“69 ยังแจ๋ว”

เห็นหน้าตายังเด็ก ร่างกายยังฟิตปั๋ง ไม่น่าเชื่อ ”เสี่ยวัวชน“ สมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกฯ จะมีอายุ 69 ปีแล้ว หลังมีข่าวทำบุญเนื่องในโอกาสวันเมื่อวันที่ 13 ม.ค.ที่บ้านเกิดเมืองสุโขทัยและยังตรงกับวันเด็กแห่งชาติในปี 2567 อีกด้วย

แต่เมื่อสแกนผลงานต่างๆ ก็ไม่แปลกใจเพราะ “สมศักดิ์”ผ่านเส้นทางการเมืองอย่างโชกโชนไม่ต่ำกว่า 40 ปี โดยเป็น สส.สุโขทัยตั้งแต่ปี 2526 และได้รับตำแหน่งรัฐมนตรีครั้งแรกในรัฐบาล พล.อ.สุจินดา คราประยูร ในตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข  และจนถึงบัดนี้ เป็นรัฐมนตรีมาแล้ว 15 สมัยในตำแหน่งล่าสุดคือรองนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาล “เศรษฐา ทวีสืน”

โดย“สมศักดิ์” ยังเป็นเจ้าของวลีเด็ด “ไม่เคยเป็นฝ่ายค้านในขณะที่เป็น สส.” อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้“ เจ้าตัว” พึ่งตัดสินใจลาออกจาก สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย  เพื่อทำงานฝ่ายบริหารอย่างเต็มที่ และยังเสียสละเปิดทางให้คนรุ่นใหม่ในพรรคสีแดงเข้ามาทำงานในสภาฯ

"การลาออก สส.ครั้งนี้  ผมขอให้พี่น้องชาวสุโขทัย สบายใจ และไม่ต้องเป็นห่วงทิศทางการเมือง เพราะผมตั้งใจทำงานตลอด 4 ปีอย่างแน่นอน โดยดูได้จากการทุ่มเททำงาน เพื่อพี่น้องประชาชน มากว่า 44 ปี ซึ่งงานวันเกิดปีนี้ ผมก็ขอพรให้งานสำเร็จในทุกด้าน โดยเฉพาะการแก้ปัญหาความยากจน" รองนายกรัฐมนตรี กล่าว

“สมศักดิ์”  กล่าวอีกว่า ขณะนี้ผมเป็นรองนายกรัฐมนตรี ซึ่งมีงานมากกว่า รัฐมนตรี จำนวนมาก ทำให้แทบไม่มีเวลาพักผ่อนที่ใด เพราะเป็นประธานคณะกรรมการ ถึง 41 คณะ โดยกำกับดูแลทั้ง ถนน น้ำ กองทุนหมู่บ้าน ที่กำลังผลักดันการเลี้ยงโค และการแก้ปัญหาความยากจนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งจะเห็นว่า ผมมีงานที่ต้องรับผิดชอบจำนวนมาก แต่ก็จะทำอย่างเต็มที่ 

เมื่อถามว่าอายุ 69 ปีแล้ว ทำไมยังดูเด็กและแข็งแรงอยู่เลย  “รองสมศักดิ์” หยอกล้ออย่างอารมณ์ดีว่า "วันนี้วันเด็ก ผมเกิดตรงกับวันเด็ก ก็จะเด็กอยู่เรื่อย"  นอกจากนี้สื่อฯยังทราบเวลาว่าง“เสี่ยวัวชน”มักออกกำลังกายเตะฟุตบอลได้ตลอด90นาที อยู่เป็นประจำเสมอ

หน้าเด็กและยังฟิตปั๋งแบบนี้เห็นทีว่ารัฐมนตรี 15 สมัยคงยังไม่หยุดแค่นี้  (อิอิ)

 

 

ช่างสงสัย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อำลา‘ก.ท่องเที่ยวฯ’

เป็นช่วงเวลาของการอำลาตำแหน่งและการย้ายกระทรวงของบรรดารัฐมนตรีหลายคนในรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่บางคนต้องออกไปถาวร หรือบางคนแค่ย้ายกระทรวง ทำให้ช่วงนี้เห็นบรรยากาศอบอวลไปด้วยความอบอุ่นของบรรดาข้าราชการกระทรวงต่างๆ ที่จัดงานอำลาให้กับเจ้ากระทรวงของตัวเอง

ไม่ได้หมายถึงเรื่องใด

ช่วงปลายเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา นั้นเป็นที่วิพาษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง เมื่อ อ. ธงทอง จันทรางศุ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี อดีตรองปลัดกระทรวงยุติธรรม และ ศาสตราภิชานประจำคณะนิติศาสตร์

สายล่อฟ้า

ปรับคณะรัฐมนตรี(ครม.)เศรษฐา1/1 เกิดเหตุตามหลังมากกมาย ที่กล่าวขานกันมากก็กรณี “ปานปรีย์ พหิทธานุกร” ลาออกจากการเป็นรมว.ต่างประเทศ เรียกว่าทุกสายตาคอการเมืองพุ่งเป้าไปที่นั่น

“วันสบายๆ”

การเมืองช่วงนี้ร้อนแรงไม่แพ้กับอากาศจริงๆ เพราะนอกจากจะร้อนแล้วยังระอุไปทั่ว ทั้งประเทศไทย เมื่อวันที่ 28 เม.ย. ที่ผ่านมา ได้มีประกาศในราชกิจจานุเบกษา ถึงรายชื่อรัฐมนตรี ทั้งพ้นความเป็นรัฐมนตรีและแต่งตั้งรัฐมนตรี โดยมีชื่อที่คุ้นหน้าคุ้นตากันหลายชื่อ

บันทึกหน้า 4

ควันหลงการปรับ ครม.เศรษฐา 1/1 เกิดดรามามากมาย โดยเฉพาะจากคนที่ผิดหวัง ไม่ว่าจะเป็น นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ที่พ้นกระทรวงสาธารณสุข กลับไปทำงาน สส. รวมถึงกรณี นายปานปรีย์ พหิทธานุกร ที่หลุดจากตำแหน่งรองนายกฯ

นิ่งแบบนี้มีลุ้น

ช่วงตั้ง ครม.เศรษฐา 1 ใหม่ๆ หลายคนคาดการณ์ สมศักดิ์ เทพสุทิน คงนั่งเป็นรองนายกรัฐมนตรีอยู่ทำเนียบรัฐบาลไม่นาน เพราะถนัดงานกระทรวงมากกว่า