ไทยโพสต์ "อิสรภาพแห่งความคิด" www.thaipost.net ฟ้าผ่าเปรี้ยงกลางกบาล "นายใหญ่" อุตส่าห์ภูมิใจนำเสนอน้องเขยวางตัวประมุขสภาสูง นึกว่าเป็นเทวดาเสกได้สารพัดอย่างเหมือนคราวดันก้น "สมชาย วงศ์สวัสดิ์" นั่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 26 ต้องน้ำตาตกร่วงตกเก้าอี้ชนิดล็อกถล่ม ได้แค่ 10 คะแนน ของกลุ่ม 1 การบริหารราชการแผ่นดินและความมั่นคง ไม่ติดกระทั่งตัวสำรอง ส่วนอันดับหนึ่งกลุ่มนี้ กลายเป็นของประธานคณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (อนุทิน ชาญวีรกูล) “บิ๊กเกรียง” พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ อดีตผู้ช่วย ผบ.ทบ. และอดีตแม่ทัพภาคที่ 4 เจ้าของฉายา “แม่ทัพกระดูกเหล็ก” ลิ่ว 74 คะแนน
ตัวเต็งประธานวุฒิสภา โถหน้าแหกขนาดนี้ พลพรรคเพื่อแม้วยังโหนเอาดีเข้าตัวได้อีก "จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์" รมช.การคลัง สส.เชียงใหม่และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย บอกว่าสะท้อนให้เห็นว่ารัฐบาลไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยว หรือแทรกแซงในกระบวนการ และนายสมชายไม่ได้สมัครในนามพรรคเพื่อไทย เพราะตอนสมัครก็ไม่ได้บอกใคร ดำเนินการเองทุกขั้นตอน จึงได้แต่เชียร์ในใจ ในฐานะคนรู้จักกัน แต่ก็ไม่ได้ดำเนินการอะไร ปล่อยให้เป็นไปตามขั้นตอน
๐ ศึกครั้งนี้ "ครูใหญ่" ค่ายสีน้ำเงิน เหยียบ "นายใหญ่" จมธรณี บุรีรัมย์ฟาดเชียงใหม่ยับ ดีกรีอดีตนายกฯ สู้อดีตคนขับรถไม่ได้ หนึ่งในสายตรงบ้านใหญ่บุรีรัมย์ "ปราณีต เกรัมย์" มาแรงตั้งแต่รอบจังหวัด สมัครในกลุ่ม 16 ศิลปะ ดนตรี บันเทิง กีฬา นำโด่งทั้งรอบเลือกกันเอง ได้ 25 คะแนน จากผู้สมัคร 45 คน แบบไขว้ ก็ได้รับ 11 คะแนน โดยนายปราณีตเคยเป็นคนขับรถให้นายชัย ชิดชอบ แต่ในเอกสารที่ใช้สมัคร สว. เขียนแนะนำตัวเองเพียงหนึ่งบรรทัดว่าเป็นอดีตนักฟุตบอล นับเฉพาะจังหวัดบุรีรัมย์ กวาดไปถึง 14 เก้าอี้ อาทิ นายมงคล สุระสัจจะ อดีตอธิบดีกรมการปกครอง และอดีต ผวจ.บุรีรัมย์ นายอภิชาติ งามกมล อดีตรองผู้ว่าฯ อำนาจเจริญ พี่ชายนายไตรเทพ งามกมล สส.บุรีรัมย์ พรรคภูมิใจไทย พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ แสงเพชร อดีต ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์ นายประพนธ์ ตั้งศรีเกียรติกุล อดีตรองปลัดกระทรวงสาธารณสุข อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและที่ปรึกษายุคเสี่ยหนูเป็น รมว.สาธารณสุข นายพรเพิ่ม ทองศรี พี่ชายนายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย นอกจากนี้ยังมีผู้สมัครสายน้ำเงินเข้าวินอีกหลายจังหวัด ทั้งอีสาน และภาคใต้ อย่างบิ๊กเกรียงก็ลงสมัครที่สุราษฎร์ธานี หรือ ดร.กมล รอดคล้าย อดีตเลขาธิการ กพฐ. คณะทำงานยุทธศาสตร์ด้านการศึกษา พรรคภูมิใจไทย สมัคร สว.สงขลา กลุ่มการศึกษา เรียกว่าเป็นบ้านใหญ่กวาดเยอะสุดก็ว่าได้
๐ ฮั้วมโหฬาร! หนักกว่า "สภาผัวเมีย" บ้านใหญ่แต่ละค่ายส่งเด็กในคาถาโผล่หน้าสภาสูงกันสลอน 200 คน มีภาคประชาชนตัวจริงแค่เสี้ยวเดียว นอกจากจำแลงกันทั้งนั้น งานนี้อดีตคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญชุดอาจารย์มีชัย ฤชุพันธุ์ คงได้แต่ปลงอนิจจัง เจตนารมณ์ที่คลอดวิธีเลือก สว. ที่พิสดารซับซ้อนที่สุดในโลก หวังให้สมาชิกวุฒิสภามีความเป็นกลางทางการเมืองถ่วงดุลอํานาจกับฝ่ายนิติบัญญัติ เปลี่ยนให้เป็นสภาที่จะรับรู้ความต้องการหรือความเดือดร้อน หรือส่วนได้-เสียของคนกลุ่มต่างๆ เพื่อให้ประชาชนทุกสาขาอาชีพได้เข้ามามีส่วนร่วมอย่างแท้จริง สุดท้ายเครือข่ายทุน-อำนาจที่เชี่ยวชาญหาช่องโหว่ของกฎหมายก็ชนะตามเคย แถมง่ายกว่าซื้อเสียงประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 52 ล้านคนซะอีก ฟังเลขาธิการ กกต. "แสวง บุญมี" ขึงขังเร่งสอบโพยหาหลักฐานจัดการขบวนการฮั้ว ก่อนประกาศรับรอง 3 ก.ค. ก็ไม่รู้จะฝากความหวังได้ซักแค่ไหน นี่แค่เริ่มต้น ยังจ่ายหนักขนาดนี้ รับรองได้ว่า สว.เหล่านี้มีราคาแน่ โหวตแต่ละครั้ง ใบสั่งว่อนสภา... เอวัง ก็มีด้วยประการฉะนี้.
ลี้คิมฮวง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
บันทึกหน้า 4
น้ำลด การเมืองผุด! หลังเพลาไปช่วงมหาวิปโยคใต้ เวลานี้กลับมาร้อนฉ่าอีกรอบ ช่วงเย็นพุธที่ผ่านมา คล้อยหลัง "นายกฯ อนุทิน" แถลงโชว์ถอนรากสแกมเมอร์เขมรยึดทรัพย์หมื่นล้าน
บันทึกหน้า 4
ต้องยอมรับว่าแม้ “มหาอุทกภัยในภาคใต้” เริ่มคลี่คลายเข้าสู่จุดการเยียวยา-ฟื้นฟูแล้วก็ตามที แต่ยอดผู้เสียชีวิตและความเสียหายก็ยังไม่นิ่งเสียทีเดียว แต่อย่างไรยอดผู้เสียชีวิตก็คงไม่ถึงพันศพตามที่ “พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล” อดีต รอง ผบ.ตร. วาดหวังแน่ๆ แล้ว
บันทึกหน้า 4
หลังวิกฤตน้ำท่วม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา คลี่คลาย น้ำตาก็ท่วมเมือง เมื่อชาวหาดใหญ่เห็นสภาพบ้านเรือนของตัวเองกลายเป็นซากปรักหักพัง ทรัพย์สินที่สร้างมาพังพาบไปกับกระแสน้ำแทบสิ้นเนื้อประดาตัว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ร่วมประชาสัมพันธ์กิจกรรมความร่วมมือ “รวมใจไทย ฟื้นแดนใต้” ซึ่งรัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์เป็นแกนกลางในการประสานงานร่วมกับภาคเอกชนและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
บันทึกหน้า 4
ภายใต้วิกฤตหาดใหญ่ครั้งนี้ ผู้นำรัฐบาลอย่าง อนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ และ รมว.มหาดไทย ถูกเรียกร้องให้แสดงความรับผิดชอบ แม้ต้นตอของปัญหาไม่ได้มาจากเขาคนเดียว
บันทึกหน้า 4
ขึ้นต้นเดือนสุดท้ายของปี บรรยากาศสังคมไทยยังคงซึมๆ เศร้าๆ อยู่กับเหตุและเภทภัยที่พี่น้องชาวใต้กำลังเผชิญ "น้ำลดตอผุด" ถูกขุดขึ้นมาเป็นรายวัน เหมือนมีใครบางคนกำลังช่วงชิงสถานการณ์หวัง "ตีกิน" สร้างดรามา แต่งคอนเทนต์ไล่ล่าเอาคะแนนนิยมคืนจากรัฐบาลที่นำโดยพรรคภูมิใจไทย
บันทึกหน้า 4
น้ำใจไทยไม่เคยเหือดแห้ง ถนนทุกสายจากทั่วประเทศมุ่งสู่ใต้ โดยเฉพาะ "มหาวิปโยคหาดใหญ่" ไม่ใช่แค่ทั้งเมืองจมบาดาล ทรัพย์สินเสียหาย แต่รวมถึงชีวิตที่ประเมินค่าไม่ได้ ซึ่งมีการอัปเดตตัวเลขช่วงเย็น 27 พ.ย.
