ไทยโพสต์ "อิสรภาพแห่งความคิด" www.thaipost.net โอมิครอนเฉียดพัน! บุกไทยแล้ว 37 จังหวัด หมอศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ แจ้งยอดติดเชื้อโอไมครอนพุ่ง 934 ราย เดินทางมาจากต่างประเทศ 577 คน และติดเชื้อในประเทศ 357 คน ส่วนจังหวัดที่ถูกไวรัสสายพันธุ์นี้ทะลวงแล้ว ได้แก่ 1.กรุงเทพมหานคร 325 ราย 2.ภูเก็ต 104 ราย 3.กาฬสินธุ์ 121 ราย 4.ร้อยเอ็ด 50 ราย รอยืนยันอีก 84 ราย 5.มหาสารคาม 42 ราย 6.สมุทรปราการ 38 ราย 7.นนทบุรี 22 ราย 8.สุราษฎร์ธานี 20 ราย 9.ชลบุรี 18 ราย 10.ขอนแก่น 12 ราย 11.เชียงใหม่ 7 ราย 12.นครราชสีมา 5 ราย 13.สุรินทร์ 5 ราย 14.ประจวบคีรีขันธ์ 4 ราย 15.ลำพูน 4 ราย 16.นครพนม 4 ราย 17.หนองคาย 4 ราย 18.บุรีรัมย์ 4 ราย 19.อุบลราชธานี 4 ราย 20.กระบี่ 4 ราย
21.ชัยภูมิ 4 ราย 22.ปัตตานี 4 ราย 23.อุดรธานี 3 ราย 24.เลย 3 ราย 25.พระนครศรีอยุธยา 2 ราย 26.สุพรรณบุรี 2 ราย 27.เชียงราย 1 ราย 28.ลำปาง 1 ราย 29.เพชรบูรณ์ 1 ราย 30.พิจิตร 1 ราย 31.นครปฐม 1 ราย 32.เพชรบุรี 1 ราย 33.สระแก้ว 1 ราย รอยืนยันอีก 24 ราย 34.หนองบัวลำภู 1 ราย 35.มุกดาหาร 1 ราย 36. ยโสธร 1 ราย และ37.สงขลา 1 ราย
๐ เจ้ากระทรวงสาธารณสุข "อนุทิน ชาญวีรกูล" ต้องร่อนหนังสือถึงปลัด สธ. สั่งข้าราชการทุกหน่วยสกัดโอมิครอนด่วนจี๋ "ขอให้ท่านได้สั่งการไปยังทุกหน่วยงานของกระทรวงสาธารณสุข ติดตามสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สายพันธุ์โอมิครอนอย่างใกล้ชิด โดยขอให้ทุกหน่วยงานเน้นย้ำการปฏิบัติงานตามแนวทางการเฝ้าระวังการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 อย่างเคร่งครัด และสร้างการรับรู้มาตรการสําคัญของทางราชการอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งดําเนินการประชาสัมพันธ์เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนในพื้นที่เข้ารับการฉีดวัคซีนโดยอํานวยความสะดวกให้กับประชาชนด้วย" ในขณะที่หน่วยราชการต่างๆ ออกคำสั่งกลับมา Work From Home อีกครั้งเหมือนคราวระลอก 4 ที่โดนเดลตาโจมตีหนัก เช่นเดียวกับการประชุมคณะรัฐมนตรี ที่จะใช้ระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์เต็มรูปแบบตั้งแต่นัดหน้าหลังปีใหม่ ทำให้ยิ่งมั่นใจเลยว่า ศบค.ต้องปรับมาตรการใหม่เพื่อรับมือระลอก 5 อย่างเรื่องปิดประเทศชั่วคราวที่ "บิ๊กตู่" ประกาศไว้ว่าถึง 4 ม.ค.65 ส่อท่าลากยาวแน่ เพราะต้นตอโอมิครอนก็มาจากนักท่องเที่ยวระบบ Test & Go ที่นำเข้าจากต่างประเทศจนลามใกล้ทะลุพันในเวลานี้ ส่วนมาตรการเดียวที่จะช่วยทุกคนได้ก็คือห้ามการ์ดตกเด็ดขาด
๐ ดับ 39 ราย บาดเจ็บ 362 คน อุบัติเหตุ 362 ครั้ง ประเดิมวันแรก 7 วันอันตรายปีใหม่ 2565 ที่เริ่มนับตั้งแต่วันที่ 29 ธ.ค.64 ถึง 4 ม.ค.65 ปีนี้ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน (ศปถ.) รณรงค์ภายใต้คอนเซ็ปต์ “ชีวิตวิถีใหม่ ขับขี่อย่างปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ” กลไกสำคัญต้องพึ่งระดับท้องถิ่นและชุมชนที่ต้องทำหน้าที่อย่างเข้มแข็ง ในช่วงเทศกาลท่องเที่ยวปลายปีแบบนี้ ถ้าอยากหนาวก็ต้องขึ้นดอย หนึ่งในพื้นที่ฮอตฮิตก็คือเชียงราย ล่าสุดได้ยินเสียงชื่นชมจากนักท่องเที่ยวที่ไปแวะเช็กอินที่ผาหมี-ผาฮี้ ในพื้นที่ตำบลเวียงพางคำ อำเภอแม่สาย มากกว่าความประทับใจในบรรยากาศและความสวยงามของธรรมชาติแล้ว สิ่งที่มิรู้ลืมหลังกลับกรุง ต้องยกนิ้วให้กับการทำงานด้วยหัวใจของ "ปลัดปักเป้า" ศุภสันส์ ภูมิไชยา ปลัดอำเภอแม่สาย และ "พ่อหลวงโย" จากเผ่าอาข่า– ชาญยุทธ รุ่งทวีพิทยากุล ผู้ใหญ่บ้าน ม.6 บ้านผาหมี ต.เวียงพางคำ ในเขตพื้นที่โครงการพัฒนาดอยตุงฯ ที่ประสานและรุดเข้าช่วยเหลือนักท่องเที่ยวหญิง 4 คน ประสบเหตุรถยนต์ผ้าเบรกไหม้ควันโขมง บนเส้นทางหุบเหวลาดชันจากบ้านผาฮี้ลงมายังบ้านผาหมี ตอนเกือบหนึ่งทุ่มอย่างฉับไวทั้งที่เป็นเวลานอกราชการ จนสามารถกลับลงมาที่พื้นราบอย่างปลอดภัยภายในเวลาชั่วโมงกว่าๆ แถมผู้ใหญ่บ้านผาหมียังใจดีขับรถส่วนตัวมาส่งถึงที่พัก กระบวนการช่วยเหลือที่เข้มแข็งและรวดเร็วนี้ เพียงโทรกริ๊งเดียวไปที่เบอร์มือถือของคุณปลัดที่ให้ไว้ในเพจ “ศูนย์ดำรงธรรมแม่สาย” และแชร์ไปยังเพจเฟซบุ๊ก “ชุมชนคนแม่สาย” เที่ยวแม่สายแบบอุ่นใจเดือดร้อนอะไรโทรหาปลัดปักเป้าได้เลยขอบอก ส่วนเส้นทางท่องเที่ยวสุดฮิตอย่างบ้านผาหมีผ้าฮี้ที่มักเกิดอุบัติเหตุบ่อยๆ ก็ได้พ่อหลวงโยช่วยดูแลแทบทุกเคส.
ลี้คิมฮวง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
บันทึกหน้า 4
น้ำลด การเมืองผุด! หลังเพลาไปช่วงมหาวิปโยคใต้ เวลานี้กลับมาร้อนฉ่าอีกรอบ ช่วงเย็นพุธที่ผ่านมา คล้อยหลัง "นายกฯ อนุทิน" แถลงโชว์ถอนรากสแกมเมอร์เขมรยึดทรัพย์หมื่นล้าน
บันทึกหน้า 4
ต้องยอมรับว่าแม้ “มหาอุทกภัยในภาคใต้” เริ่มคลี่คลายเข้าสู่จุดการเยียวยา-ฟื้นฟูแล้วก็ตามที แต่ยอดผู้เสียชีวิตและความเสียหายก็ยังไม่นิ่งเสียทีเดียว แต่อย่างไรยอดผู้เสียชีวิตก็คงไม่ถึงพันศพตามที่ “พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล” อดีต รอง ผบ.ตร. วาดหวังแน่ๆ แล้ว
บันทึกหน้า 4
หลังวิกฤตน้ำท่วม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา คลี่คลาย น้ำตาก็ท่วมเมือง เมื่อชาวหาดใหญ่เห็นสภาพบ้านเรือนของตัวเองกลายเป็นซากปรักหักพัง ทรัพย์สินที่สร้างมาพังพาบไปกับกระแสน้ำแทบสิ้นเนื้อประดาตัว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ร่วมประชาสัมพันธ์กิจกรรมความร่วมมือ “รวมใจไทย ฟื้นแดนใต้” ซึ่งรัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์เป็นแกนกลางในการประสานงานร่วมกับภาคเอกชนและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
บันทึกหน้า 4
ภายใต้วิกฤตหาดใหญ่ครั้งนี้ ผู้นำรัฐบาลอย่าง อนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ และ รมว.มหาดไทย ถูกเรียกร้องให้แสดงความรับผิดชอบ แม้ต้นตอของปัญหาไม่ได้มาจากเขาคนเดียว
บันทึกหน้า 4
ขึ้นต้นเดือนสุดท้ายของปี บรรยากาศสังคมไทยยังคงซึมๆ เศร้าๆ อยู่กับเหตุและเภทภัยที่พี่น้องชาวใต้กำลังเผชิญ "น้ำลดตอผุด" ถูกขุดขึ้นมาเป็นรายวัน เหมือนมีใครบางคนกำลังช่วงชิงสถานการณ์หวัง "ตีกิน" สร้างดรามา แต่งคอนเทนต์ไล่ล่าเอาคะแนนนิยมคืนจากรัฐบาลที่นำโดยพรรคภูมิใจไทย
บันทึกหน้า 4
น้ำใจไทยไม่เคยเหือดแห้ง ถนนทุกสายจากทั่วประเทศมุ่งสู่ใต้ โดยเฉพาะ "มหาวิปโยคหาดใหญ่" ไม่ใช่แค่ทั้งเมืองจมบาดาล ทรัพย์สินเสียหาย แต่รวมถึงชีวิตที่ประเมินค่าไม่ได้ ซึ่งมีการอัปเดตตัวเลขช่วงเย็น 27 พ.ย.



