
เทศกาลไหว้บ๊ะจ่างผ่านพ้นไปแล้วอีก 1 ปี เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมานี้เอง และเชื่อว่า ในห้องไลน์ หรือตามโซเชียลจะมีเรื่องราวเล่าสู่กันฟังถึงประวัติเกี่ยวกับอาหารเมนูนี้ ที่แหล่งกำเนิดเกิดที่ประเทศจีน ด้วยความเชื่อและตำนานเล่าขานต่างๆ มามาย
ปีนี้นอกจากราคาบ๊ะจ่างจะถีบตัวสูงขึ้นตามอัตราค่าครองชีพ และสินค้าอาหารการกินของสดทั้งหลายในตลาดที่ปรับราคา "ล่วงหน้า" ต้อนรับการปรับค่าจ้างขั้นต่ำแล้ว ปรากฏว่ามีเรื่องที่น่าสนใจที่มนุษย์ป้าเองเพิ่งเคยได้รู้เป็นครั้งแรก นั่นคือ เรื่องของเพลง..เซียวบ๊ะจ่าง ..ซึ่งโด่งดังเพราะนักร้องคนดัง "เติ้ง ลี่จวิน"
ลูกไทยเชื้อจีนคุ้นเคยกับเพลงนี้มานาน และเราเองก็มักจะได้ยินได้ฟังแทบทุกปีเมื่อถึงเทศกาลไหว้บ๊ะจ่าง
แต่เพิ่งมีคนนำมาโพสต์ว่า เพลงนี้ ทำนองสนุกสนาน...แต่เนื้อเพลงรันทดแสนเศร้า ...รู้บ้างไหม?!? เรียกว่าเศร้าเสียจนกลายเป็น “เพลงต้องห้าม” ของรัฐบาลทหารไต้หวันในช่วงสงคราม เพราะรำพันถึงชีวิตที่ยากเย็นแสนเข็ญในยุคหลังสงคราม
ผู้เขียนเนื้อเพลงคือ "จางชิวตงซง" เล่าถึงแรงบันดาลใจในการเขียนเพลงนี้ว่า กลางดึกคืนหนึ่ง เขาและภรรยาได้ยินเสียงร้องเร่ขายบ๊ะจ่างดังขึ้นในซอยละแวกบ้าน ....แต่ใครจะหวนคิดบ้างว่า คนที่หิวโหยจริงๆ คือแม่ค้าที่ตระเวนขายบ๊ะจ่างยามราตรี..ไม่ใช่คนซื้อ
...ไต้หวันในช่วงนั้นเพิ่งผ่านพ้นสงครามจากจีนแผ่นดินใหญ่ เศรษฐกิจย่ำแย่ นักศึกษาคนหนึ่งที่เรียนจบแล้ว แต่หางานทำไม่ได้ ต้องเร่ขายบ๊ะจ่างหาเลี้ยงชีพ เนื้อเพลงส่วนหนึ่งเล่าว่า
"ชะตาชีวิตอาภัพ พ่อแม่ยากลำบาก ส่งเสียเรียนหนังสือนานหลายปี เรียนจบแล้วหางานไม่ได้ ต้องขายบ๊ะจ่างเลี้ยงชีวิตลำบาก เงินทุนไม่มี ไม่รู้ลู่ทาง ต้องจำใจขายบ๊ะจ่าง ข้าวของแพงขึ้นทุกวัน ยากเข็ญ เร่ขายจนขาแข็ง แต่ก็ยังขายไม่ได้ ตั้งหน้าตั้งตาขายบ๊ะจ่าง บ๊ะจ่างร้อนๆ จ้า"
เพลงสะท้อนชีวิตจริงในยุคนั้น จนทำให้รู้สึกว่า ต่อไปคิดจะกินบ๊ะจ่างละก็ ต้องกินให้หมดลูกเสียแล้ว มิเช่นนั้นจะรู้สึกผิดมากๆ เลยค่ะ.
'ป้าเอง'
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ไม่ใช่เวลา..จับผิด!!
ความทุกข์ของคนที่จังหวัดสงขลา ไม่ว่าจะมากจะน้อยแล้วแต่เขตอำเภอ และพื้นที่แต่ละแห่ง ล้วนไม่ได้แตกต่างกันสักเท่าไร เพราะชีวิตประจำวันที่เคยเดินทางสัญจร ไปไหนมาไหนตามอำเภอใจนั้น ถูกจำกัดโดยปริยาย ซึ่งหมายความว่า ต่างได้รับผลกระทบกันถ้วนหน้า
“น้ำใจของคนไทย" ความงดงามที่ทำให้สังคมน่าอยู่
ประโยคนี้ใครไม่เห็นด้วย..ยกมือขึ้น!! ถ้าใครยังมองไม่เห็น แค่หรี่ตาข้างเดียวก็ได้ แล้วมองเหตุการณ์น้ำท่วมภาคใต้ในช่วงนี้ รับรองว่าจะเห็นแจ่มแจ้งถึงพลังแห่งความช่วยเหลือจากทุกทิศทางหลั่งไหลไปไม่ขาดสาย
ความเป็น..จีน..ที่เปลี่ยนไป
เวลาที่คิดจะไปเที่ยวเมืองจีน สิ่งแรกที่คิดถึงจนเป็นความกังวลของมนุษย์ป้าเอง เห็นจะไม่พ้นเรื่องของ "ห้องสุขา" ที่เรียกขานตามภาษาถิ่นของเขาว่า "สีโส่วเจียน" เพราะเอกลักษณ์อันไม่อาจลืมเลือนของที่นั่นคือ ความสะอาดที่ยากจะหาเจอ
60อัป..ใครทำได้ก็ทำไป
ประเด็นขยายอายุเกษียณจาก 60 เป็น 65 ปี กำลังเป็นเรื่องฮอตในสังคมไทยอยู่ตอนนี้
เรื่องของ..มิวเซียม
เมื่อเดือนที่แล้วมีโอกาสไปเที่ยวมิวเซียม ที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรียค่ะ ได้ความรู้และอรรถรสของการชมสถานที่สำคัญและน่าจดจำ ไม่ว่าจะเป็น Kunsthistorisches Museum Wien (พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ศิลปะเวียนนา) ที่ได้ชื่อว่าสะสมสมบัติของชาติไว้มากที่สุดแห่งหนึ่ง หรือจะเป็นร้านกาแฟที่้ได้ชื่อว่าสวยที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง
เรื่องตลกเรื่องนี้ได้ที่หนึ่งของโลก
ในงานปาร์ตี้รวมดารา มีคุณลุงแก่ๆ ท่านหนึ่งขึ้นเวทีมาด้วยไม้เท้า แล้วก็นั่งลงที่เก้าอี้ พิธีกรถามว่า "คุณลุงยังไปหาหมอบ่อยๆ อยู่ไหมครับ?"


