ชื่อของ Transnistria โผล่มาเป็นข่าวในช่วงนี้เพราะเกิดความเคลื่อนไหวขอให้รัสเซียมา “ปกป้อง” ตนจากภัยคุกคามของประเทศ Moldova
กลายเป็นประเด็นร้อนขึ้นมาเพราะที่ตั้งและประวัติทางการเมืองของดินแดนนี้โยงกับสงครามยูเครนระหว่างรัสเซียกับยูเครนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ดินแดนนี้ประกาศแยกตัวออกจาก Moldova ตั้งแต่ 1991 แต่ไม่มีประเทศไหนรับรองอย่างเป็นทางการว่าเป็นรัฐอิสระ
ประชากรมีกว่า 4 แสนคนแต่กว่าครึ่งมีเชื้อสายรัสเซีย
มีทหารรัสเซียประจำการอยู่ประมาณ 1,500 คนเรียกเป็น “หน่วยรักษาสันติภาพ”
แต่ไหนแต่ไรไม่เคยมีการเรียกประชุม “รัฐสภา” ของดินแดนแห่งนี้ แต่สัปดาห์ก่อนมีการลงมติเป็นกรณีพิเศษ
มีมติว่าขอให้รัสเซียมาดูแลความปลอดภัยของตนเพราะรัฐบาล Moldova กดดันบังคับด้วยการออกกฎหมายเก็บภาษีขาเข้าขาออก
ซึ่งถูกตีความว่าเป็นการจงใจบีบบังคับให้ยอมจำนน
ที่ผู้คนกังวลนั้นไม่ใช่ประเด็นการประกาศแยกตัวของดินแดนนี้แต่หวั่นเกรงกันว่าที่นี่อาจกลายเป็น “จุดวาบไฟ” ครั้งใหม่ในความขัดแย้งระหว่างมอสโกกับยูเครน
ความจริง ดินแดนบางส่วนของ Tranistria ถูกควบคุมโดยพฤตินัยโดยกองกำลังที่สนับสนุนรัสเซียนับตั้งแต่การล่มสลายของสหภาพโซเวียตปี 1991 แล้ว
แต่ได้รับการยอมรับในระดับสากลว่าเป็นส่วนหนึ่งของมอลโดวา
การลงมตินัดพิเศษเมื่อสัปดาห์ก่อนเป็นการประชุมครั้งที่ 7 ในประวัติศาสตร์
สมาชิกสภานิติบัญญัติของดินแดนแห่งนี้มีมติขอให้รัฐสภารัสเซีย "ปกป้อง" ทรานส์นิสเตรียจากแรงกดดันของมอลโดวาที่เพิ่มขึ้น
พวกเขากล่าวว่ารัฐบาลมอลโดวาที่มีเมืองหลักคือ Chișinău ได้เปิด “สงครามทางเศรษฐกิจ” กับเมืองทรานส์นิสเตรีย โดยขัดขวางการนำเข้าที่สำคัญโดยมีเป้าหมายที่จะเปลี่ยนให้กลายเป็น “สลัม”
“ประชาคมระหว่างประเทศไม่สามารถเพิกเฉยต่อการตัดสินใจของสภาคองเกรสในปัจจุบันได้” วิตาลี อิกเนติเยฟ หัวหน้านโยบายต่างประเทศของสาธารณรัฐที่ประกาศแยกตัวออกมาประกาศกลางที่ประชุม
แต่รัฐบาลมอลโดวาตอบโต้ว่าการเรียกร้องการคุ้มครองเป็นเพียง "การโฆษณาชวนเชื่อ" เพื่อสร้างสถานการณ์เท่านั้น
รัฐบาล “ปฏิเสธคำโฆษณาชวนเชื่อที่มาจาก Tiraspol (เมืองหลักของ Tranistria) และระลึกว่าภูมิภาคทรานส์นิสเตรียนได้รับประโยชน์จากนโยบายสันติภาพ ความมั่นคง และการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจกับสหภาพยุโรป ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อพลเมืองทุกคน” โอเล็ก เซเรเบรียน รองนายกรัฐมนตรีมอลโดวาเขียนบน Telegram
รัสเซียออกข่าวแสดงความเห็นอกเห็นใจประชาชนชาวทรานส์นิสเตรีย
ด้วยการบอกว่าความปลอดภัยของผู้อยู่อาศัยในดินแดนนี้เป็นเรื่องสำคัญและรัสเซียจะไม่นิ่งดูดาย
“การปกป้องผลประโยชน์ของผู้อยู่อาศัยใน Transnistria ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมชาติของเรา เป็นหนึ่งในลำดับความสำคัญของเรา” สำนักข่าวของรัฐรัสเซียอ้างกระทรวงการต่างประเทศประกาศ
จังหวะที่ข่าวนี้ดังขึ้นมามีความสำคัญทางการเมือง
เพราะเกิดขึ้นเพียงหนึ่งวันก่อนที่ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน จะต้องกล่าวปราศรัยประจำปีต่อหน้าสมาชิกสภานิติบัญญัติของรัสเซีย
และในขณะที่ยูเครนเผชิญกับความเพลี่ยงพล้ำในสนามรบหลายจุด
ดินแดนแห่งนี้ไม่ค่อยได้ประชุม “รัฐสภา” นัก
ครั้งสุดท้ายที่มีการเรียกประชุมคือปี 2006 หรือ 18 ปีก่อน
เป็นปีที่มีการประกาศการลงประชามติเพื่อเสนอให้บูรณาการกับรัสเซีย
ผลการลงคะแนนเสียงส่งผลให้ได้รับเสียงข้างมากอย่างท่วมท้น
การเรียกร้องความช่วยเหลือจากมอสโกครั้งนี้ทำให้เกิดการเปรียบเทียบกับเดือนกุมภาพันธ์ปี 2022 เมื่อกลุ่มติดอาวุธที่ได้รับการสนับสนุนจากรัสเซียในยูเครนตะวันออกเรียกร้องให้มีการคุ้มครองจากสิ่งที่พวกเขาเรียกว่าเป็นการ “โจมตีอย่างไม่หยุดยั้งด้วยอาวุธ” โดยกองกำลังของยูเครน
มอลโดวากล่าวหาว่าเครมลินเป็นผู้จุดชนวนความตึงเครียดในทรานนิสเทรีย
ซึ่งเป็นภูมิภาคที่พูดภาษารัสเซียเป็นหลักและต้องอาศัยการสนับสนุนอย่างมากจากมอสโก
นับตั้งแต่มอสโกเริ่มโจมตียูเครนเต็มรูปแบบ โมโดลวาก็มีความกังวลว่าเครมลินอาจใช้ทรานสนิสเตรียเพื่อเปิดแนวรบใหม่ทางตะวันตกเฉียงใต้ ในทิศทางของโอเดสซา
ภูมิภาคเล็กๆ แห่งนี้สั่นสะเทือนด้วยเหตุระเบิดที่ไม่สามารถอธิบายได้ในปี 2022 ซึ่งนักวิเคราะห์ทางทหารเชื่อว่าอาจเป็นความพยายามของรัสเซียในการลากภูมิภาคนี้เข้าสู่ความขัดแย้ง
จากนั้นในเดือนมีนาคม ปี 2023 ผู้นำที่สนับสนุนรัสเซียของทรานส์นิสเตรียกล่าวหาว่ายูเครนพยายามลอบสังหารผู้นำของกลุ่มนี้
ยูเครนปฏิเสธทุกข้อหา
รัสเซียเตือนยูเครนและมอลโดวาว่าถ้ามีการโจมตีดินแดนแห่งนี้จะส่งผลร้ายแรงตามมา
รัสเซียเป็นกำลังสำคัญในการอุ้มชูเศรษฐกิจของทรานส์นิสเตรียด้วยการจัดหาก๊าซให้
แต่ดูเหมือนผู้นำของดินแดนแห่งนี้จะเริ่มรู้สึกถูกโดดเดี่ยวจากมอสโกมากขึ้นนับตั้งแต่ความขัดแย้งในยูเครน
จึงมีการวิเคราะห์กันว่าเรื่องร้อน ๆ ที่เกิดขึ้นตอนนี้อาจจะเป็นความพยายามจะเรียกร้องความสนใจของดินแดนเล็ก ๆ แห่งนี้จากมอสโก
ด้วยจุดที่ตั้งของทรานส์นิสเตรียที่ตั้งอยู่ระหว่างยูเครนกับโมลโดวา (ซึ่งมีความโอนเอียงไปทางสหภาพยุโรปและต่อต้านรัสเซีย) จึงทำให้เกิดความเปราะบางของสถานการณ์ที่สร้างความแปรปรวนให้กับสงครามใหญ่ข้างบ้านได้อย่างน่าสนใจ!
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
แชร์สนั่นโซเชียล ลุกโชนเป็นไฟลามทุ่ง! ‘อนุทิน’ บุกเพจ ‘สุทธิชัย’ แจงกรณีคุยกับ ‘ทรัมป์’
ภายหลัง เพจ Suthichai Yoon โพสต์ข้อความว่า‘ทรัมป์‘ ให้สัมภาษณ์ Wall Street Journal ว่าเขาได้ใช้ tariff กดดันให้ไทยกับกัมพูชายุติการสู้รบ!
มีแม้วไม่มีเรา! วัดใจจุดยืน 'พรรคส้ม' หลังทักษิณขีดเส้นแบ่งข้างทุกเวทีแล้ว
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า "พรรคส้มกล้าไหม? มีแม้วไม่มีเรา!
ประเทศเดียวในโลก ‘นายกฯทับซ้อน’ มหันตภัยปี 2568
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่าสำนักวิจัยต่าง ๆ กำลังวิเคราะห์เพื่อพยากรณ์ว่าประเทศไทยจะต้องเผชิญกับความท้าทายสาหัสอะไรบ้างใน
‘หยุ่น’ ฟันเปรี้ยงรอดยาก! ชั้น 14 ดิ้นอย่างไรก็ไม่หลุด
นายสุทธิชัย หยุ่น สื่อมวลชนอาวุโส โพสต์เฟซบุ๊กว่า เรื่องชั้น 14 จะดิ้นอย่างไรก็หลุดยาก จึงเห็นการเฉไฉ, ตีหน้าตาย
บิ๊กเซอร์ไพรส์ 'สุทธิชัย หยุ่น' เล่นซีรีส์ 'The White Lotus ซีซั่น 3'
เรียกว่าสร้างความเซอร์ไพรส์อย่างต่อเนื่อง สำหรับซีรีส์ The White Lotus ซีซั่น 3 ซึ่งจะสตรีมผ่าน Max ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2025 เพราะนอกจากจะมี ลิซ่า-ลลิษา มโนบาล หรือ ลิซ่า BLACKPINK ไอดอลเกาหลีสัญชาติไทย ที่กระโดดลงมาชิมลางงานแสดงเป็นครั้งแรก ในบทของ มุก สาวพนักงานโรงแรม
ถามแสกหน้า 'ทักษิณ' จะพลิกเศรษฐกิจไทยยังไง ทุกซอกมุมในสังคมยังเต็มไปด้วยทุจริตโกงกิน
นายสุทธิชัย หยุ่น นักวิเคราะห์ข่าวและผู้ดำเนินรายการข่าวชื่อดัง โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า “เขาจะพลิกประเทศไทยให้เศรษฐกิจล้ำโลกได้หรือ


