ตามการวิจัยกล่าวว่า อายุ 70 ปีขึ้นไป จะดำเนินชีวิตต่อไปก็ยากยิ่งนัก เพราะในช่วงอายุ 70-75 สภาพร่างกายจะทรุดตัวลงอย่างรวดเร็ว เนื่องจาก 3 ประการต่อไปนี้
1.จิตใจแก่ (จิตใจถดถอย) จิตใจที่ท้อแท้ ถดถอย ทำให้ร่างกายที่ยังไม่ถึงเวลาถดถอย จะถดถอยก่อนเวลาเพราะจิตใจเป็นเหตุ การที่จิตใจท้อแท้ ถดถอย ส่งผลให้อารมณ์ ความรู้สึก สภาพร่างกายแย่ไป ไม่สบายใจ ไม่มีความสุข
2.การสูญเสียความมั่นใจ คนอายุเกิน 70 มักขาดความมั่นใจ คิดว่าตนเองไม่มีความสามารถ ไม่สามารถตามทันโลก ตามทันสังคม มักคิดว่าถูกสังคมทอดทิ้งเสียแล้ว เขาจะยิ่งรู้สึกว่า ตนเองไร้ค่า ตนเองไม่มีประโยชน์เลย
ในโลกที่ก้าวกระโดดนี้ ตนเองไม่สามาถชำระเงินผ่านมือถือ หรือใช้เครืองมือที่สังคมกำลังใช้กัน ก้าวไม่ทันโลก ไปไม่เป็น และแย่ยิ่งกว่านั้น ยังรู้สึกถูกลูกหลานทอดทิ้ง คุยไม่รู้เรื่องกับลูกหลาน ตามไม่ทัน ยิ่งทำให้อยากอยู่ตามลำพัง ไม่พูดไม่คุยกับใคร เก็บตัว สถานการณ์แบบนี้ ถ้าปล่อยไปอาจทำให้เจ็บป่วยง่าย เพราะสภาพจิตใจที่หมดหวัง คนกลุ่มนี้มักคิดถึงคู่ของตนที่จากไป ขาดคู่ ชีวิตไม่เหมือนเดิม เกิดการชะงักงัน ดำเนินชีวิตต่อไปได้ยาก ถ้าไม่สามารถปรับตัวได้ ไม่นานจะเห็นคนนึงที่เพิ่งจากไป ไม่นานอีกคนก็จะจากไปด้วย
3.ความรู้สึกสูญเสียตัวตน อายุเกิน 70 รู้สึกว่าไม่ใช่คนสำคัญแล้ว ไม่ได้เป็นผู้นำอีกต่อไป กลายเป็นคนอื่นนำ บอกเขาให้ทำตาม ยิ่งถ้าสุขภาพไม่ดี ต้องให้คนอื่นมาดูแล เขาจะยิ่งรู้สึกว่า ตนเองไม่ได้เรื่อง ไม่ได้ดังใจ รู้สึกอับอายว่าตนทำอะไรไม่ได้ สูญเสียเกียรติ และกลายเป็นภาระของลูกหลาน สังคม ไร้ค่า ไร้ความหมาย หดหู่ ลักษณะแบบนี้ถ้าไม่สามารถปรับสภาพจิตใจของตนแล้ว จะทำให้สภาพการณ์ยิ่งแย่ไปกว่าเดิม
เรื่องราวเบื้องต้น.. เพื่อนๆ ในวัยอีกไม่ไกลไม่ใกล้จะถึงหลัก 7 ส่งต่อๆ กันมาให้อ่าน พร้อมกับเรียกร้องว่า กลุ่มเพื่อนที่เคยนัดกินข้าว นัดเล่นโยคะ "ห้าม" หยุดกิจกรรมที่เคยสุมหัวกันเด็ดขาด!!!
เพราะ ..รวมกันเราอยู่ได้ยาว..แน่นอน หากแยกกัน ทางใครทางมันเมื่อไหร่ล่ะก็ มีแนวโน้มอย่างสูงว่าจะเฉาตาย..ตามผลงานวิจัย
ฉะนั้น เราคงต้องเตรียมร่างกายของเราไว้ล่วงหน้า สำหรับคนที่กำลังอยู่ที่หลัก 6 อย่างมนุษย์ป้านะคะ นอกจากนั้นที่ต้องทำใจให้ได้ก็คือ อาการห่วงลูกห่วงหลาน เสียจนต้องหวนกลับไปเป็น "แจ๋ว" ประจำบ้าน ทั้งๆ ที่วัยเกษียณแล้วควรจะได้ใช้เวลาที่เหลือน้อยตามอำเภอใจเสียที
ลองคิดพิจารณา แล้วเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับโลกใบใหม่ในวัยตกกระ ..กันดีกว่าค่ะ.
"ป้าเอง"
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ไม่ใช่เวลา..จับผิด!!
ความทุกข์ของคนที่จังหวัดสงขลา ไม่ว่าจะมากจะน้อยแล้วแต่เขตอำเภอ และพื้นที่แต่ละแห่ง ล้วนไม่ได้แตกต่างกันสักเท่าไร เพราะชีวิตประจำวันที่เคยเดินทางสัญจร ไปไหนมาไหนตามอำเภอใจนั้น ถูกจำกัดโดยปริยาย ซึ่งหมายความว่า ต่างได้รับผลกระทบกันถ้วนหน้า
“น้ำใจของคนไทย" ความงดงามที่ทำให้สังคมน่าอยู่
ประโยคนี้ใครไม่เห็นด้วย..ยกมือขึ้น!! ถ้าใครยังมองไม่เห็น แค่หรี่ตาข้างเดียวก็ได้ แล้วมองเหตุการณ์น้ำท่วมภาคใต้ในช่วงนี้ รับรองว่าจะเห็นแจ่มแจ้งถึงพลังแห่งความช่วยเหลือจากทุกทิศทางหลั่งไหลไปไม่ขาดสาย
ความเป็น..จีน..ที่เปลี่ยนไป
เวลาที่คิดจะไปเที่ยวเมืองจีน สิ่งแรกที่คิดถึงจนเป็นความกังวลของมนุษย์ป้าเอง เห็นจะไม่พ้นเรื่องของ "ห้องสุขา" ที่เรียกขานตามภาษาถิ่นของเขาว่า "สีโส่วเจียน" เพราะเอกลักษณ์อันไม่อาจลืมเลือนของที่นั่นคือ ความสะอาดที่ยากจะหาเจอ
60อัป..ใครทำได้ก็ทำไป
ประเด็นขยายอายุเกษียณจาก 60 เป็น 65 ปี กำลังเป็นเรื่องฮอตในสังคมไทยอยู่ตอนนี้
เรื่องของ..มิวเซียม
เมื่อเดือนที่แล้วมีโอกาสไปเที่ยวมิวเซียม ที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรียค่ะ ได้ความรู้และอรรถรสของการชมสถานที่สำคัญและน่าจดจำ ไม่ว่าจะเป็น Kunsthistorisches Museum Wien (พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ศิลปะเวียนนา) ที่ได้ชื่อว่าสะสมสมบัติของชาติไว้มากที่สุดแห่งหนึ่ง หรือจะเป็นร้านกาแฟที่้ได้ชื่อว่าสวยที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง
เรื่องตลกเรื่องนี้ได้ที่หนึ่งของโลก
ในงานปาร์ตี้รวมดารา มีคุณลุงแก่ๆ ท่านหนึ่งขึ้นเวทีมาด้วยไม้เท้า แล้วก็นั่งลงที่เก้าอี้ พิธีกรถามว่า "คุณลุงยังไปหาหมอบ่อยๆ อยู่ไหมครับ?"



