ไทยโพสต์ "อิสรภาพแห่งความคิด" www.thaipost.net วิบากกรรม "สิระ" ยังไม่จบ! ถึงปิดฉากการเมืองไปแล้ว ก็ยังมีดาบสองรออยู่ คือการทำความเห็นของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่จะเอาผิดในคดีอาญา กับ "สิระ เจนจาคะ" อดีต ส.ส.คนดังเมืองกรุง พรรคพลังประชารัฐ และอดีตประธานคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และตำรวจ เนื่องจากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญผูกพันทุกองค์กรต้องปฏิบัติ เมื่อศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่านายสิระมีลักษณะต้องห้ามในการใช้สิทธิ์สมัครรับเลือกตั้งแล้วทำให้สมาชิกสภาพ ส.ส.สิ้นสุดลง กกต.ก็จะมีการพิจารณาดำเนินการตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มาตรา151 ฐานรู้อยู่แล้วว่าไม่มีสิทธิ์สมัครรับเลือกตั้งแต่ยังลงสมัคร ซึ่งมีโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี ปรับตั้งแต่ 20,000-200,000 บาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งผู้นั้นมีกำหนด 20 ปี คล้ายกับกรณีคดี "ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ" อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ที่หลุดจาก ส.ส.ในคดีถือหุ้นสื่อ
๐ แต่ก่อนจะไปถึงคดีอาญา ต้องควักเงินคืนสภาผู้แทนราษฎรเสียก่อน ตามที่กฎหมายการเลือกตั้ง ส.ส. มาตรา 151 ววรคสองระบุไว้ "หมอสุกิจ อัถโถปกรณ์" ที่ปรึกษาประธานสภาฯ แจงยิบเกี่ยวกับเงินเดือนและสิทธิประโยชน์ที่นายสิระได้รับในช่วงที่ดำรงตำแหน่ง ส.ส. ประมาณ 2 ปี กับ 9 เดือน ได้แก่ เงินประจำตำแหน่ง และเงินเพิ่ม คิดตั้งแต่วันเข้ารับตำแหน่ง คือ วันที่ 24 มี.ค.62–22 ธ.ค.64 เดือนละ 113,560 บาท, ค่าใช้จ่ายในการเดินทางมาประชุม, ค่าเบี้ยประชุม กมธ. ครั้งละ 1,500 บาท เบี้ยประชุมคณะอนุกมธ. ครั้งละ 800 บาท, ค่าตอบแทนผู้ปฏิบัติงานให้สมาชิก แบ่งเป็น ผู้ช่วย ส.ส. 5 คน คนละ 1.5 หมื่นบาท ผู้ชำนาญการประจำตัว ส.ส. 2 คน คนละ 1.5 หมื่นบาท ผู้เชี่ยวชาญประจำตัว ส.ส. 1 คน 2.4 หมื่นบาท, ค่าโดยสารเครื่องบินโดยใช้ใบเบิกทาง, ค่ารักษาพยาบาล และค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ในฐานะ กมธ. ดูตัวเลขคร่าวๆ แล้วไม่น่าจะต่ำกว่า 10 ล้านบาท ถ้าสำนักงานการคลัง สำนักเลขาธิการสภาฯ คำนวณเสร็จเมื่อไหร่ อดีต ส.ส.กทม. เขตหลักสี่ จะต้องจ่ายภายใน 30 วันนับตั้งแต่วันที่ได้รับหนังสือแจ้ง
๐ งานนี้มีพลิก “ผมจะไปมองได้ยังไง ผมยังไม่รู้จักเขาเลย” ดูท่า "บิ๊กป้อม" ส่งสัญญาณเซย์โน ไม่เอา "มาดามหลี" สรัลรัศมิ์ เจนจาคะ ภรรยาสุดที่เลิฟของเสี่ยสิระ ลงชิงเก้าอี้เลือกตั้งซ่อม ส.ส.กทม. ก็ขนาดหัวหน้าพรรคเอ่ยปากเองยังไม่รู้จักเลย แล้วคนกรุงจะเลือกได้ยังไง ประเภทส่งทายาทการเมืองที่เป็นคนในครอบครัว ญาติพี่น้อง ใช้ไม่ได้ผลกับคนกรุง ยกเว้นว่าเจ๋งจริง อย่าลืมว่าที่นายสิระได้เข้าสภาฯสมัยแรก ไม่ใช่เพราะตัวเองล้วนๆ แต่ ณ เวลานั้น กระแสลุงตู่มาแรง บวกกับอำนาจรัฐด้วยหรือเปล่าก็ว่ากันไป ถึงศึกครั้งนี้จะแค่เลือกตั้งซ่อม ตามวาระก็อยู่ได้แค่ปีกว่า ถ้ายุบสภาก่อนก็สั้นกว่านั้น แต่เชื่อว่า พปชร.แพ้ไม่ได้ เพราะคู่แข่งก็คือเจ้าของพื้นที่เดิม พรรคเพื่อไทยที่ประกาศแล้วว่าจะส่งลูกป๋าเหนาะ "สุรชาติ เทียนทอง" ล้างตา หลังพ่ายไปเพียงกว่า 2 พันคะแนน ในการเลือกตั้ง 24 มี.ค.62 ซึ่งนายสิระชนะไปด้วยคะแนน 34,907 เสียง ส่วนนายสุรชาติได้ 32,115 เสียง ซึ่งเจ้าตัวบอกเลยว่าพร้อมเลือกตั้งเสมอ เพราะที่ผ่านมาทุ่มเททำงานให้กับประชาชนทุกวัน ขณะที่ก้าวไกลเองโดยโฆษกพรรคการันตีแล้วว่าส่งคนลงแข่งสนามนี้ด้วยแน่นอน ซึ่งก็น่าจะมาตัดคะแนนในส่วนของเพื่อไทย แต่ใช่ว่า พปชร.จะมีลุ้นมากกว่า ฟากประชาธิปัตย์ถึงจะยังไม่เคาะว่าจะส่งผู้การแต้มลงแก้มืออีกครั้งหรือเปล่า แต่เชื่อขนมอีกได้ว่าสู้ศึกครั้งนี้แน่ เพราะเรื่องมารยาททางการเมืองจบไปนานแล้ว หลังเจอ พปชร.ชิงเก้าอี้เลือกตั้งซ่อมสงขลา เขต 3 จนถึงสงขลา เขต 6 "บิ๊กป้อม" รู้ดี ในช่วงลุงตู่ขาลงแบบนี้ ขืนโดนเพื่อไทยเอาคืนสำเร็จ มีหวังถูกขย่มโหมกระแสคนกรุงไม่เอาลุงตู่ เขย่าเสถียรภาพรัฐบาล สะเทือนยาวถึงเลือกตั้งใหญ่แน่.
ลี้คิมฮวง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
บันทึกหน้า 4
น้ำลด การเมืองผุด! หลังเพลาไปช่วงมหาวิปโยคใต้ เวลานี้กลับมาร้อนฉ่าอีกรอบ ช่วงเย็นพุธที่ผ่านมา คล้อยหลัง "นายกฯ อนุทิน" แถลงโชว์ถอนรากสแกมเมอร์เขมรยึดทรัพย์หมื่นล้าน
บันทึกหน้า 4
ต้องยอมรับว่าแม้ “มหาอุทกภัยในภาคใต้” เริ่มคลี่คลายเข้าสู่จุดการเยียวยา-ฟื้นฟูแล้วก็ตามที แต่ยอดผู้เสียชีวิตและความเสียหายก็ยังไม่นิ่งเสียทีเดียว แต่อย่างไรยอดผู้เสียชีวิตก็คงไม่ถึงพันศพตามที่ “พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล” อดีต รอง ผบ.ตร. วาดหวังแน่ๆ แล้ว
บันทึกหน้า 4
หลังวิกฤตน้ำท่วม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา คลี่คลาย น้ำตาก็ท่วมเมือง เมื่อชาวหาดใหญ่เห็นสภาพบ้านเรือนของตัวเองกลายเป็นซากปรักหักพัง ทรัพย์สินที่สร้างมาพังพาบไปกับกระแสน้ำแทบสิ้นเนื้อประดาตัว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ร่วมประชาสัมพันธ์กิจกรรมความร่วมมือ “รวมใจไทย ฟื้นแดนใต้” ซึ่งรัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์เป็นแกนกลางในการประสานงานร่วมกับภาคเอกชนและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
บันทึกหน้า 4
ภายใต้วิกฤตหาดใหญ่ครั้งนี้ ผู้นำรัฐบาลอย่าง อนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ และ รมว.มหาดไทย ถูกเรียกร้องให้แสดงความรับผิดชอบ แม้ต้นตอของปัญหาไม่ได้มาจากเขาคนเดียว
บันทึกหน้า 4
ขึ้นต้นเดือนสุดท้ายของปี บรรยากาศสังคมไทยยังคงซึมๆ เศร้าๆ อยู่กับเหตุและเภทภัยที่พี่น้องชาวใต้กำลังเผชิญ "น้ำลดตอผุด" ถูกขุดขึ้นมาเป็นรายวัน เหมือนมีใครบางคนกำลังช่วงชิงสถานการณ์หวัง "ตีกิน" สร้างดรามา แต่งคอนเทนต์ไล่ล่าเอาคะแนนนิยมคืนจากรัฐบาลที่นำโดยพรรคภูมิใจไทย
บันทึกหน้า 4
น้ำใจไทยไม่เคยเหือดแห้ง ถนนทุกสายจากทั่วประเทศมุ่งสู่ใต้ โดยเฉพาะ "มหาวิปโยคหาดใหญ่" ไม่ใช่แค่ทั้งเมืองจมบาดาล ทรัพย์สินเสียหาย แต่รวมถึงชีวิตที่ประเมินค่าไม่ได้ ซึ่งมีการอัปเดตตัวเลขช่วงเย็น 27 พ.ย.



