บันทึกหน้า 4

ดูเหมือนว่า “ปดิพัทธ์ สันติภาดา” รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 ถ้ามีเวลาว่างก่อนจะไป “ทัวร์ก้าวไกล” ยังเกาะสิงคโปร์ ก็น่าจะหาเวลาไปสารภาพบาปไว้บ้างก็น่าจะดี เพราะพระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรกเสียเหลือเกิน กลิ่นเรื่องการใช้งบประมาณที่เป็นภาษีของคนทั้งแผ่นดินเดินทาง โดยบอกว่าไปดูงานที่เมืองลอดช่องในวันเสาร์-อาทิตย์ ยังไม่จางหายดี ก็ มีเรื่องของที่ปรึกษารองประธานสภาที่ชื่อ “อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล” มาให้ปวดกบาลกันอีกระลอก แม้ทั่น “รองอ๋อง” จะปรารภในเบื้องต้นหลังดูในสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ ว่ามีพฤติกรรมไม่เหมาะสมจริง โดยพร้อมให้ “อมรัตน์” พ้นจากที่ปรึกษานั้น ก็ บอกได้คำเดียวว่า พูดเอาหล่อเอาเท่เข้าว่าตามประสาก้าวไกลนั่นแล เพราะดูตัวอย่างจากหลายๆ กรณีที่ผ่านมา ไล่มาตั้งแต่ระดับหัวจนถึงระดับหาง ก็น่าจะรู้ว่าปกป้องปกปักกันขนาดไหน ...๐

แล้วที่ขำไม่ออกของ “อมรัตน์” ที่เคยอู้มชูห่วงหาแก๊ง 3 นิ้ว แต่ปัจจุบันเฟดตัวออกห่างนั้น ก็ไม่รู้ว่านี่หรือคืออดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของรัฐสภาไทย เพราะนี่ขนาดไม่ได้เป็น สส. และไม่ได้เป็นรัฐบาลยังแสดงอภินิหารความใหญ่โตได้ขนาดนี้ แล้วที่ต้องอึ้งกันเข้าไปอีกคือ บอกว่าการเปิดเผยข้อมูลของ “เอฟซีเพื่อไทย” นั้น อยู่ในกรอบไม่เข้าข่ายตาม พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 หรือกฎหมายพีดีพีเอ เพราะไม่ได้บอกชื่อจริง เลขบัตรประชาชน ทะเบียนรถ บ้านเลขที่ และพิกัดหมู่บ้านที่ชัดเจน ...๐

ปัดโธ่! ขอเอาที่โพสต์มาลงทั้งดุ้นให้ “ปุถุชน” อ่านดูแล้วกันว่า “เจี๊ยบ นครปฐม” เขาโพสต์ว่าอย่างไร “ผู้โพสต์ชื่อเล่น “แขก” อายุ 54 เกิด 1 ม.ค.2512 มารดาชื่อเลื่อน ที่อยู่ทาวน์เฮาส์ 2 ชั้น เลขที่ 88/5xx หมู่บ้าน ส.ว.ร. อ.กระทุ่มแบน สมุทรสาคร รถสีขาว รั้วบ้านทาวน์เฮาส์สีเขียว แม่ลูก 2 เป็นลูกจ้างบริษัท ท.ท.การทอ เบอร์โทรที่ทำงาน 0-2431-0xxx” และต่อมา “อมรัตน์” ยังได้โพสต์รูปไปที่โรงงานของเอฟซีเพื่อไทยในการพบผู้บริหาร และ ต่อมาก็โพสต์รูปหมู่บ้านที่มีแคปชั่นว่า “จากโรงงานก็แวะไปเยี่ยมบ้าน” แบบนี้ถ้ายังไม่เข้าข่ายชี้เป้าล่าแม่มด หรือเข้าข่ายกฎหมายพีดีพีเอ ก็ไม่รู้ว่าจะมีกฎหมายคุ้มครองไว้ทำไมแล้ว ...๐

หันมาดูรัฐบาลเศรษฐากันบ้าง เพราะตอนนี้ “เสี่ยนิด” ปฏิบัติภารกิจอยู่ที่นคนนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา โดยงานแรกที่ “ชัย วัชรงค์” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตีปี๊บอย่างหนักคือ การหารือกับ “Larry Fink” ซีอีโอของกลุ่มบริษัท BlackRock ซึ่งระบุว่าเป็นบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการเงินและการลงทุน เป็นกองทุนขนาดใหญ่เบอร์หนึ่งของโลก พร้อมทั้งคุยอีกว่า BlackRock ตกลงที่จะเข้ามาลงทุนในไทยแล้วในการร่วมมือธุรกิจ BCG ในไทย โดยคาดภายใน 5 ปีข้างหน้า จะสร้างเม็ดเงินให้ประเทศกว่า 1 ล้านล้านบาท งานนี้ก็ไม่รู้ว่า “ชัย” มโนจากจุดไหน เพราะหากเป็นจริงเรื่องอย่างนี้ควรให้ “เศรษฐา” เป็นผู้ชี้แจงแถลงไขร่วมกับ Larry Fink คงน่าเชื่อถือมากกว่าไหนๆ ...๐

การแถลงของ “โฆษกชัย” แต่ละครั้งก็ต้องบอกว่าสร้างเรื่องสร้างราวได้มาตลอด ตั้งแต่รัฏฐาธิปัตย์ ดัชนีเคพีไอจนมาถึงเงินลงทุน 1 ล้านล้านบาท จึงไม่แปลกที่ “ชำนาญ จันทร์เรือง” แกนนำคณะก้าวหน้าถึงกับโพสต์บอกว่า คนที่น่าจะถูกปรับในเก้าอี้แรกน่าจะเป็นคนชื่อ “ชัย” นี่แล ซึ่งหากพรรคเพื่อไทยยังอยากให้สัตวแพทย์อย่าง “ชัย” ทำหน้าที่โทรโข่งอยู่ ก็ควรต้องรีบมีทีมรองโฆษกมาช่วยแบกภาระบ้างก็น่าจะดี เพราะดูๆ แล้ว แทนที่จะสร้างภาพบวกให้กับรัฐบาลในการแถลงข่าว มีแต่จะสร้างความมึนงง และคำถามตามมาอีกเป็นพะเรอเกวียนมากกว่า ...๐

หันมาส่องด้าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทยกันบ้าง เรียกว่านอนมาแน่แล้วสำหรับ “แพทองธาร ชินวัตร” หรืออุ๊งอิ๊ง หากเจ้าตัวลงสมัคร ก็เหมือนกับที่ “อดิศร เพียงเกษ” สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ไว้ล่าสุดว่า เหมาะสมกับท่านนั่นแล ที่สำคัญ “อดิศร” ก็บอกชัดว่า ถ้าอิ๊งค์ลงจริงก็ไม่มีใครกล้าแข่ง พร้อมสำทับด้วยว่า เป็นหัวหน้าพรรคดีกว่าเป็นหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ...๐

หันมาเรื่องสังคมกันบ้าง โดยเฉพาะกรณีมือต่อย อย่าง “วีรวิชญ์ รุ่งเรืองศิริผล” หรือ “ศักดิ์ เสื้อแดง” ที่ไปทำร้ายร่างกาย “ศรีสุวรรณ จรรยา” โดยล่าสุดศาลสั่งจำคุก 15 วัน ไม่รอลงอาญา เนื่องจากไม่ขอโทษและไม่เยียวยา เรียกว่าเป็นอุทาหรณ์ให้สำหรับบรรดาเอฟซีการเมืองทั้งหลายว่าสนใจได้ แต่ต้องมีสติ หากมีการกระทำที่เกินขอบเขตของกฎหมายก็ต้องรับกรรมตามมา แม้คดีตอนนี้ยังไม่ถึงที่สิ้นสุดก็ตามที แต่อย่างน้อยก็น่าจะเตือนสติใครต่อใครได้บ้างไม่มากก็น้อย ...๐

 

ท.ศักดิ์

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

บันทึกหน้า 4

FC "ลุงตู่" ปลาบปลื้มกันทั้งประเทศ หลังช่วงค่ำวันที่ 29 พ.ย.ที่ผ่านมา มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง "พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา" ดำรงตำแหน่ง "องคมนตรี” คนล่าสุด แม้ก่อนหน้านี้กองเชียร์บางส่วนยังแอบลุ้นให้ พล.อ.ประยุทธ์ กลับมาเป็นนายกฯ อีกครั้ง

บันทึกหน้า 4

นับเนื่องตั้งแต่ “เศรษฐา ทวีสิน” รับพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรี ณ ที่ทำการพรรคเพื่อไทย เมื่อ 23 ส.ค.2566 จวบจนถึงปัจจุบันก็เรียกว่า บริหารประเทศมาได้แล้วกว่า 3 เดือน แต่ดูเหมือนผลงานจะเน้นไปเรื่อง

บันทึกหน้า 4

ตีปี๊บกันใหญ่ วาระแห่งชาติการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ นำโดย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.การคลัง พร้อมด้วย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย

บันทึกหน้า 4

"ไทยโพสต์ อิสรภาพแห่งความคิด" จับตาธงใหม่แก้หนี้นอกระบบในวันที่ 28 พ.ย.นี้ และ หนี้ในระบบในวันที่ 12 ธ.ค. จะเป็นธงเรือใหม่ของรัฐบาลเพื่อไทย หวังสร้างแต้มจากคนเป็นหนี้จำนวน 1 ใน 3 ของประเทศ ซึ่งเบื้องต้นรัฐบาลหวังใช้กลไกฝ่ายปกครองกับตำรวจ เพื่อเรียกเจ้าหนี้และลูกหนี้มาไกล่เกลี่ย

บันทึกหน้า 4

บันทึกก่อนวันเพ็ญเดือนสิบสอง น้ำนองริมตลิ่ง ต้อนรับเทศกาลวันลอยกระทง ที่ไม่เห็น "แม่ดัน" ซอฟต์พาวเวอร์ แพทองธาร ชินวัตร คิดจะผลักดันหยิบยกวัฒนธรรมการขอขมาต่อพระแม่คงคานี้มาชูขายเท่ากับ "ช็อกมินต์" ของนาง

บันทึกหน้า 4

"ไม่ได้ก้าวก่าย-ไม่มีอำนาจ" คำตอบของ 'เสี่ยนิด' เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง กับปมร้อนๆ กรณีพูดกับ สส.พรรคเพื่อไทย เกี่ยวกับการขอตำแหน่งผู้กำกับการตำรวจ พอโดนซักมากขึ้น ก็เล่นบท "ขอคำถามต่อไป" มาทรงนี้ แถวบ้านเรียก 'ออกอาการ' รู้ตัวว่า 'พลาด' เลยอยากจะให้จบๆ