"สามัญชนคนแรก"

จากกรณีที่สถาบันพระบรมราชชนก กระทรวงสาธารณสุข ได้แจ้งว่า สภาสถาบันพระบรมราชชนก ได้มีมติเอกฉันท์มอบปริญญาสาธารณสุขศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ ประจำปี 2566 แก่  "อนุทิน ชาญวีรกูล" รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข โดยมีหนังสือเชิญเข้ารับมอบปริญญาสาธารณสุขศาสตร์ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ เมื่อเร็วๆนี้

ขณะที่ ศ.พิเศษ ดร.นพ.วิชัย เทียนถาวร อธิการบดีสถาบันพระบรมราชชนก (สบช.) กล่าวว่า ปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ โดยปกติแล้วเป็นปริญญาที่ให้กับผู้นำหรือผู้บริหารสูงสุดในประเทศ พร้อมกับเป็นผู้ที่ทำคุณประโยชน์ให้กับบ้านเมือง ประเทศชาติ และสถาบันพระมหากษัตริย์ 

“ท่านอนุทิน เป็นสามัญชนคนแรก ที่มีอาชีพเป็นนักการเมือง ที่ได้เข้ารับปริญญาสาธารณสุขศาสตร์ดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์จาก สบช. ” 

สำหรับการ  “อนุทิน “ได้รับมอบปริญญาฯ เนื่องจากทำคุณประโยชน์ แก่ส่วนรวม คือ 1.นโยบายเกี่ยวข้องกับงานด้านสาธารณสุข ที่ทำให้ระบบปฐมภูมิมีความเข้มแข็ง ให้คนไทยทุกคนมีหมอ 3 คน คอยดูแลประจำคือ อสม. หมออนามัย และหมอครอบครัว 

ส่วนผลงานที่เกี่ยวข้องกับสถาบันพระบรมราชชนก เช่น บันทึกความร่วมมือกับทางสถาบันฯ เพื่อเป็นเครือข่ายสร้างความร่วมมือในการผลิตบุคลากรตามความต้องการของกระทรวงสาธารณสุข, โครงการ สบช.โมเดล สร้างสุขภาวะที่ดีให้กับประชาชน ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ลดโรคแทรกซ้อน, พร้อมทั้งให้โอกาส อสม. กว่า 3,000 คน อบรมหลักสูตรผู้ช่วยพยาบาล, ผู้ริเริ่มโครงการอบรม “พระบริบาลภิกษุไข้” ประจำ 1 วัด 1 รูป เป็นต้น

นอกจากนั้นยังมี “ภารกิจหัวใจติดปีก“ ที่เริ่มต้นตั้งแต่ปี 2557 ซึ่งเป็นความร่วมมือกับนพ.พัชร อ่องจิต อาจารย์ศัลยแพทย์ หัวหน้าสาขาศัลยศาสตร์หัวใจ และทรวงอก โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย อีกด้วย 

นี่คือผลงานทางด้านสาธารณสุข ที่ก่อเกิดประโยชน์ให้แก่ส่วนรวมและประเทศชาติ

 

 

ช่างสงสัย 

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อำลา‘ก.ท่องเที่ยวฯ’

เป็นช่วงเวลาของการอำลาตำแหน่งและการย้ายกระทรวงของบรรดารัฐมนตรีหลายคนในรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่บางคนต้องออกไปถาวร หรือบางคนแค่ย้ายกระทรวง ทำให้ช่วงนี้เห็นบรรยากาศอบอวลไปด้วยความอบอุ่นของบรรดาข้าราชการกระทรวงต่างๆ ที่จัดงานอำลาให้กับเจ้ากระทรวงของตัวเอง

ไม่ได้หมายถึงเรื่องใด

ช่วงปลายเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา นั้นเป็นที่วิพาษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง เมื่อ อ. ธงทอง จันทรางศุ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี อดีตรองปลัดกระทรวงยุติธรรม และ ศาสตราภิชานประจำคณะนิติศาสตร์

สายล่อฟ้า

ปรับคณะรัฐมนตรี(ครม.)เศรษฐา1/1 เกิดเหตุตามหลังมากกมาย ที่กล่าวขานกันมากก็กรณี “ปานปรีย์ พหิทธานุกร” ลาออกจากการเป็นรมว.ต่างประเทศ เรียกว่าทุกสายตาคอการเมืองพุ่งเป้าไปที่นั่น

“วันสบายๆ”

การเมืองช่วงนี้ร้อนแรงไม่แพ้กับอากาศจริงๆ เพราะนอกจากจะร้อนแล้วยังระอุไปทั่ว ทั้งประเทศไทย เมื่อวันที่ 28 เม.ย. ที่ผ่านมา ได้มีประกาศในราชกิจจานุเบกษา ถึงรายชื่อรัฐมนตรี ทั้งพ้นความเป็นรัฐมนตรีและแต่งตั้งรัฐมนตรี โดยมีชื่อที่คุ้นหน้าคุ้นตากันหลายชื่อ

บันทึกหน้า 4

ควันหลงการปรับ ครม.เศรษฐา 1/1 เกิดดรามามากมาย โดยเฉพาะจากคนที่ผิดหวัง ไม่ว่าจะเป็น นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ที่พ้นกระทรวงสาธารณสุข กลับไปทำงาน สส. รวมถึงกรณี นายปานปรีย์ พหิทธานุกร ที่หลุดจากตำแหน่งรองนายกฯ

นิ่งแบบนี้มีลุ้น

ช่วงตั้ง ครม.เศรษฐา 1 ใหม่ๆ หลายคนคาดการณ์ สมศักดิ์ เทพสุทิน คงนั่งเป็นรองนายกรัฐมนตรีอยู่ทำเนียบรัฐบาลไม่นาน เพราะถนัดงานกระทรวงมากกว่า