"ก้าวไกลหายไป"

น.สพ.ชัย วัชรงค์"  คนรักไก่ชน นักวิชาการเกษตร สู่ โฆษกรัฐบาลใหม่ ก็ถูกรับน้องตั้งแต่ไก่โห่ โดยบอกว่า "รัฐบาลนี้เป็นรัฏฐาธิปัตย์"  หลังนายกฯ มีข้อสังการให้เคลียร์คำสั่งคสช. ที่ไม่จำเป็นออกไป    โดยอาศัย มติครม. ยกเลิกคำสั่งรัฐประหารได้รวมไปถึงม.44   

ประเด็นนี้ร้อนกลายเป็นดราม่า กระทบไปถึงไปวงการกฎหมายมหาชน  นักการเมือง และนักเคลื่อนทางการเมือง ต้องออกมาแสดงความเห็น โดยเฉพาะ  อ.ป๊อก "ปิยบุตร แสงกนกกุล" เลขาธิการคณะก้าวหน้า  และผู้นำทางจิตวิญญาณพรรคส้ม โพสต์เฟซบุ๊ก เห็นโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีแถลงข่าวประเด็นการยกเลิกคำสั่ง คสช.แล้ว แสดงให้เห็นถึงการขาดความรู้เรื่องกฎหมายเบื้องต้น 

หากไม่แน่ใจ ไม่มั่นใจ ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญในพรรคเพื่อไทยหรือนักกฎหมายของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาก็ได้

แถลงไป ตอบนักข่าวไป แบบนี้ ไม่ใช่เสียแค่ตัวโฆษกฯเท่านั้น แต่กระทบถึงนายกรัฐมนตรีด้วย เพราะ โฆษกไปอ้างว่าทั้งหมดเป็นข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี 

ในอดีตตั้งแต่ไทยรักไทย พลังประชาชน มาจนถึงเพื่อไทย มีนักกฎหมายผู้เข้าใจกฎหมายมหาชนและการบริหารราชการแผ่นดินจำนวนมาก เช่น โภคิน พลกุล, พงศ์เทพ เทพกาญจนา, ชูศักดิ์ ศิรินิล, นพดล ปัทมะ ยังไม่นับรวมดึงคนนอกมาร่วมงานใน ครม อีกเช่น วิษณุ เครืองาม, บวรศักดิ์ อุวรรโณ 

แต่มารอบนี้ ไม่ตั้งคนแนวๆนี้ไปทำงานเลย พรรคแกนนำรัฐบาลจำเป็นต้องมีคนของตนเองเข้าไป ทั้งทำงานกับนักกฎหมายในระบบราชการ และทั้งชนกับนักกฎหมายในระบบราชการ

นอกจากนี้ "ผู้นำทางจิตวิญญาณพรรคส้ม " ยังไลฟ์สดเกี่ยวกับประเด็นนี้ เพราะตัวเขารู้สึกอิน และซีเรียสมาก เพราะสมัยเป็นเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ก็ต้องสู้กับเรื่องการยกเลิก คำสั่งคสช. ถือเป็นธงหลัก  

พร้อมกับเฝ้ารอใครจะมาแสดงความเห็น แต่ที่แปลกใจ กลับไม่เห็นของตัวแทนจากพรรคก้าวไกลมาแสดงความเห็น   ต่างจากพรรคการเมืองอื่นๆ เช่นพรรคเพื่อไทย หรือพรรคประชาธิปัตย์ ก็ออมาโต้โฆษกรัฐบาลว่าความที่ระบุว่า  "รัฐบาลนี้เป็นรัฏฐาธิปัตย์" ไม่ถูกต้อง

อาจเป็นเพราะพรรคก้าวไกลยังไม่มีนักกฎหมายที่มีเชี่ยวชาญ หรืออาจหลงลืมอุดมการณ์เดิมๆไปแล้ว 

ช่างสงสัย 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อำลา‘ก.ท่องเที่ยวฯ’

เป็นช่วงเวลาของการอำลาตำแหน่งและการย้ายกระทรวงของบรรดารัฐมนตรีหลายคนในรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่บางคนต้องออกไปถาวร หรือบางคนแค่ย้ายกระทรวง ทำให้ช่วงนี้เห็นบรรยากาศอบอวลไปด้วยความอบอุ่นของบรรดาข้าราชการกระทรวงต่างๆ ที่จัดงานอำลาให้กับเจ้ากระทรวงของตัวเอง

ไม่ได้หมายถึงเรื่องใด

ช่วงปลายเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา นั้นเป็นที่วิพาษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง เมื่อ อ. ธงทอง จันทรางศุ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี อดีตรองปลัดกระทรวงยุติธรรม และ ศาสตราภิชานประจำคณะนิติศาสตร์

สายล่อฟ้า

ปรับคณะรัฐมนตรี(ครม.)เศรษฐา1/1 เกิดเหตุตามหลังมากกมาย ที่กล่าวขานกันมากก็กรณี “ปานปรีย์ พหิทธานุกร” ลาออกจากการเป็นรมว.ต่างประเทศ เรียกว่าทุกสายตาคอการเมืองพุ่งเป้าไปที่นั่น

“วันสบายๆ”

การเมืองช่วงนี้ร้อนแรงไม่แพ้กับอากาศจริงๆ เพราะนอกจากจะร้อนแล้วยังระอุไปทั่ว ทั้งประเทศไทย เมื่อวันที่ 28 เม.ย. ที่ผ่านมา ได้มีประกาศในราชกิจจานุเบกษา ถึงรายชื่อรัฐมนตรี ทั้งพ้นความเป็นรัฐมนตรีและแต่งตั้งรัฐมนตรี โดยมีชื่อที่คุ้นหน้าคุ้นตากันหลายชื่อ

บันทึกหน้า 4

ควันหลงการปรับ ครม.เศรษฐา 1/1 เกิดดรามามากมาย โดยเฉพาะจากคนที่ผิดหวัง ไม่ว่าจะเป็น นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ที่พ้นกระทรวงสาธารณสุข กลับไปทำงาน สส. รวมถึงกรณี นายปานปรีย์ พหิทธานุกร ที่หลุดจากตำแหน่งรองนายกฯ

นิ่งแบบนี้มีลุ้น

ช่วงตั้ง ครม.เศรษฐา 1 ใหม่ๆ หลายคนคาดการณ์ สมศักดิ์ เทพสุทิน คงนั่งเป็นรองนายกรัฐมนตรีอยู่ทำเนียบรัฐบาลไม่นาน เพราะถนัดงานกระทรวงมากกว่า