
ไม่นานเกินรอ ได้ใช้แน่รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ทุกสายทุกสีก็ 20 บาท ซึ่งเมื่อปลายเดือนเมษายน 2567 ที่ผ่านมานั้น รมว.คมนาคม สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ประกาศลั่นว่า หลังจากที่คณะรัฐมนตรีเห็นชอบให้ปรับลดค่าโดยสารรถไฟฟ้าสูงสุดไม่เกิน 20 บาท โดยเริ่มนำร่องในการเก็บอัตราค่าโดยสารของรถไฟฟ้าสายสีม่วงและสายสีแดง มีผลตั้งแต่วันที่ 16 ตุลาคม 2566 นั้น
ล่าสุดมั่นใจว่าจะใช้ระยะเวลาประมาณ 2 ปี หรือช่วงกันยายน 2568 รถไฟฟ้าทุกสีและทุกสายจะเข้าร่วมนโยบายทั้งหมด ขณะที่รถไฟฟ้าสีอื่นๆ ที่อยู่ในขั้นตอนการก่อสร้างและเตรียมก่อสร้าง ซึ่งเมื่อโครงการแล้วเสร็จ หากตนยังคงดำรงอยู่ในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ขอยืนยันจะผลักดันให้เข้าร่วมนโยบายทั้งหมดเช่นกัน
พร้อมทั้งยังระบุอย่างชัดเจนว่า นโยบายดังกล่าวนอกจากเป็นการลดภาระค่าครองชีพของประชาชนแล้ว อีกทั้งยังสามารถลดปัญหาฝุ่น PM 2.5 ได้อีกด้วย เนื่องจากประชาชนที่ใช้รถยนต์ส่วนตัวได้มีการปรับเปลี่ยนการเดินทางมาใช้รถไฟฟ้าแทน รวมถึงยังแก้ปัญหาการจราจรติดขัดในพื้นที่ได้อีกด้วย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณาแนวทางการจัดเส้นทางเพื่อเชื่อมต่อการเดินทาง หรือ Feeder เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย คาดภายในระยะ 2-3 เดือนนี้จะเห็นความชัดเจน
สุริยะ ยังย้ำว่า ในช่วงปี 2568-2569 จะเพิ่มจำนวนเพิ่มเติม เพื่อรองรับการเชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน สายสีเขียว สายสีชมพู และสายสีส้ม และอีก 66 เส้นทางจะดำเนินการในระยะถัดไปตั้งแต่ปี 2570 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ ปัจจัยสำคัญของนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายนั้น คือต้องเดินหน้าร่างพระราชบัญญัติการบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม พ.ศ. ....เบื้องต้นคาดว่าจะสามารถเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ภายในกลางปีนี้ ซึ่ง นายสุริยะ ยอมรับว่าการผลักดันรถไฟฟ้า 20 บาทให้ครอบคลุมทุกเส้นทาง จำเป็นต้องมี พ.ร.บ.ตั๋วร่วม และผลักดันการจัดตั้งกองทุนตั๋วร่วมให้แล้วเสร็จ เพื่อนำเงินในกองทุนดังกล่าวมาชดเชยรายได้ให้แก่เอกชนที่เกี่ยวข้องจากมาตรการดังกล่าว เพื่อไม่ให้ผิดสัญญาสัมปทาน อย่างไรก็ตาม เม็ดเงินจากกองทุนที่จะนำมาชดเชยนั้น จะมาจากการขอรับการสนับสนุนจากกองทุนอนุรักษ์พลังงาน การสนับสนุนงบประมาณจากรัฐบาล
ดังนั้นในปี 2567 จึงยังไม่มีรถไฟฟ้าสายใดที่สามารถเข้าร่วมนโยบายค่าโดยสารรถไฟฟ้าสูงสุด 20 บาทได้เพิ่มเติม เนื่องจากมีความจำเป็นต้องรอให้มีการพิจารณา พ.ร.บ.ตั๋วร่วม และจัดตั้งกองทุนตั๋วร่วมให้แล้วเสร็จก่อน โดยกรอบการดำเนินงานที่ประเมินไว้ในขณะนี้ คาดว่า พ.ร.บ.ตั๋วร่วมจะสามารถเสนอคณะกรรมการนโยบายระบบตั๋วร่วม (คนต.) และคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบได้ประมาณเดือน มี.ค.-พ.ค.2567 เนื่องจากสถานะปัจจุบันยังอยู่ในขั้นตอนศึกษารายละเอียด รวมถึงข้อกฎหมายและกฎระเบียบต่างๆ
หลังจากนั้นจะเข้าสู่การพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา พิจารณาประมาณเดือน มิ.ย.-พ.ย.2567 และเข้าสู่กระบวนการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรในเดือน ธ.ค.2567-ส.ค.2568 เบื้องต้นจึงประเมินว่า พ.ร.บ.ตั๋วร่วม พ.ศ. .... จะสามารถออกประกาศในราชกิจจานุเบกษาได้ประมาณเดือน ก.ย.-พ.ย.2568
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่านโยบายค่าโดยสารรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย เป็นหนึ่งในนโยบายหลักของรัฐบาลที่ปัจจุบันได้มีการนำร่องตามนโยบายในรถไฟฟ้า 2 สายแรก ได้แก่ สายสีม่วง (สถานีคลองบางไผ่-สถานีเตาปูน) และสายสีแดง (สถานีกลางกรุงเทพอภิวัฒน์-สถานีรังสิต และสถานีตลิ่งชัน) ซึ่งนโยบายนี้จะช่วยสร้างโอกาสให้แก่ประชาชนโดยเฉพาะมนุษย์เงินเดือนได้
โดย โอกาสที่ 1 ลดค่าใช้จ่าย-เพิ่มกำลังซื้อ เมื่อค่าโดยสารลดเหลือ 20 บาท/เที่ยว จะลดภาระค่าเดินทางสูงสุดเหลือเพียง 9,640 บาท หรือคิดเป็นประมาณ 48% ของภาระค่าใช้จ่ายการเดินทางตลอดปีตามนโยบายค่าโดยสารเดิม โอกาสที่ 2 การขยายตัวของชุมชน-ย่านธุรกิจใหม่ โอกาสที่ 3 เกิดทำเลการค้าขายใหม่ โอกาสที่ 4 คุณภาพชีวิตและสุขภาวะที่ดีขึ้น โอกาสที่ 5 ภาษีที่เป็นธรรม
คงต้องมาลุ้นกันว่า นโยบาย 20 บาทตลาดสายนั้นจะเป็นแค่ขายฝัน เหมือนนโยบายหาเสียงหลายๆ ข้อที่พรรคการเมืองได้นำออกมาจูงใจประชาชนนั้น จะเป็นจริงหรือเป็นได้แค่นโยบายขายฝันเหมือนดิจิทัลวอลเล็ต ที่เอาแต่ขายฝันไปวันๆ.
บุญช่วย ค้ายาดี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สูงวัยใช้เน็ตโตพุ่งกว่า3เท่า
เทคโนโลยีได้เข้ามามีบทบาทอย่างมากในชีวิตของผู้คน เรียกได้ว่าทุกเพศทุกวัยก็ไลฟ์สไตล์ที่มีโลกดิลิทัลเข้ามาเกี่ยวข้อง ก่อนหน้าหลายคนอาจจะมองว่าสูงวัยอาจจะไม่ทันโลก ตามเทรนด์ไม่ทัน
เร่งสปีดSMEไทยด้วยนวัตกรรม
เอสเอ็มอีไทยถือเป็นกำลังสำคัญของระบบเศรษฐกิจประเทศ แต่ในขณะเดียวกันกลับต้องเผชิญความท้าทายรอบด้าน ทั้งต้นทุนที่สูงขึ้น การแข่งขันที่รุนแรง และข้อจำกัดในการเข้าถึงเทคโนโลยีและองค์ความรู้ ซึ่ง กริชผกา บุญเฟื่อง ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ
ผนึกพลังพัฒนากำลังคน
ท่ามกลางแรงกดดันจากเศรษฐกิจโลก เทคโนโลยีที่เปลี่ยนเร็ว และการแข่งขันด้านต้นทุนที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ คำถามสำคัญของอุตสาหกรรมไทยไม่ใช่เพียง “จะผลิตอย่างไรให้ได้มากขึ้น” แต่คือ “จะสร้างคนและองค์ความรู้แบบใดให้ยืนระยะในเวทีสากลได้จริง”
ปีใหม่เป้าลดอุบัติเหตุ 5%
ช่วงเทศกาลปีใหม่ถือเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขที่ประชาชนจำนวนมากออกเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยว ส่งผลให้ปริมาณการใช้รถใช้ถนนเพิ่มสูงขึ้นเป็นเท่าตัว และมักตามมาด้วยความเสี่ยงด้านอุบัติเหตุทางถนน
เมื่อสุขภาพคือความลักชัวรีแบบใหม่
ในยุคที่ผู้คนต่างก็ให้ความสำคัญกับเรื่องสุขภาพ ทำให้เทรนด์นี้ยังคงมาแรงต่อเนื่อง ซึ่งก็มีข้อมูลที่น่าสนใจจากวิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล (CMMU) กับข้อมูลสุดอินไซต์ “ภูมิทัศน์การดูแลสุขภาพของคนไทย” รับเทรนด์เศรษฐกิจอายุยืน
องค์กรต้องกล้าเปลี่ยนผ่าน
ท่ามกลางความผันผวนของเศรษฐกิจโลกและแรงกดดันด้านความยั่งยืนที่เข้มข้นขึ้น ทำให้ภาคธุรกิจต้องปรับตัวรองรับกับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ซึ่ง สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA)

