สีกากีวุ่นไม่จบ!

ยักแย่ยักยันกันจนน่าปวดหัว คดีเว็บพนันออนไลน์ ที่มี "ตำรวจใหญ่" เข้าไปเกี่ยวข้อง ต่างฝ่ายต่างชิงไหวชิงพริบ จนชาวบ้านที่ติดตาม ที่อยากรู้ข้อเท็จจริง ต่างตั้งคำถาม

อะไรกันนักกันหนา!!!

ถ้าเป็นคดีตาสีตาสาป่านนี้ติดคุกหัวโตกันไปแล้ว พอเป็นคดีของคนใหญ่คนโต มียศ มีตำแหน่ง มีบารมี ดูจะยุ่ง ดูจะวุ่นกันไปหมด

ขนาดสำนวนคดีเว็บพนัน ที่มีการส่งให้ ป.ป.ช. ไปแล้ว ตำรวจก็ยังร้องขอคืนสำนวนคดี อยากเอากลับมาทำเอง อ้างศาลอาญาอนุมัติหมายจับนายตำรวจใหญ่ในคดีนี้ จึงไม่น่าจะเป็นความผิดที่อยู่ในความรับผิดชอบของ ป.ป.ช.

ฝ่าย ป.ป.ช.ก็ทำท่าจะไม่ให้คืน อ้างพบความเชื่อมโยงของบัญชีม้า อักษรย่อ พ. ที่เป็นตัวกลางในการจ่ายเงินต่อไปยังบัญชีของตำรวจหลายราย รวมถึงตำรวจชั้นผู้ใหญ่ระดับนายพลคนหนึ่งด้วย

พอมุมมองทางคดีต่างกันก็มีการ นัดคุย นัดเคลียร์กัน ระหว่าง ป.ป.ช.กับตำรวจ เพื่อจะได้รู้ว่าสำนวนควรจะอยู่ในความรับผิดชอบของใครกันแน่

สุดท้าย "โต๊ะเจรจาล้ม" ตำรวจไม่มาตามนัด ให้พนักงานสอบสวนนำเอกสารมายืนให้ ป.ป.ช.เท่านั้น

ก็เลยยังไม่ได้ข้อสรุปคดีเว็บพนันออนไลน์ที่มี "นายพลตำรวจ" เข้าไปเกี่ยวข้อง เข้าไปเป็นผู้ถูกกล่าวหา คดีอยู่ในความรับผิดชอบของใครกันแน่

ระหว่าง "ป.ป.ช." กับ "ตำรวจ"

กลายเป็นมิติใหม่ ที่ไม่ค่อยพบเห็นบ่อยนัก เจ้าหน้าที่รัฐกระสันอยากทำคดี เคยแต่เห็นโยนกันไปโยนกันมา เหมือนที่มีเรื่องขำขัน เล่ากันว่าโรงพักติดกันมีศพลอยน้ำมา โรงพักนี้ยังเขี่ยให้ลอยไปอยู่พื้นที่ข้างให้โรงพักโน้นทำ ตัวเองจะได้ไม่เหนื่อย ไม่ต้องทำสำนวนคดี

เฮ้อ..แปลกแต่จริง!!!

เรื่องนี้ก็อืดเป็นเรือเกลือ การให้ บิ๊กโจ๊ก-พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. ออกจากราชการไว้ก่อน ตามที่ บิ๊กต่าย-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร รักษาการแทน ผบ.ตร. เซ็นคำสั่ง

ก็ยังวุ่น ก็ยังไม่ลงตัว  "กฤษฎีกา" ตอบข้อซักถามการให้ บิ๊กโจ๊ก ออกราชการไว้ก่อน นายกฯ ต้องนำความกราบบังคมทูลให้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯให้พ้นจากตำแหน่ง

แต่นายกฯจะนำความกราบบังคมทูลได้ก็ต้องให้ คณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ(ก.พ.ค.ตร.) ที่ บิ๊กโจ๊ก ได้อุทธรณ์คำสั่งทางปกครองไว้ว่าคำสั่งให้ออกราชการถูกต้องหรือไม่ ได้วินิจฉัยเสร็จเรียบร้อยซะก่อน

ทาง ก.พ.ค.ตร. ก็อยู่ระหว่างรอการพิจารณาสำนวนคำร้อง "บิ๊กโจ๊ก" ที่รอ รรท.ผบ.ตร. ผู้ออกคำสั่งให้พ้นราชการ แก้คำอุทธรณ์ในกรอบเวลา 30 วัน ถ้ายังไม่ส่งมาให้ ก.พ.ค.ตร. ก็สามารถขยายได้ไม่เกิน 120 วัน

ส่วน ก.พ.ค.ตร. ก็มีกรอบการพิจารณาสำนวนคำร้องไม่เกิน 240 วัน

เรียกว่ายืดกันไป ขยับกันมา ก็ปาเข้าไปเกือบ 1 ปี ถึงจะได้รู้หมู่ รู้จ่า

วุ่นไม่จบจริงๆ.

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

หรือทิ้งทวน?

ดูเหมือนสำนวนไทยที่ว่า "ขึ้นต้นเป็นลำไม้ไผ่ พอเหลาลงไปกลายเป็นบ้องกัญชา" กำลังถูกนำมาค่อนแคะ เหน็บแนม การแต่งตั้งโยกย้าย "ตำรวจ" ทั้งในระดับ "นายพล" และระดับ "นายพัน" ที่ผ่านมา

ตำรวจไม่เลวไปหมด

ใครจะว่า ใครจะกล่าวหา "ตำรวจ" เป็นองค์กรอาชญากรรม คนพูด คนกล่าวหาก็รู้อยู่แก่ใจ เพราะตัวเองก็เคยอาศัยชายคา อาศัยร่มเงาองค์กร "ตำรวจ" มาเกือบครึ่งค่อนชีวิต

'200 สีกากี' หนาว!

มาพร้อมกับอากาศเย็นๆ ปลายเดือนพฤศจิกายน อาการ "หนาวสะท้าน" ในแวดวง "สีกากี" ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อการแต่งตั้ง "นายพัน" วาระประจำปี 2568

ขยายเก้าอี้ 'นายพัน'

หากไม่มีเรื่อง "สาวไส้ให้กากิน" อย่างกรณี "ตำรวจ" แฉ "ตำรวจ" บางกลุ่ม บางพวก บางคน เข้าไปเกี่ยวข้องกับการรับผลประโยชน์ เกี่ยวข้องกับการรับส่วย

องค์กรอาชญากรรมหรือ?

เห็นด้วยกับท่าที ผบ.ตร.-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ที่ไม่ออกมาตอบโต้ ออกมาโต้เถียง กับข้อกล่าวหาของ "อดีตตำรวจใหญ่" ที่บอกผ่านสื่อว่า "สำนักงานตำรวจแห่งชาติ" เป็นองค์กรอาชญากรรมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย!!!

ตั้ง 'นายพล-นายพัน'

น่าจะต้องบันทึกเป็นประวัติศาสตร์ "กรมปทุมวัน" อีกครั้ง การแต่งตั้ง "สีกากี" จะมีทั้ง "นายพล" และ "นายพัน" เกิดขึ้นภายในเดือนเดียว