วอลเล็ตมรณะ

อย่าเพิ่งดีใจ...

ใครที่คาดหวังว่ารัฐบาลจะแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตทันไตรมาส ๔ ของปีนี้ ควรเผื่อใจไว้บ้าง

เพราะมีปัญหาข้อกฎหมาย ที่อาจทำให้รัฐบาลต้องตัดสินใจเลื่อนไปอีก

เป็นไตรมาสแรกปี ๒๕๖๘ หรือเกินกว่านั้น

ก็เหมือนตอนที่รัฐบาลประกาศจะออกพระราชบัญญัติกู้เงิน สุดท้ายรู้ว่าไปไม่ได้ ก็ต้องเลื่อน

หลังจากเลื่อนก็คิดว่ารัฐบาลคิดดีแล้ว วิธีใหม่ไม่น่าจะมีปัญหาข้อกฎหมาย

ที่ไหนได้ กับดักเพียบ!

จากนี้ก็ต้องดูกฤษฎีกาว่าจะให้คำแนะนำข้อกฎหมายกับรัฐบาลว่าอย่างไร เพราะการล้วงเงินจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) นั้นมีความเสี่ยงว่ารัฐบาลจะทำผิดกฎหมาย

"ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล" ดีกรีอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง อดีตรองผู้ว่าฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย โพสต์ในโซเชียลถึง "สามด่านดิจิทัลวอลเล็ต"

.......ด่านที่หนึ่ง รัฐมนตรีพรรคร่วม

เนื่องจากบัดนี้ คณะกรรมการดิจิทัลวอลเล็ตซึ่งท่านนายกฯ เศรษฐาเป็นประธาน ได้ศึกษารอบคอบจนมีข้อยุติสมบูรณ์แบบทุกประการแล้ว โดยท่านนายกฯ เศรษฐาแถลงข่าวยืนยันชัดเจนต่อประชาชนว่าสามารถทำได้แน่นอนโดยไม่ผิดกฎหมายใด ถึงขั้นประกาศกำหนดเวลาแจกเงินไว้ด้วย

และเนื่องจากการประชุมคณะรัฐมนตรีของไทยใช้การพิจารณาแบบเอกฉันท์

ดังนั้น ถ้ามีรัฐมนตรีทักท้วงคัดค้านแม้แต่เพียงรายเดียว อาจจะเห็นว่าผิดกฎหมาย หรืออาจจะต้องการให้มีการศึกษาให้รอบคอบมากขึ้น ในการประชุมสัปดาห์หน้า ครม.ก็จะไม่สามารถมีมติเห็นชอบดิจิทัลวอลเล็ตได้

ดังนั้น ในเมื่อท่านนายกฯ เศรษฐายืนยันว่าทุกอย่างพร้อมสมบูรณ์แบบแล้ว กรณีที่มีรัฐมนตรีรายใดไม่ร่วมลงมติเห็นชอบ ทั้งที่ท่านนายกฯ ซึ่งเป็นผู้นำของ ครม. เป็นผู้เสนอ ในทางการเมือง โครงการนี้ก็ต้องถือว่าจบบริบูรณ์โดยปริยาย

อนึ่ง ถ้าจะมีรัฐมนตรีรายใดเลี่ยงไม่เข้าประชุม รัฐมนตรีทั้งหมดก็จะต้องร่วมกันรับผิดชอบอยู่ดี เพราะจะมีการส่งรายงานการประชุมไปให้แก่ทุกกระทรวง เว้นแต่รัฐมนตรีรายที่ไม่เห็นด้วยกับมติ จะทำหนังสือคัดค้านโดยพลัน

ด่านที่สอง ธ.ก.ส.

มีข่าวในโพสต์ทูเดย์ว่า สำนักงานกฤษฎีกาเคยมีความเห็นว่า รัฐบาลไม่อาจกู้เงินจากธนาคารออมสินเพื่อโครงการดิจิทัลวอลเล็ต เพราะอยู่นอกขอบวัตถุประสงค์ในการจัดตั้งธนาคารออมสิน

กรณี พ.ร.บ.ธ.ก.ส. มีการบัญญัติขอบวัตถุประสงค์ว่า

"มาตรา ๙ ธนาคารมีวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้

 (๑) ให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่เกษตรกร กลุ่มเกษตรกรหรือสหกรณ์การเกษตรสําหรับการ

 (ก) ประกอบอาชีพเกษตรกรรมหรืออาชีพที่เกี่ยวเนื่องกับเกษตรกรรม

 (ข) ประกอบอาชีพอย่างอื่นเพื่อเพิ่มรายได้

 (ค) พัฒนาความรู้ในด้านเกษตรกรรมหรืออาชีพอย่างอื่นเพื่อเพิ่มรายได้ หรือพัฒนาคุณภาพชีวิตของเกษตรกรหรือครอบครัวของเกษตรกร

 (ง) ดําเนินกิจการตามโครงการที่เป็นการส่งเสริมหรือสนับสนุนการประกอบเกษตรกรรม ซึ่งเป็นการดําเนินการร่วมกับผู้ประกอบการ เพื่อเพิ่มรายได้หรือพัฒนาคุณภาพชีวิตของเกษตรกรหรือครอบครัวของเกษตรกร

 (๒) ประกอบธุรกิจอื่นอันเป็นการส่งเสริมหรือสนับสนุนการประกอบเกษตรกรรม

 (๓) ดําเนินงานเป็นสถาบันการเงินเพื่อการพัฒนาชนบท โดยให้ความช่วยเหลือทางการเงินหรือการบริหารจัดการแก่บุคคล กลุ่มบุคคล ผู้ประกอบการ กองทุนหมู่บ้านหรือชุมชน รวมทั้งองค์กรที่จัดตั้งขึ้นในรูปแบบใดที่มีวัตถุประสงค์ในการสนับสนุนการประกอบอาชีพของเกษตรกรหรือชุมชน ทั้งนี้ เพื่อส่งเสริมให้มีการพัฒนาผลผลิตหรือผลิตภัณฑ์ของเกษตรกรหรือ ชุมชนให้มีประสิทธิภาพทั้งในด้านการลงทุน การผลิต การแปรรูป และการตลาด หรือเพื่อส่งเสริมให้ชุมชนมีความเข้มแข็งในด้านเศรษฐกิจหรือเพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิต

 (๔) ให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่สหกรณ์เพื่อใช้ดําเนินงานภายใต้ขอบเขตวัตถุประสงค์ในการจัดตั้งสหกรณ์

การให้ความช่วยเหลือทางการเงินตามความในวรรคหนึ่ง (๑) (ข) (ค) และ (ง) รวมทั้งการดําเนินการตามความในวรรคหนึ่ง (๒) (๓) และ (๔) ให้กระทําได้เท่าที่กําหนดในกฎกระทรวง"

เนื่องจาก ธ.ก.ส. เป็น "ธนาคาร" การให้ความช่วยเหลือเกษตรกรตามมาตรา ๙ จึงต้องกระทำโดยการให้กู้ยืมเงิน และ ธ.ก.ส.ย่อมไม่มีอำนาจหน้าที่ที่จะทำตัวเป็นเครื่องมือแก่รัฐบาลสำหรับแจกเงินดิจิทัลซึ่งไม่ใช่กิจกรรมด้านการธนาคาร

ส่วนกรณีถ้าหากรัฐบาลจะขอให้ ธ.ก.ส.ให้เงินกู้แก่เกษตรกรไปก่อน โดยรัฐบาลจะแจกเงินดิจิทัลไปให้ล้างหนี้ให้แก่เกษตรกรภายหลังรายละ ๑๐,๐๐๐ บาทนั้น ก็จะฝ่าฝืนขอบวัตถุประสงค์ข้างต้น เพราะ ธ.ก.ส.จะไม่ได้พิจารณาการให้กู้ยืมเงินบนพื้นฐานของการทำเกษตรกรรม แต่จะเป็นการพิจารณาการให้กู้ยืมเงินบนพื้นฐานของเงินที่จะได้รับจากดิจิทัลวอลเล็ตเป็นสำคัญ อันอาจจะเข้าข่ายเป็นการรับใช้รัฐบาลกระทำนิติกรรมอำพราง

ด่านที่สาม ซูเปอร์แอป

กลไกควบคุมดิจิทัลวอลเล็ตมีเพียงสองลักษณะ

ทางที่หนึ่ง คือใช้บล็อกเชนซึ่งทำให้เป็นเงินดิจิทัล หรือ

ทางที่สอง คือไม่ใช้บล็อกเชนซึ่งเป็นเงินโอนในระบบอิเล็กทรอนิกส์ปัจจุบันเหมือนอย่างแอป "เป๋าตัง" กรณีนี้เป็นเงินธรรมดา ไม่เป็นเงินดิจิทัล

ผมไม่ทราบว่าซูเปอร์แอป เข้าลักษณะเป็นทางที่หนึ่งซึ่งใช้บล็อกเชน หรือแท้จริงเป็นทางที่สองที่ไม่ใช้บล็อกเชน คือเป็นเพียงการสร้างแอปใหม่ เพื่อทำให้ประชาชนโอนเงินในระบบปัจจุบันของสถาบันการเงินได้สะดวกขึ้น แต่เป็นเงินธรรมดา ไม่เป็นเงินดิจิทัล

กรณีไม่ใช้บล็อกเชน จะไม่ตรงปก

เนื่องจากพรรคเพื่อไทยหาเสียงไว้จะจ่ายเป็นเงินดิจิทัล คือเป็นทางที่หนึ่งซึ่งใช้บล็อกเชน เพื่อให้มีสรรพคุณในการยกระดับประเทศไทยเข้าสู่เศรษฐกิจดิจิทัล

ดังนั้น ถ้าซูเปอร์แอปไม่ได้ใช้บล็อกเชน ซึ่งไม่เข้าข่ายเป็นเงินดิจิทัล ก็จะไม่ตรงปก อาจผิดกฎหมายเลือกตั้ง

กรณีใช้บล็อกเชน จะเป็นเงินตรา

กรณีถ้าซูเปอร์แอปใช้บล็อกเชน ก็จะมีเนื้อหาทางเศรษฐกิจเป็นคริปโตเคอร์เรนซี ซึ่งจะเข้าข่ายเป็นเงินตราอย่างหนึ่งแน่นอน ซึ่งถ้าไม่ขออนุญาตผ่านธนาคารแห่งประเทศไทยก็จะผิดกฎหมาย.......

ครับ...ทั้ง ๓ ด่านที่รัฐบาลต้องผ่านให้ได้

รัฐมนตรีจากพรรคภูมิใจไทย และรวมไทยสร้างชาติ ลาประชุมก็หนีไม่พ้น ฉะนั้นเอาให้ชัดว่าเห็นด้วยหรือคัดค้าน

เพราะการใช้เงิน ธ.ก.ส.สนองความต้องการของฝ่ายการเมือง จะกลายเป็นการอำพรางเพื่อนโยบายประชานิยม ซ้ำรอยโครงการรับจำนำข้าว ที่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ให้ ธ.ก.ส.สำรองเงินรับจำนำข้าวจากชาวนาไปก่อน จากนั้นรัฐบาลใช้คืนทีหลัง

แต่ที่หนักกว่าคือ การให้ ธ.ก.ส.สำรองเงินไปก่อนในนโยบายแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต มันขัดวัตถุประสงค์ของ ธ.ก.ส.อย่างชัดเจน

ฉะนั้นเลือกเอาครับ จะตายยกเข่ง หรือปล่อยตายเดี่ยว.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ยิ่งปรับยิ่งชินวัตร

ยังเป็นที่คาใจกันอยู่ การลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ หลังมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ของ "ปานปรีย์ พหิทธานุกร" เพียงไม่กี่ชั่วโมงนั้น เกิดจากสาเหตุอะไรกันแน่

'ครม.ทักษิณาฐา'

ส่องกันอยู่ร่วมเดือน รัฐมนตรี ว่าที่รัฐมนตรี ลุ้นกันชนิดกินข้าวไม่ได้นอนไม่หลับกันหลายวัน เพราะคนที่อยู่ไม่รู้ว่าจะหลุดหรือไม่ ส่วนคนมาใหม่ไม่รู้จะได้เสียบหรือเปล่า

'นักโทษ'ตรวจการบ้าน

ยกประเทศให้ไปเลยดีมั้ยครับ นานๆ ประชดที เพราะทนเห็นบางคนยังใช้สันดานเดิม เป็นสันดานที่ทำให้ต้องหนีไปอยู่ต่างประเทศนานถึง ๑๗ ปีไม่ได้

เลือกคุกจะได้คุก

ว่อนสิครับ! หนังสือจาก "เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ" ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี

ตายหมู่ไปกับ 'ดิจิทัลวอลเล็ต'

ในที่สุดก็ชัดเจน ถือเป็นความรับผิดร่วมกันของคณะรัฐมนตรี โดยมิอาจมีใครปฏิเสธในภายหลังได้เลยว่า ไม่มีส่วนรับรู้กับนโยบายแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต ให้ประชาชนหัวละ ๑ หมื่นบาท ด้วยงบประมาณกว่า ๕ แสนล้านบาท