บันทึกหน้า 4

ประเดิมวันแรกไปแล้ว สำหรับระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ 26 ปีที่ 1 ครั้งที่ 5  (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) เป็นพิเศษ ใน การพิจารณาเรื่องด่วนร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ  พ.ศ.2567 วงเงิน 3.48 ล้านล้านบาท โดย “เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการคลัง เริ่มด้วยการชี้แจงถึงหลักการและเหตุผลในการจัดทำ ซึ่งหากใครติดตามชมการถ่ายทอดสดอาจจะคิดว่าเรา เกิดอาการ “แดจาวู” ก็เป็นได้  เพราะเรียกว่าแทบจะเหมือนวันที่ 11 กันยายน 2566 ที่เป็นวันแถลงนโยบายรัฐบาลอย่างไรอย่างนั้น...๐

โดยมีความต่างกันบ้างเล็กน้อย เมื่อ “เศรษฐา” มีการใส่ตัวเลขเข้ามาบ้าง โดยใช้เวลาในการอ่านทั้งสิ้น 1.40 ชั่วโมง เรียกว่ายาวกว่าการแถลงนโยบายรัฐบาล งานนี้เราเลยได้เห็นภาพความเก๋าของนายกฯ

ที่ดูดกาแฟเย็นที่ใส่แก้วพลาสติกไปด้วยระหว่างการอ่าน แต่ที่ขำไม่ออกจริงๆ คือ คล้อยหลังการแถลงของ “เศรษฐา” ไม่เท่าไหร่ “ชัย วัชรงค์”  โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ก็ออกข่าวผ่านเว็บไซต์รัฐบาลทันควันว่า นายกฯ แถลงได้อย่างชัดเจนครบถ้วน แหม! ต้องยกนิ้วให้ทีมโฆษกยุคใหม่ ตรงปกจริงๆ เพราะเล่นเชลียร์ประสานอย่างไม่เคยมีในการพิจารณาร่างงบประมาณแผ่นดินมาก่อนเลย...๐

แล้วก็เหมือนเหล้าเก่าในขวดใหม่ เพราะจาก “นโยบายไม่ตรงปก” ก็ไปสู่ “งบประมาณไม่ตรงปก” อีกครั้งหนึ่ง แต่ดูเหมือนครั้งนี้งบประมาณปี 2567 อาจเป็นงบประมาณที่มีฉายามากที่สุดก็เป็นได้ เพราะประเดิมแค่ช่วงต้นของวันแรกก็มีฉายามากมายแล้ว โดยเริ่มจาก “ชัยธวัช ตุลาธน” หัวหน้าพรรคก้าวไกลแบบชั่วคราว รอถ่ายโอนคืนให้ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” หากรอดสันดอนเรื่องการถือหุ้นไอทีวีได้ แม้ “ผู้นำฝ่ายค้าน” จะไม่ตั้งฉายา แต่ก็ถือว่าประเดิมดุในการทำหน้าที่ฝ่ายค้าน โดยระบุว่าเป็นงบเลื่อนลอย สะเปะสะปะ ซ้ำร้ายยังเป็น รัฐบาลรวมการเฉพาะกิจแบ่งกันกินกันใช้ชั่วคราว ที่เคยบอกว่าคิดใหญ่ทำเป็น บางทีบางวันก็กลายเป็นคิดไปทำไป คิดสั้นไม่คิดยาวบ้าง คิดอย่างทำอย่างก็มี...๐

 ที่สำคัญ “ชัยธวัช" ก็ไม่ทิ้งลายทางสามกีบเอาไว้ให้เป็นกระสาย เพราะกระแซะว่า “หากรัฐบาลนี้จะมีวาระร่วมกันจริง เห็นว่าคงเป็นวาระแก้ปัญหาวิกฤตอำนาจของชนชั้นนำ เพราะการเข้าสู่อำนาจของรัฐบาลแสดงออกอย่างโจ่งแจ้ง ว่าเป็นการรวมตัวกันเพื่อรักษาสภาวะเดิมของสังคมไทยเอาไว้ เป็นการรวมตัวกันเพื่อพยายามฝืนทวนการเปลี่ยนแปลงของสังคมไทย เป็นการรวมตัวกันเพื่อปกป้องพลังสังคมแบบจารีตและต่อต้านพลังสังคมใหม่ๆ ที่ต้องการอนาคตที่ดีกว่านี้...๐

แล้วก็ตามมาด้วย “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์” สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งต้องบอกว่า “อู๊ดด้า” เรียกราคาพรรคแม่พระธรณีบีบมวยผมกลับคืนมาได้เป็นอย่างดี ในการเป็นฝ่ายค้าน เพราะมีการสับแบบนิ่มๆ  และแสบเข้าไปถึงทรวง โดยบอกเป็นงบประมาณฉบับ “เป็ดง่อย” เพราะย้อนศรพรรคเพื่อไทยที่เคยด่ารัฐบาลลุงตู่ว่าเป็น “นักกู้แห่งลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา” ว่าเที่ยวนี้กลายเป็น “นักกู้ถุงเท้าสีชมพู” แทน แสบสันกันเลยทีเดียว ที่สำคัญ “จุรินทร์” ยังมีการเอ่ยนักโทษเข้าคุกทิพย์มากกว่า 120 วันด้วย ซึ่งก็เล่นเอา สส.กุมไข่ดีครับทั่นใช่ครับนายอย่าง “ครูมานิตย์ สังข์พุ่ม” สส.สุรินทร์ ต้องลุกขึ้นประท้วงทันควัน เรียกว่าเอาใจนายออกหน้าสื่อทั้งที่ “จุรินทร์” ไม่ได้เอ่ยอ้างชื่อกันแม้แต่คำเดียว แต่คนที่เอ่ยก็คือคนประท้วงนั่นแล...๐

แล้วต่อมาก็ถึงคิว “ไทยสร้างไทย” ของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ซึ่งต้องบอกว่าใช้ยุทธศาสตร์ชำแหละในนอกประสานกันเลยทีเดียว เพราะก่อนเริ่มการประชุม “หญิงหน่อย” ก็โพสต์ขย่มงบไม่ตรงไปแล้วระลอกหนึ่ง และเมื่อถึงเวลาก็ให้ “ฐากร ตัณฑสิทธิ์” สส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรค ทสท.อภิปราย โดยได้ตั้งฉายางบปี 2567 เป็น “3 ขาด 3 เกิน 1 พอได้”...๐

แต่ที่ดูเหมือนจะผิดหวัง เพราะอุตส่าห์ตีปี๊บมาแต่ไก่โห่ คงไม่มีใครเกิน “ศิริกัญญา ตันสกุล” สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อดีตว่าที่ขุนคลังหญิงคนแรกที่ต้องบอกว่าอภิปรายได้จืด ไร้รสชาติ สู้ “ชัยธวัช”  ไม่ได้ ก็ต้องติดตามดูว่าในอีก 2 วันที่เหลือ “เจ๊ไหม”  จะปล่อยของอะไรออกมาหรือไม่อย่างไร แต่ที่ต้องบอกว่าไม่เปลี่ยนแปลงก็คือ การชี้แจงของ “จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์” รมช.การคลัง ชี้แจงเรื่องงบประมาณไม่ตรงปก โดยยอมรับว่าเป็นการรับมรดกของรัฐบาลชุดก่อนหน้า แหม! เรียกว่าไม่รู้จะโทษใครก็โทษรัฐบาลเก่าที่เคยเป็นไม้เบื่อไม้เมาเสียเลย แต่ที่ชาวบ้านเขาสงสัย ก็ในเมื่อเป็นการรับมรดกเก่า ทำไมต้อง ใช้เวลาในการปรับแต่งแก้ไข 3 เดือนด้วยเล่า ก็ส่งเข้ามาตั้งแต่สมัยประชุมครั้งแรกไม่ได้เหรอ หรือเพราะมันมีอะไรในกอไผ่กันแน่จ๊ะ...๐

 

ท.ศักดิ์

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

บันทึกหน้า 4

น้ำลด การเมืองผุด! หลังเพลาไปช่วงมหาวิปโยคใต้ เวลานี้กลับมาร้อนฉ่าอีกรอบ ช่วงเย็นพุธที่ผ่านมา คล้อยหลัง "นายกฯ อนุทิน" แถลงโชว์ถอนรากสแกมเมอร์เขมรยึดทรัพย์หมื่นล้าน

บันทึกหน้า 4

ต้องยอมรับว่าแม้ “มหาอุทกภัยในภาคใต้” เริ่มคลี่คลายเข้าสู่จุดการเยียวยา-ฟื้นฟูแล้วก็ตามที แต่ยอดผู้เสียชีวิตและความเสียหายก็ยังไม่นิ่งเสียทีเดียว แต่อย่างไรยอดผู้เสียชีวิตก็คงไม่ถึงพันศพตามที่ “พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล” อดีต รอง ผบ.ตร. วาดหวังแน่ๆ แล้ว

บันทึกหน้า 4

หลังวิกฤตน้ำท่วม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา คลี่คลาย น้ำตาก็ท่วมเมือง เมื่อชาวหาดใหญ่เห็นสภาพบ้านเรือนของตัวเองกลายเป็นซากปรักหักพัง ทรัพย์สินที่สร้างมาพังพาบไปกับกระแสน้ำแทบสิ้นเนื้อประดาตัว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ร่วมประชาสัมพันธ์กิจกรรมความร่วมมือ “รวมใจไทย ฟื้นแดนใต้” ซึ่งรัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์เป็นแกนกลางในการประสานงานร่วมกับภาคเอกชนและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

บันทึกหน้า 4

ภายใต้วิกฤตหาดใหญ่ครั้งนี้ ผู้นำรัฐบาลอย่าง อนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ และ รมว.มหาดไทย ถูกเรียกร้องให้แสดงความรับผิดชอบ แม้ต้นตอของปัญหาไม่ได้มาจากเขาคนเดียว

บันทึกหน้า 4

ขึ้นต้นเดือนสุดท้ายของปี บรรยากาศสังคมไทยยังคงซึมๆ เศร้าๆ อยู่กับเหตุและเภทภัยที่พี่น้องชาวใต้กำลังเผชิญ "น้ำลดตอผุด" ถูกขุดขึ้นมาเป็นรายวัน เหมือนมีใครบางคนกำลังช่วงชิงสถานการณ์หวัง "ตีกิน" สร้างดรามา แต่งคอนเทนต์ไล่ล่าเอาคะแนนนิยมคืนจากรัฐบาลที่นำโดยพรรคภูมิใจไทย

บันทึกหน้า 4

น้ำใจไทยไม่เคยเหือดแห้ง ถนนทุกสายจากทั่วประเทศมุ่งสู่ใต้ โดยเฉพาะ "มหาวิปโยคหาดใหญ่" ไม่ใช่แค่ทั้งเมืองจมบาดาล ทรัพย์สินเสียหาย แต่รวมถึงชีวิตที่ประเมินค่าไม่ได้ ซึ่งมีการอัปเดตตัวเลขช่วงเย็น 27 พ.ย.