ขอตั้งฉายาบ้าง

ช่วงส่งท้ายปี เป็นธรรมเนียมที่สื่อการเมืองจะตั้งฉายาให้รัฐบาล และ รัฐสภา  แต่ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตกกต. และนักเฝ้าสังเกตการณ์การเมือง ขอใช้โอกาสนี้ แม้ไม่ได้เป็นสื่อขอร่วมตั้งฉายา "โครงการรัฐบาลเศรษฐา "กับเขาบ้างเริ่มที่

  1. 1. เงินหมื่นฝืนแจก : โครงการดิจิทัลวัลเลต ที่อยากแจกจริงแจกจัง ถึงขนาดต้องกู้เงินมาแจก ไม่สนใจว่าลูกหลานจะเป็นหนี้ต่อไปอีกแค่ไหน ขอให้ไม่เสียหน้าพอ
  2. 2. แก้หนี้หน่อมแน้ม : เปิดเป็นวาระแห่งชาติ มาแก้หนี้ทั้งในและนอกระบบ แต่คนมาลงทะเบียนแค่หลักแสนต้น ๆ  หาแหล่งเงินกู้ใหม่ ก็ติดเครดิตบูโร  ไม่สามารถแก้ได้จริง  มุ่งตัดริบบิ้นอย่างเดียว
  1. 3. เงินเดือนสองงวดเงียบ : ริเริ่มจ่ายเงินเดือนสองงวด โดยไม่ศึกษาพฤติกรรมการใช้เงินของข้าราชการที่มีวงรอบการผ่อนชำระต่าง ๆ เป็นรายเดือน ท้ายสุดคงปิดตัวหรือฝืนมีไปอย่างเงียบ ๆ
  2. 4. ค่าแรงไม่พอไข่ : การประกาศให้ความหวังผู้ใช้แรงงานโดยจะขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็น 400 บาท ทั้ง ๆ ที่เป็นอำนาจของคณะกรรมการไตรภาคี เป็นผลให้ขึ้นจริงได้เพียง 2-16 บาท สูงสุด 370 บาทแค่ภูเก็ตจังหวัดเดียว  แม้นายกยังบ่นว่า ไม่พอซื้อไข่
  3. 5. เรือดำน้ำผลุบ ๆ โผล่ ๆ : เมื่อมากำกับกลาโหม ก็ขึงขังจริงจัง จะใช้งบประมาณโดยเท่าที่จำเป็น จะทบทวนโครงการเรือดำน้ำ ไม่เอาเครื่องยนต์จีน จะเปลี่ยนเป็นเรือฟริเกต  วันนี้ ผลุบ หรือ โผล่ ไม่มีรายงาน
  4. 6. ไฟ น้ำมัน ควันหรือหมอก :  การลดราคาไฟฟ้า พลังงาน ค่ารถไฟฟ้าใน กทม.  เป็นการลดโดยยอมเฉือนภาษีที่รัฐควรได้ และสะสมภาวะขาดทุนให้แก่รัฐวิสาหกิจ เป็นเหมือนควันพิษ มากกว่า เป็นหมอกที่งดงามยามเช้า
  5. 7. ยุติ-ธรรม ชั้น 14 :   รัฐบาลได้ทำลาย หรือยุติ-ระบบสังคมนิติรัฐ ที่ ผู้เป็นนักโทษต้องได้รับการคุมขัง โดยสร้างความเคลือบแคลงใจแก่ประชาชน กรณี การรักษาตัวในห้องวีไอพี รพ.ตำรวจ ของ นช. ทักษิณ ชินวัตร นานมากกว่า 4 เดือน
  6. 8. ประชามติไม่มีสติ : ใช้เวลาในการหาข้อสรุปการทำประชามติเกือบ 3 เดือน กับคำถาม ที่ ไม่จำเป็นต้องทำประชามติ เพราะไม่ได้แก้ทั้งฉบับ แล้วจะไปทำประชามติหาพระแสงของ้าวอะไรกัน

นี่คือฉายาจี๊ดๆ ที่อ.สมชัย มอบให้ จะผิดถูกอย่างไรเป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องพิสูจน์ด้วยผลงานจากนี้ 555

 

 

ช่างสงสัย   

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อำลา‘ก.ท่องเที่ยวฯ’

เป็นช่วงเวลาของการอำลาตำแหน่งและการย้ายกระทรวงของบรรดารัฐมนตรีหลายคนในรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่บางคนต้องออกไปถาวร หรือบางคนแค่ย้ายกระทรวง ทำให้ช่วงนี้เห็นบรรยากาศอบอวลไปด้วยความอบอุ่นของบรรดาข้าราชการกระทรวงต่างๆ ที่จัดงานอำลาให้กับเจ้ากระทรวงของตัวเอง

ไม่ได้หมายถึงเรื่องใด

ช่วงปลายเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา นั้นเป็นที่วิพาษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง เมื่อ อ. ธงทอง จันทรางศุ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี อดีตรองปลัดกระทรวงยุติธรรม และ ศาสตราภิชานประจำคณะนิติศาสตร์

สายล่อฟ้า

ปรับคณะรัฐมนตรี(ครม.)เศรษฐา1/1 เกิดเหตุตามหลังมากกมาย ที่กล่าวขานกันมากก็กรณี “ปานปรีย์ พหิทธานุกร” ลาออกจากการเป็นรมว.ต่างประเทศ เรียกว่าทุกสายตาคอการเมืองพุ่งเป้าไปที่นั่น

“วันสบายๆ”

การเมืองช่วงนี้ร้อนแรงไม่แพ้กับอากาศจริงๆ เพราะนอกจากจะร้อนแล้วยังระอุไปทั่ว ทั้งประเทศไทย เมื่อวันที่ 28 เม.ย. ที่ผ่านมา ได้มีประกาศในราชกิจจานุเบกษา ถึงรายชื่อรัฐมนตรี ทั้งพ้นความเป็นรัฐมนตรีและแต่งตั้งรัฐมนตรี โดยมีชื่อที่คุ้นหน้าคุ้นตากันหลายชื่อ

บันทึกหน้า 4

ควันหลงการปรับ ครม.เศรษฐา 1/1 เกิดดรามามากมาย โดยเฉพาะจากคนที่ผิดหวัง ไม่ว่าจะเป็น นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ที่พ้นกระทรวงสาธารณสุข กลับไปทำงาน สส. รวมถึงกรณี นายปานปรีย์ พหิทธานุกร ที่หลุดจากตำแหน่งรองนายกฯ

นิ่งแบบนี้มีลุ้น

ช่วงตั้ง ครม.เศรษฐา 1 ใหม่ๆ หลายคนคาดการณ์ สมศักดิ์ เทพสุทิน คงนั่งเป็นรองนายกรัฐมนตรีอยู่ทำเนียบรัฐบาลไม่นาน เพราะถนัดงานกระทรวงมากกว่า