวิกฤตน้ำท่วม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา คลี่คลาย น้ำตาก็ท่วมเมือง เมื่อชาวหาดใหญ่เห็นสภาพบ้านเรือนของตัวเองกลายเป็นซากปรักหักพัง ทรัพย์สินที่สร้างมาพังพาบไปกับกระแสน้ำแทบสิ้นเนื้อประดาตัว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ร่วมประชาสัมพันธ์กิจกรรมความร่วมมือ “รวมใจไทย ฟื้นแดนใต้” ซึ่งรัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์เป็นแกนกลางในการประสานงานร่วมกับภาคเอกชนและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
บันทึกหน้า 4
ภายใต้วิกฤตหาดใหญ่ครั้งนี้ ผู้นำรัฐบาลอย่าง อนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ และ รมว.มหาดไทย ถูกเรียกร้องให้แสดงความรับผิดชอบ แม้ต้นตอของปัญหาไม่ได้มาจากเขาคนเดียว
บันทึกหน้า 4
ขึ้นต้นเดือนสุดท้ายของปี บรรยากาศสังคมไทยยังคงซึมๆ เศร้าๆ อยู่กับเหตุและเภทภัยที่พี่น้องชาวใต้กำลังเผชิญ "น้ำลดตอผุด" ถูกขุดขึ้นมาเป็นรายวัน เหมือนมีใครบางคนกำลังช่วงชิงสถานการณ์หวัง "ตีกิน" สร้างดรามา แต่งคอนเทนต์ไล่ล่าเอาคะแนนนิยมคืนจากรัฐบาลที่นำโดยพรรคภูมิใจไทย
บันทึกหน้า 4
น้ำใจไทยไม่เคยเหือดแห้ง ถนนทุกสายจากทั่วประเทศมุ่งสู่ใต้ โดยเฉพาะ "มหาวิปโยคหาดใหญ่" ไม่ใช่แค่ทั้งเมืองจมบาดาล ทรัพย์สินเสียหาย แต่รวมถึงชีวิตที่ประเมินค่าไม่ได้ ซึ่งมีการอัปเดตตัวเลขช่วงเย็น 27 พ.ย.



