บันทึกหน้า 4

มาช้าดีกว่าไม่มา ในที่สุด “คณะกรรมการการเลือกตั้ง” หรือ กกต. ก็มีมติเอกฉันท์ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญเพื่อสั่งยุบพรรคก้าวไกล จาก ผลพวงคดีมาตรา 112 ที่ “ธีรยุทธ สุวรรณเกษร” อดีตทนายความพุทธะอิสระได้ยื่นร้องไว้ และศาลรัฐธรรมนูญมีมติเมื่อวันที่ 31 ม.ค.2567 เรียกว่าใช้เวลาเกือบหนึ่งเดือนครึ่งเลยทีเดียว ซึ่งก็ต้องจับตาดูต่อไปว่าศาลรัฐธรรมนูญจะใช้เวลาเท่าใดในการรับไม้ต่อ ...๐

งานนี้หากยึดตามไทม์ไลน์ของ “สมชัย ศรีสุทธิยากร” อดีต กกต.ที่ประเมินไว้ว่า ไม่น่าจะเกิน 2 เดือน “พรรคก้าวไกล” ก็คงเจริญรอยตาม “พรรคอนาคตใหม่” ที่จะกลายเป็นตำนานอีกบทหนึ่ง ในขณะที่ 44 สส.ที่เข้าชื่อเสนอร่างแก้ไขกฎหมายดังกล่าวนั้น “สมชัย” ก็ประเมินการทำงานของ ป.ป.ช.ว่า น่าจะใช้เวลาประมาณ 1 ปีถึงจะออกดอกออกผล ซึ่งก็ไม่รู้ว่า 44 สส.เหล่านั้นไปผุดไปเกิดกันกี่รอบแล้ว ...๐

ในขณะที่ “อิทธิพร บุญประคอง” ประธาน กกต. ก็ออกมายืนยันเป็นครั้งแรกๆ หลังเกิดเหตุใหญ่ว่าเป็นการพิจารณาด้วยความรอบคอบ โปร่งใส ไม่มีใบสั่ง แต่ไม่ได้บอกว่าเป็นเรื่อง “บุญกรรม” หรือไม่อย่างไร ที่สำคัญ “อิทธิพร” ก็ยอมรับว่าโทษสูงสุดนั้นมีการตัดสิทธิทางการเมืองกรรมการบริหารพรรคถึง 10 ปีทีเดียว ...๐

โดยหากไล่ชื่อของ กก.บห.พรรคก้าวไกลที่อาจถูกหวยนั้น ก็ต้องบอกว่ามี 2 ยุคที่คาบเกี่ยวกัน ประกอบด้วย ยุค “พิธาคิโอ” ช่วงปี 2563–2566 จำนวน 10 ราย ประกอบด้วย พิธา ลิ้มเจริญรัตน์, ชัยธวัช ตุลาธน, ณธีภัสร์ กุลเศรษฐสิทธิ์, ณกรณ์พงศ์ ศุภนิมิตตระกูล, ปดิพัทธ์ สันติภาดา (ลาออกไปแล้ว), สมชาย ฝั่งชลจิตร, อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล, อภิชาต ศิริสุนทร, เบญจา แสงจันทร์, และสุเทพ อู่อ้น ...๐ ส่วน กก.บห.ยุคปัจจุบันนั้นมี 8 ราย ประกอบด้วย “ชัยธวัช”, อภิชาติ ศิริสุนทร, ณธีภัสร์ กุลเศรษฐสิทธิ์, ณกรณ์พงศ์ ศุภนิมิตตระกูล, สมชาย ฝั่งชลจิตร, อภิสิทธิ์ พรมฤทธิ์, เบญจา แสงจันทร์ และสุเทพ อู่อ้น เรียกว่ามีทั้งคนเก่าขาประจำและคนใหม่บ้าง แต่ที่นอนมาแน่คือ ชัยธวัช ...๐

งานนี้จึงไม่แปลกใจที่ “หัวหน้าพรรคก้าวไกล” ถึงยังห้าวเป้งอยู่ แม้จะบอกว่าการสู้คดียากกว่าคดีอื่น แต่ก็ยังมิวายสำทับ “การยุบพรรคการเมืองโดยอ้างเหตุผลเรื่องการล้มล้างการปกครอง การเซาะกร่อนบ่อนทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ เรื่องนี้มีความละเอียดอ่อน อาจจะเป็นเรื่องที่เซาะกร่อนบ่อนทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ในด้านกลับก็ได้” สังคมก็เลยสงสัยกันอย่างมาก ใครกันแน่ที่เป็นคนดึงสถาบันมาตั้งแต่ต้น แล้วพอจะมาถึงบทอวสาน “ชัยธวัช” ก็ยังมิวายที่จะพยายามฟาดงวงฟาดงาไปพัวพันอีก ...๐

หาก “ชัยธวัช” และพรรคก้าวไกลยืนยันว่าใจบริสุทธิ์ไม่มีอะไรแอบแฝงจริง ทำไมไม่กล้าโผล่ไปเรียกร้องหรือ ไปเป็นนายประกันให้ปล่อยตัว “ตะวัน-แฟรงค์” เหมือนในอดีตที่ร้องแรกแหกกระเชอในยุค “ลุงตู่” กันบ้าง ทั้งที่ยุคนี้เป็นยุคประชาธิปไตยเบ่งบานมิใช่เหรอ ที่สำคัญเรื่องตัดสิทธิทางการเมือง 10 ปีจริงๆ แล้วก็แค่ไม่ได้ไปหย่อนบัตรเลือกตั้งต่างๆ เท่านั้น เพราะเห็นกันจะจะว่าสามารถตั้งกลุ่มเป็นก๊วน แล้วยัง ส่งตัวแทนลงชิงเก้าอี้การเมืองในสนามท้องถิ่นตั้งแต่ระดับเล็กจนถึงระดับใหญ่ได้ นี่ยังไม่นับรวมการไปเป็นผู้ช่วยหาเสียงหรือเป็นกรรมาธิการในคณะต่างๆ ที่ใครเคยบอกว่าตัดสิทธิทางการเมืองก็เหมือนโทษประหารชีวิตนั้น ก็ต้องบอกตอแหลได้โล่เท่านั้น ...๐

 พูดถึงเรื่องก้าวไกลแล้ว ก็ต้องเอ่ยชม การทำงานของ กมธ.ต่างๆ ที่คน ก.ก.เป็นประธาน ซึ่งมีมาตรฐานสูงกว่าพรรคอื่นๆ อยู่ระดับหนึ่ง แต่ก็อดสงสัยในเรื่อง 2 มาตรฐานไม่ได้ โดยเฉพาะ กมธ.ทหารที่มีตัวตึงอย่าง “วิโรจน์ ลักขณาอดิศร” สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธาน กมธ. ในเรื่อง การตรวจสอบ “ใบดำ-ใบแดง” ของ “จิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์” สส.ฉะเชิงเทรา พรรคก้าวไกล ซึ่งอ้างว่าเรื่องอยู่ชั้นสอบสวนของตำรวจ ต้องปล่อยให้เป็นการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ เพราะหากดำเนินการ กมธ.ทหารจะสุ่มเสี่ยงมาก แหม! หรือว่าเป็นเพราะมีชื่อคนพรรคเดียวกันเลยไม่ต้องกระทุ้งกระตุ้นว่าเรื่องไปถึงไหน ปล่อยให้เรื่องเรื่อยๆ มาเรียงๆ กันจ๊ะ แล้วที่วงการกาแฟเขาสงสัยกันว่า หากตำรวจชี้มูลว่า ผิดจริง หรือเป็นใบ สด.43 ปลอมขึ้นมานั้น กมธ.ทหารจะมีการชงเรื่องว่าด้วยจริยธรรมกับ “จิรัฏฐ์” หรือไม่อย่างไรจ๊ะตัวตึง …๐ ทิ้งท้ายด้วยโครงการโลกแทบลืมไปแล้วอย่าง “ดิจิทัลวอลเล็ต” 10,000 บาท เพราะหลังประชุมคณะกรรมการชุดใหญ่เมื่อวันที่ 15 ก.พ.2567 โดยซื้อเวลาให้ไปศึกษา 30 วันนั้น นับเนื่องมาถึงปัจจุบันก็ใกล้ครบกำหนดอยู่รอมร่อแล้ว ก็ไม่เห็นมีความคืบหน้าอย่างไรปรากฏออกมาเลย ไม่ใช่ว่าเมื่อถึง 15 มี.ค.นี้จะขอต่ออายุออกไปเรื่อยๆ นะพ่อคุณเศรษฐา ทวีสิน ...๐

 

ท.ศักดิ์

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

บันทึกหน้า 4

น้ำลด การเมืองผุด! หลังเพลาไปช่วงมหาวิปโยคใต้ เวลานี้กลับมาร้อนฉ่าอีกรอบ ช่วงเย็นพุธที่ผ่านมา คล้อยหลัง "นายกฯ อนุทิน" แถลงโชว์ถอนรากสแกมเมอร์เขมรยึดทรัพย์หมื่นล้าน

บันทึกหน้า 4

ต้องยอมรับว่าแม้ “มหาอุทกภัยในภาคใต้” เริ่มคลี่คลายเข้าสู่จุดการเยียวยา-ฟื้นฟูแล้วก็ตามที แต่ยอดผู้เสียชีวิตและความเสียหายก็ยังไม่นิ่งเสียทีเดียว แต่อย่างไรยอดผู้เสียชีวิตก็คงไม่ถึงพันศพตามที่ “พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล” อดีต รอง ผบ.ตร. วาดหวังแน่ๆ แล้ว

บันทึกหน้า 4

หลังวิกฤตน้ำท่วม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา คลี่คลาย น้ำตาก็ท่วมเมือง เมื่อชาวหาดใหญ่เห็นสภาพบ้านเรือนของตัวเองกลายเป็นซากปรักหักพัง ทรัพย์สินที่สร้างมาพังพาบไปกับกระแสน้ำแทบสิ้นเนื้อประดาตัว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ร่วมประชาสัมพันธ์กิจกรรมความร่วมมือ “รวมใจไทย ฟื้นแดนใต้” ซึ่งรัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์เป็นแกนกลางในการประสานงานร่วมกับภาคเอกชนและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

บันทึกหน้า 4

ภายใต้วิกฤตหาดใหญ่ครั้งนี้ ผู้นำรัฐบาลอย่าง อนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ และ รมว.มหาดไทย ถูกเรียกร้องให้แสดงความรับผิดชอบ แม้ต้นตอของปัญหาไม่ได้มาจากเขาคนเดียว

บันทึกหน้า 4

ขึ้นต้นเดือนสุดท้ายของปี บรรยากาศสังคมไทยยังคงซึมๆ เศร้าๆ อยู่กับเหตุและเภทภัยที่พี่น้องชาวใต้กำลังเผชิญ "น้ำลดตอผุด" ถูกขุดขึ้นมาเป็นรายวัน เหมือนมีใครบางคนกำลังช่วงชิงสถานการณ์หวัง "ตีกิน" สร้างดรามา แต่งคอนเทนต์ไล่ล่าเอาคะแนนนิยมคืนจากรัฐบาลที่นำโดยพรรคภูมิใจไทย

บันทึกหน้า 4

น้ำใจไทยไม่เคยเหือดแห้ง ถนนทุกสายจากทั่วประเทศมุ่งสู่ใต้ โดยเฉพาะ "มหาวิปโยคหาดใหญ่" ไม่ใช่แค่ทั้งเมืองจมบาดาล ทรัพย์สินเสียหาย แต่รวมถึงชีวิตที่ประเมินค่าไม่ได้ ซึ่งมีการอัปเดตตัวเลขช่วงเย็น 27 พ.ย.