หุงข้าว 10 ปี เลี้ยงครม.

ขอสยบดราม่า สำหรับ “เสี่ยอ้วน” ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ ก่อนหน้าในช่วงเดือนมีนาคม เคยไปตรวจโกดังข้าวที่เก็บข้าวไว้ 10 ปีตามโครงการรับจำนำข้าว แล้วบอกว่า กินได้   แต่กลับได้รับเสียงสะท้อนว่าเป็นการเล่นละครจัดฉาก   

ล่าสุดเมื่อวันที่ 6  พ.ค.  ได้ ขนสื่อมวลชน  เจ้าของโรงสี ผู้ส่งออก ผู้ว่าราชการจังหวัด ส.ส. เป็นสักขีพยาน ลงตรวจโรงสีอีกครั้งที่จังหวัดสุรินทร์  เพื่อพิสูจน์ให้สิ้นสงสัยว่าข้าว 10 ปียังสามารถหุงได้ มีกลิ่น มีคุณภาพดีอยู่หรือไม่ 

ภูมิธรรม ได้ให้ผู้สื่อข่าว และ ผู้เข้าร่วมทุกคนได้ชิมข้าวพร้อมกับผัดกะเพรา และ ไข่เจียว โดยมีสื่อมวลชนจำนวนมากร่วมชิมด้วย 

โดย “เสี่ยอ้วน” บอกว่า ข้าวกลิ่นหอมอาจจะอ่อนไปนิด แต่ความนุ่มนวลใช้ได้ นอกจากนี้ผู้ส่งออกข้าวที่ร่วมชิมมีความเห็นตรงกันว่าคุณภาพและรสชาด ยังใช้ได้  ไม่มีแมลงเจาะ หากนำไปขัดเพิ่มเชื่อว่าตลาดส่งออกยอมรับได้

อย่างไรก็ตามย้อนกลับก่อนที่จะมีการชิมข้าว ชาวเน็ตตาดีเห็น และวิพากษ์วิจารณ์โดยพบว่าระหว่างที่เจ้าหน้าที่นำข้าวสารไปเตรียมการหุง  ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้บอกว่า ต้องซาว 13-15 น้ำ โดยประมาณ  ซึ่งพบว่า น้ำซาวข้าวมีมอดลอยอยู่เป็นจำนวนมาก 

จึงไม่มั่นใจในเรื่องของความสะอาดและสิ่งตกค้างในข้าว ซึ่งโดยปกติแล้ว การหุงข้าวจะซาวประมาณ 1-3 น้ำ  เพื่อล้างสิ่งสกปรก ถ้าซาวมากกว่า 3 ครั้งอาจจะทำให้สูญเสียสารอาหารและกลิ่นหอมในข้าวได้ 

ปะหน้า “เสี่ยอ้วน”อีกครั้งในวันที่7 พ.ค. ก่อนการประชุมครม จึงสอบถามแบบหยอกล้อว่าหลังทดลองรับประทานท้องเสียหรือไม่   โดยนายภูมิธรรม ตอบทันทีว่า  ไม่เสีย  โอ้โห สบายมาก ความหอมอาจจะลดลงไม่เหมือนข้าวใหม่ แต่ความนุ่นนวลไม่มีปัญหาอะไร

 “ดูแล้วเม็ดข้าวก็สวยงาม สีของข้าวมีปัญหาจริง ฝุ่นมีปัญหาจริงก็ต้องไปซาวข้าว ซึ่งเอาจริงก็ไม่เกิน 15 ครั้ง  เป็นเรื่องปกติของการหุงข้าวมากิน อย่าไปทำให้มันเกิดความน่ากลัว ใครสงสัยผมก็บอกแล้วให้ไปดูด้วยกัน” นายภูมิธรรม กล่าวและคอนเฟิร์มกินได้ท้องไม่เสีย  

ถ้าให้เกิดความมั่นใจ ควรหุงข้าว10ปี เลี้ยงครม.ทุกวันอังคาร รับรองชาวบ้านมั่นใจแน่นอน

 

ช่างสงสัย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ลืมชื่อโรงแรม

สัปดาห์นี้ทำเนียบรัฐบาลเงียบเหงา เพราะ “นายกฯนิด” เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ไปปฏิบัติภารกิจที่ฝรั่งเศส อิตาลี และญี่ปุ่น ยาวๆรวม 10 วัน พร้อมด้วยทีมโฆษกรัฐบาล “สาวเนเน่” รัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ได้ร่วมทริปไปด้วย

'เจ๊แจ๋น'ยังอยู่

แรงกระเพื่อมหลังปรับ ครม. หลายคนออกอาการไม่พอใจ หรือหายหน้าเพื่อรักษาแผลใจเพราะเจ็บปวดจากการถูกปรับออก ทั้งที่ทำงานเพียง 7 เดือน ยังไม่ได้ใช้งบประมาณปี 67

ขึ้นแล้วไม่ลงนะ

เหมาะจะอยู่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จริงๆ สำหรับ ลูกท็อป-วราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา

ปัญหาทะเลไทย

ตลอดทั้งปี67 รู้สึกไหมว่าข่าวความเคลื่อนไหวสิ่งแวดล้อมได้ยินไม่ขาดหู โดยเฉพาะสถานการณ์โลกร้อนส่งผลกระทบถึงอุณหภูมิน้ำและสิ่งมีชีวิตในทะเล ในส่วนของประเทศไทย เรามี “อาจารย์ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์” ผู้เชี่ยวชาญด้านนิเวศทางทะเล คอยอัพเดททะเลไทยของเราเสมอ

“อะไรอยู่ในกระเป๋าแม่บ้าง”

ช่วงนี้ข่าวการเมืองก็จะเบาบางลงกว่าตอนที่ตั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพราะอะไรๆเริ่มจะเข้าที่เข้าทาง แต่จะมีอยู่คนหนึ่งที่หายจากหน้าข่าวการเมือง คนนั้นคือ “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่ถึงแม้ตอนนี้จะไม่ได้ปรากฏตัวตามข่าวการเมือง

บันทึกหน้า 4

การดึงพืชกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด แม้ฉากหน้าบรรดาแกนนำของสองพรรค “เศรษฐา ทวีสิน” นายกฯ จากพรรคเพื่อไทย และ “อนุทิน ชาญวีรกูล” รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย