ต้องบอกว่าวันพุธที่ 17 มกราคม พุทธศักราช 52567 ซึ่ง ตรงกับวันพุธ ขึ้น 7 ค่ำ เดือนยี่ ปีเถาะ และตรงกับวันหวยออกครั้งแรกของปี 2567 ที่กลัวกันหนักหนาว่าจะเป็น “เลขเบิ้ล” นั้นก็ไม่ใช่แต่ประการใด แต่ดูเหมือนจะเป็นวันแห่งการชี้ชะตาคดีความเสียมากกว่า ...๐
โดยคดีที่ใหญ่ที่สุดแห่งวันคงไม่มีคดีใดเกิน “ศาลรัฐธรรมนูญ” ลงมติและอ่านคำวินิจฉัยในคดีที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรส่งคำร้องขอให้วินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ว่าสมาชิกภาพของ “ศักดิ์สยาม ชิดชอบ” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมในขณะนั้น สิ้นสุดลงเฉพาะตัว ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (5) ประกอบมาตรา 187 หรือไม่ จากกรณียังคงไว้ซึ่งหุ้นส่วนและเป็นผู้ถือหุ้นและเจ้าของห้างหุ้นส่วนจำกัดบุรีเจริญ คอนสตรัคชั่น ซึ่งศาลมีมติเสียงข้างมาก 7 ต่อ 1 วินิจฉัยให้ความเป็นรัฐมนตรีของ “ศักดิ์สยาม” สิ้นสุดลงเฉพาะตัวนับตั้งแต่วันที่ 3 มี.ค.2566 ซึ่ง หลังจากวันที่ 3 มี.ค.2568 หาก “น้องเนวิน” ยังพิสมัยการเมืองอยู่ก็อาจได้เห็น “รัฐมนตรีโอ๋” มาผงาดอีกครั้ง ก็ได้ แต่หมายความว่าต้องมีรัฐบาลเพื่อไทยบริหารประเทศอยู่ ...๐
ส่วนที่ “ศาลอาญา” ก็มีการพิพากษาคดีที่สำคัญอีก 2 คดี โดยเริ่มจากคดีของ “อานนท์ นำภา” ทนายความกลุ่มราษฎร เป็นจำเลยในความผิดดูหมิ่นสถาบัน ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 14 ซึ่งศาลพิพากษาจำคุก 4 ปี โดยไม่รอลงอาญา และให้บวกโทษกับคดีดำ อ.2495/2564 ของศาลอาญา ทำให้รวมจำคุก 4 ปี ซึ่ง ข้อต่อสู้ของ “อานนท์” ที่อ้างว่าต้องการให้แก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 นั้น ฟังไม่ขึ้น ก็ไม่รู้ว่าคำตัดสินดังกล่าวจะทำให้บรรดา “สามกีบ” ทั้งหลายหนาวๆ ร้อนๆ บ้างหรือไม่ ...๐
ส่วนอีกคดีนั้นก็ยาวนานกว่า 15 ปี โดย “ศาลอาญา” พิพากษาคดีหมายเลขดำ อ.973/2556 ที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ถูกฟ้องใน ความผิดฐานเป็นกบฏ-ก่อการร้ายฯ ในการบุกยึดสนามบินดอนเมือง-สุวรรณภูมิ เมื่อปี 2551 ซึ่งศาลได้ลงโทษในฐานความผิดฐานบุกรุกและฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน 2548 เท่านั้น โดยปรับคนละ 20,000 บาท เพราะหลักฐานไม่มีน้ำหนักเพียงพอให้รับฟังได้ว่ากระทำความผิด ...๐
เรียกว่าเป็น “พุธแห่งคดีความ” ประเดิมรับปีมังกรทองกันเลย ซึ่งในวัน พุธที่ 24 มกราคม 2567 ซึ่งตรงกับขึ้น 14 ค่ำ เดือนยี่ ปีเถาะนั้น “ศาลรัฐธรรมนูญ” ก็นัดวินิจฉัยและลงมติในคดี “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เป็นผู้ถือหุ้นในบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) และเป็นเหตุให้สมาชิกภาพ สส.สิ้นสุดลงหรือไม่ และก็ตามมาด้วย พุธ แรม 6 ค่ำ เดือนยี่ วันที่ 31 มกราคม 2567 ศาลรัฐธรรมนูญก็จะวินิจฉัยและลงมติในกรณีการกระทำของนายพิธาและพรรคก้าวไกลเสนอร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่...) พ.ศ. ... เพื่อยกเลิกมาตรา 112 ใช้เป็นนโยบายในการหาเสียง เข้าข่ายล้มล้างการปกครองหรือไม่ ...๐
งานนี้หากดูตามฤกษ์พานาทีแล้ว ต้องบอกว่าในคดีถือหุ้นไอทีวีนั้น ตัดสินในวันที่พระจันทร์ใกล้จะเต็มดวง ย่อมเป็นคุณต่อ “พิธา” แต่คงได้เฮได้ใช้ชีวิตอยู่แบบแฮปปี้เพียงแค่สัปดาห์เดียวเท่านั้น เพราะในสัปดาห์ต่อมาก็เหมือนราหูอมจันทร์นั่นแล เพราะอยู่ในช่วงเดือนแรม ซึ่งต้องบอกว่าผลน่าจะออกมาเป็นลบกับพรรค ยิ่งได้ดูคำพิพากษาของ “อานนท์” เป็นหนังตัวอย่างด้วยแล้ว ก็คงไม่เกินคาดแต่ประการใด แต่จะถึงขั้นยุบพรรคตัดสิทธิ์หรือไม่อย่างไรนั้น คงต้องติดตามกันอย่างไม่กะพริบ แต่ที่แน่ๆ คือ การรณรงค์หรือขอแก้ไขมาตรา 112 นั้น เชื่อว่าต้องเจอติดเบรกแน่นอน ...๐
หันมาดูเรื่อง “ดิจิทัลวอลเล็ต” กันบ้าง เพราะหลังจากเอกสารผลการศึกษาของ ป.ป.ช.หลุดออกมาที่จำนวน 177 หน้านั้น ก็ทำให้รัฐบาล “เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังที่รับลมหนาวอยู่ที่เมืองดาวอส สมาพันธรัฐสวิสถึงกับเหงื่อตก กันเลยทีเดียว ในขณะที่ “จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์” รมช.การคลัง ที่ทำหน้าที่เป็นขุนคลังตัวจริงขาดเพียงการเซ็นชื่อในธนบัตรเท่านั้น ก็ออกอาการฟาดงวงฟาดงาไปทั้ง “ขุนคลังเงา” อย่าง “ศิริกัญญา ตันสกุล” เจ๊ไหมแห่งก้าวไกล รวมทั้งยังแฉลบไปยัง องค์กรอิสระทั้งธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และ ป.ป.ช. ว่ามีการตั้งธงล้ม “ดิจิทัล” กันไปโน่น แต่ที่ขำไม่ออกคือ “จุลพันธ์” เริ่มยอมแพ้ในการลากโยง “วิกฤตเศรษฐกิจ” แล้ว เพราะตัวเลขมันฟ้อง เลยต้องประดิษฐ์วาทกรรมว่าเป็น “วิกฤตการเห็นอกเห็นใจ” โอ้พระเจ้าจอร์จ เล่นแบบนี้กฎหมายก็เป็นแค่เอกสารเช็ดก้นสิพี่น้อง ...๐
ท.ศักดิ์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
บันทึกหน้า 4
น้ำลด การเมืองผุด! หลังเพลาไปช่วงมหาวิปโยคใต้ เวลานี้กลับมาร้อนฉ่าอีกรอบ ช่วงเย็นพุธที่ผ่านมา คล้อยหลัง "นายกฯ อนุทิน" แถลงโชว์ถอนรากสแกมเมอร์เขมรยึดทรัพย์หมื่นล้าน
บันทึกหน้า 4
ต้องยอมรับว่าแม้ “มหาอุทกภัยในภาคใต้” เริ่มคลี่คลายเข้าสู่จุดการเยียวยา-ฟื้นฟูแล้วก็ตามที แต่ยอดผู้เสียชีวิตและความเสียหายก็ยังไม่นิ่งเสียทีเดียว แต่อย่างไรยอดผู้เสียชีวิตก็คงไม่ถึงพันศพตามที่ “พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล” อดีต รอง ผบ.ตร. วาดหวังแน่ๆ แล้ว
บันทึกหน้า 4
หลังวิกฤตน้ำท่วม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา คลี่คลาย น้ำตาก็ท่วมเมือง เมื่อชาวหาดใหญ่เห็นสภาพบ้านเรือนของตัวเองกลายเป็นซากปรักหักพัง ทรัพย์สินที่สร้างมาพังพาบไปกับกระแสน้ำแทบสิ้นเนื้อประดาตัว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ร่วมประชาสัมพันธ์กิจกรรมความร่วมมือ “รวมใจไทย ฟื้นแดนใต้” ซึ่งรัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์เป็นแกนกลางในการประสานงานร่วมกับภาคเอกชนและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
บันทึกหน้า 4
ภายใต้วิกฤตหาดใหญ่ครั้งนี้ ผู้นำรัฐบาลอย่าง อนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ และ รมว.มหาดไทย ถูกเรียกร้องให้แสดงความรับผิดชอบ แม้ต้นตอของปัญหาไม่ได้มาจากเขาคนเดียว
บันทึกหน้า 4
ขึ้นต้นเดือนสุดท้ายของปี บรรยากาศสังคมไทยยังคงซึมๆ เศร้าๆ อยู่กับเหตุและเภทภัยที่พี่น้องชาวใต้กำลังเผชิญ "น้ำลดตอผุด" ถูกขุดขึ้นมาเป็นรายวัน เหมือนมีใครบางคนกำลังช่วงชิงสถานการณ์หวัง "ตีกิน" สร้างดรามา แต่งคอนเทนต์ไล่ล่าเอาคะแนนนิยมคืนจากรัฐบาลที่นำโดยพรรคภูมิใจไทย
บันทึกหน้า 4
น้ำใจไทยไม่เคยเหือดแห้ง ถนนทุกสายจากทั่วประเทศมุ่งสู่ใต้ โดยเฉพาะ "มหาวิปโยคหาดใหญ่" ไม่ใช่แค่ทั้งเมืองจมบาดาล ทรัพย์สินเสียหาย แต่รวมถึงชีวิตที่ประเมินค่าไม่ได้ ซึ่งมีการอัปเดตตัวเลขช่วงเย็น 27 พ.ย.



