'นางฟ้าสู่เมียน้อย'

บทบาทใหม่ จากอดีตรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี หรือรองโฆษกรัฐบาล มาเป็น "แม่บ้าน มท.1" สำหรับ "เลขาฯ กวาง" น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รมว.มหาดไทย  

​เรียกได้ว่าเมื่อเปลี่ยนหน้าที่แล้ว ก็ต้องทำงานตั้งแต่สากกะเบือยันเรือรบตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้แก่ประชาชน ตามแนวทางของกระทรวงคลองหลอด  

​พร้อมทำงานสนับสนุนพรรคเลือดน้ำเงิน ที่นำโดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย นายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย มท.2 รวมทั้งนายชาดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย ภายใต้นโยบายจัดระเบียบสังคม  

อย่างไรก็ตาม ระหว่างวันที่ 22-23 ม.ค.ที่ผ่านมา ในภารกิจ ครม.สัญจรที่จังหวัดระนอง "เลขาฯ กวาง" ได้ร่วมคณะไปกับ มท.1 และผู้บริหารกระทรวงมหาดไทย ข้ามน้ำข้ามทะเลลงเรือข้ามไปเกาะพยาม ตรวจการก่อสร้างสะพานข้ามคลองอ่าวเขาควายที่ยังไม่แล้วเสร็จ เพื่อหวังช่วยเหลือประชาชน 

หลังเกิดกรณีดรามา เด็กนักเรียนชาวมอแกนต้องเดินลุยน้ำข้ามคลอง และเกรงว่าจะเกิดอันตราย 

ซึ่งงานดังกล่าว มท.1 ก็ช่วยแก้ปัญหาระยะสั้นต่างๆ และระดมเงินก่อสร้างสะพานชั่วคราว รวมถึงหาแนวทางเพื่อสร้างสะพานถาวรต่อไป หลังติดขัดข้อกฎหมายต่างๆ 

​ แต่ช่วงเดินทางกลับจากเกาะพยายามมาตัวเมืองระนอง ระหว่างนั่งรถเข้าที่พัก ได้เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น เมื่อ "เลขาฯ กวาง" พบ 2 ชาย 1 หญิงกำลังทะเลาะตบตีกันข้างถนน คาดว่าเป็นเรื่องชู้สาว โดยมีลูกเล็กอยู่ข้างๆ  

ด้วยความหวังดี "ไตรศุลี" สั่งให้หยุดรถ พร้อมสวมบท "นางฟ้า" ลงไปห้าม หวังช่วยหย่าศึกเพราะไม่อยากให้มีการทำร้ายร่างกายกันต่อหน้าลูก

แต่เหตุการณ์กลับตาลปัตร ฝ่ายภรรยารีบปรี่เข้ามาหาเหมือนจะเข้ามาตบ “เลขาฯ กวาง” พร้อมพูดกล่าวหาว่าเป็น "เมียน้อย" หวังพลิกเกมใช้ “เลขาฯ กวาง” เป็นเครื่องมือ ใส่ความว่าสามีก็มีชู้เหมือนกัน (ฮา)    

 ทำเอา "เลขาฯ มท.1" ที่เหมือนทำคุณบูชาโทษ ต้องรีบชี้แจงยกใหญ่ว่า "ฉันไม่ใช่เมียน้อย" แต่อย่างใด พร้อมสั่งสอนฝ่ายหญิงไม่ควรใช้วิธีนี้และโยนบาปให้คนอื่น  

ก่อนที่คู่สามีภรรยาและลูกจะแยกตัวไปเคลียร์กันต่อยาวๆ ที่บ้าน ซึ่งก็ไม่ทราบผลจะออกมาเช่นใด  

งานนี้ “เลขาฯ กวาง” บอกไม่ได้กลัวถูกตบ แต่แอบเคืองเล็กๆ ที่ถูกใส่ความเป็น "เมียน้อย" ทั้งที่ยังสวย สาว และสำคัญสุด "ยังโสด" จร้า.

 ช่างสงสัย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

อำลา‘ก.ท่องเที่ยวฯ’

เป็นช่วงเวลาของการอำลาตำแหน่งและการย้ายกระทรวงของบรรดารัฐมนตรีหลายคนในรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่บางคนต้องออกไปถาวร หรือบางคนแค่ย้ายกระทรวง ทำให้ช่วงนี้เห็นบรรยากาศอบอวลไปด้วยความอบอุ่นของบรรดาข้าราชการกระทรวงต่างๆ ที่จัดงานอำลาให้กับเจ้ากระทรวงของตัวเอง

ไม่ได้หมายถึงเรื่องใด

ช่วงปลายเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา นั้นเป็นที่วิพาษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง เมื่อ อ. ธงทอง จันทรางศุ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี อดีตรองปลัดกระทรวงยุติธรรม และ ศาสตราภิชานประจำคณะนิติศาสตร์

สายล่อฟ้า

ปรับคณะรัฐมนตรี(ครม.)เศรษฐา1/1 เกิดเหตุตามหลังมากกมาย ที่กล่าวขานกันมากก็กรณี “ปานปรีย์ พหิทธานุกร” ลาออกจากการเป็นรมว.ต่างประเทศ เรียกว่าทุกสายตาคอการเมืองพุ่งเป้าไปที่นั่น

“วันสบายๆ”

การเมืองช่วงนี้ร้อนแรงไม่แพ้กับอากาศจริงๆ เพราะนอกจากจะร้อนแล้วยังระอุไปทั่ว ทั้งประเทศไทย เมื่อวันที่ 28 เม.ย. ที่ผ่านมา ได้มีประกาศในราชกิจจานุเบกษา ถึงรายชื่อรัฐมนตรี ทั้งพ้นความเป็นรัฐมนตรีและแต่งตั้งรัฐมนตรี โดยมีชื่อที่คุ้นหน้าคุ้นตากันหลายชื่อ

บันทึกหน้า 4

ควันหลงการปรับ ครม.เศรษฐา 1/1 เกิดดรามามากมาย โดยเฉพาะจากคนที่ผิดหวัง ไม่ว่าจะเป็น นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ที่พ้นกระทรวงสาธารณสุข กลับไปทำงาน สส. รวมถึงกรณี นายปานปรีย์ พหิทธานุกร ที่หลุดจากตำแหน่งรองนายกฯ

นิ่งแบบนี้มีลุ้น

ช่วงตั้ง ครม.เศรษฐา 1 ใหม่ๆ หลายคนคาดการณ์ สมศักดิ์ เทพสุทิน คงนั่งเป็นรองนายกรัฐมนตรีอยู่ทำเนียบรัฐบาลไม่นาน เพราะถนัดงานกระทรวงมากกว่า