‘เผิงซ่วย’ พูดแล้ว...แต่คำถาม โยงอดีตรองนายกฯ จีนยังค้างคา

และยืนยันว่าเธอยังไปไหนมาได้อย่างอิสระ ไม่มีใครมาจำกัดอิสรภาพส่วนตัวของเธอ

นั่นคือสองสามประโยคที่เธอกล่าวกับนักข่าวจากหนังสือพิมพ์สิงคโปร์ที่เซี่ยงไฮ้เมื่อสัปดาห์ก่อน

เป็นข้อมูลใหม่ที่เพิ่มขึ้นกว่าเดิม แต่ก็ยังไม่ชัดเจนว่าทางการจีนจะเอาอย่างไรกับเธอ

ที่เขียนข้อความขึ้น “เวยป๋อ” (โซเชียลมีเดียจีนที่เทียบได้กับทวิตเตอร์) ระบายความรู้สึกของตัวเองต่อความสัมพันธ์ที่มีกับอดีตรองนายกฯ จาง กาวลี่ คนนี้

นักข่าวสิงคโปร์คนนี้ไปดักเจอเธอที่เซี่ยงไฮ้ ระหว่างที่เผิงซ่วยไปร่วมพิธีแข่งขันสกีนานาชาติที่นั่น

คลิปที่ผมเห็นนั้นเหมือนเธอไม่ได้ตั้งใจจะพูดเรื่องนี้ แต่เพราะเป็นนักข่าวกีฬา เอากล้องมือถือถ่ายขณะที่ทักทายเธอ

พอเธอเดินเข้าหา นักข่าวก็ถามว่ามาจากปักกิ่งหรือ เธอบอกว่าใช่

ถามต่อว่าเธอไปไหนมาไหนไม่มีข้อจำกัดใช่ไหม เธอตอบว่าไม่มีข้อจำกัดใดๆ เธอมีความเป็นอิสระของตัวเอง

นักข่าวถามต่อว่า มีคนเป็นห่วงสวัสดิภาพของเธอหลังจากที่มีข่าวเรื่องข้อความในเวยป๋อ

เผิงซ่วยตอบว่าไม่ต้องห่วง เธอสบายดี

และเธอก็พูดต่อว่าไม่เคยกล่าวหาใคร ไม่ว่าจะด้วยคำพูดหรือข้อความเขียนว่ามีการละเมิดทางเพศเธอ

แต่เรื่องอื่นๆ เป็นเรื่องส่วนตัว เธอไม่อยากจะพูด

นั่นแปลว่าเธอยังไม่ยอมตอบคำถามเกี่ยวกับอดีตรองนายกฯ คนนี้แน่นอน

เรื่องที่เธออยากให้จบก็คงยังไม่จบ

ตราบที่ จาง กาวลี่ ยังไม่ออกมาพูด ไม่ว่าจะยืนยัน, ปฏิเสธหรือภาคเสธ หรืออะไรก็ตาม เรื่องนี้ก็ยังเป็นที่ซุบซิบนินทาแม้ในเมืองจีนเอง

ที่เมืองจีนเรื่องนี้ไม่เป็นข่าว เว็บไซต์ทั้งหลายก็ลบข้อมูลทั้งสิ้นทิ้งปวงที่โยงถึงเรื่องนี้หมด

แต่คนจีนวันนี้ย่อมสามารถหาข่าวคราวทุกเรื่องจากแหล่งข่าวต่างๆ ได้อยู่ดี

ในวิดีโอคลิปที่โพสต์ลงในเว็บไซต์สำนักข่าวภาษาจีน เหลียนเหอ จ่าวป้าว (LianheZaobao) ในสิงคโปร์      เผิงซ่วยระบุว่า วิดีโอชิ้นนี้ถ่ายทำเมื่อวันอาทิตย์ที่นครเซี่ยงไฮ้ ในขณะที่เธอเข้าร่วมเป็นแขกในการแข่งขันสกีรายการหนึ่งร่วมกับอดีตนักบาสเกตบอลชื่อดัง เหยา หมิง และบุคคลสำคัญในวงการกีฬาจีนอีกหลายคน

เผิงซ่วยหายหน้าไปจากสื่อต่างๆ หลังจากที่เธอออกมาเปิดเผยทางสื่อสังคมออนไลน์ว่า นายจาง กาวลี่ อดีตรองนายกรัฐมนตรีจีน ได้บังคับขืนใจให้เธอมีเพศสัมพันธ์ด้วย

และหลังจากนั้นทั้ง 2 มีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวแบบสมยอมเป็นครั้งคราว

โพสต์ของเธอบนโซเชียลมีเดียถูกลบทิ้งโดยเร็ว และหัวข้อเรื่องนี้ก็ถูกบล็อกไม่ให้มีการพูดถึงบนโลกอินเทอร์เน็ตของจีน

สมาคมเทนนิสหญิงโลก หรือ WTA ได้เรียกร้องให้มีการสืบสวนหาข้อเท็จจริงให้ถึงแก่น

อีกทั้งยังขู่ว่าจะถอนรายการแข่งขันออกจากจีนหากยังไม่มีการรับรองความปลอดภัยของเผิง หลังจากที่เธอหายหน้าไปเกือบ 3 สัปดาห์

 โฆษกของ WTA บอกว่า ยังคงมีความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของเผิง แม้ว่าเธอได้ปรากฏตัวต่อสาธารณชนแล้วก็ตาม

รวมทั้งความกังวลเกี่ยวกับการสื่อสารของเธอโดยที่ไม่ถูกควบคุมโดยรัฐบาลจีนด้วย

รัฐบาลจีนส่งสัญญาณไม่ต้องการเห็นการปั่นเรื่องนี้อ้างว่าอาจมีผู้ไม่หวังดีจับไปเป็นประเด็นการเมือง แต่หนีไม่พ้นว่าเรื่องนี้ต้องมีผลพวงทางการเมืองในจีนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

โดยเฉพาะเมื่อ สี จิ้นผิง จะก้าวเข้าสู่ปีใหม่เพื่อจะอยู่ในตำแหน่งสมัยที่ 3

เพราะเขาย่อมไม่ต้องการให้มีเรื่องมัวหมองต่อพรรคหรือรัฐบาลใดๆ ทั้งสิ้น

ดังนั้นการที่ทางการจีนไม่ได้แสดงความเห็นใดๆ ต่อเรื่องนี้ จึงสะท้อนถึงความอึดอัดคับข้องใจของ สี จิ้นผิง อย่างยิ่ง

จาง กาวลี่ ไม่เพียงแต่เคยเป็นรองนายกฯ เท่านั้น แต่ยังเคยดำรงตำแหน่งสำคัญในพรรค เพราะเป็น 1 ใน 7 แกนนำของกรมการเมือง หรือ Politburo ที่กำหนดนโยบายสูงสุดของประเทศ

การถูกโยงกับเรื่องอื้อฉาวทางเพศเช่นนี้ย่อมไม่ใช่เรื่องที่จะกลบให้หายไปเฉยๆ ได้

เผิง ซ่วย ปัจจุบันอายุ 35 ปี เคยเป็นผู้เล่นเทนนิสประเภทหญิงคู่ที่อยู่ในอันดับ 1 ของโลก

เคยคว้าแชมป์หญิงคู่มาแล้ว 23 รายการ รวมทั้งแชมป์แกรนด์สแลม วิมเบิลดัน เมื่อปี ค.ศ.2013 และแชมป์เฟรนช์โอเพ่น เมื่อปี ค.ศ.2014 ด้วย

ส่วนในประเภทหญิงเดี่ยว เผิงเคยทะลุเข้าถึงรอบรองชนะเลิศรายการยูเอสโอเพ่น เมื่อปี ค.ศ.2014 และรอบ 16 คนสุดท้ายออสเตรเลียนโอเพ่นในปีเดียวกัน

เธอยุติการเล่นเทนนิสในระดับสูงเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว

ยังไม่มีใครสามารถบอกได้ ยกเว้นตัวเธอเองว่าที่ตัดสินใจเขียนระบายความรู้สึกอันสับสนและงุนงงเกี่ยวกับความสัมพันธ์กับอดีตผู้นำระดับสูงเช่นนี้ด้วยเหตุผลกลใด และอาจจะเป็นปริศนาตลอดไป เพราะเธอเท่านั้นที่จะตอบคำถามนี้ได้.