น้ำตาแตกทั้งอาเซียน

ขออีกวัน..

นานๆ ได้ออกงานที ก็ที่ได้ไปร่วมงานประกาศ “รางวัลภาพยนตร์ไทยครั้งที่ 32” ของชมรมนักวิจารณ์ภาพยนตร์ ที่หอศิลป์ กระทรวงวัฒนธรรมนั่นแหละ!

จากการพบหน้าพบตาพรรคพวกเพื่อนพ้องน้องพี่ ทั้งผู้กำกับ ผู้สร้าง ดารา นักข่าว ซึ่งระยะหลังเห็นจะต้องบอกตามล่ะ..

กับวงการภาพยนตร์โอกาสที่จะคลุกวงในอย่างเมื่อก่อนก็แทบพูดได้ว่า เหินห่างทีเดียว!

จึงอดรู้สึกตื่นตาตื่นใจไม่ได้ เมื่อได้ไปเห็นทั้งคนรุ่นเก่าคนรุ่นใหม่ของวงการภาพยนตร์ไทยมากันเพียบ ได้ทั้งไหว้ทั้งรับไหว้ บรรยากาศอุ่นหนาฝาคั่งกันจริงๆ

อย่างที่ได้เคยคุยไว้ ขนาดคุณเทพ โพธิ์งาม ที่เฝ้าไร่-เฝ้าสวนอยู่ไกลถึงราชบุรี ก็ยังแวะไปร่วมงานเพื่อแสดงความยินดีกับ “คุณศุภักษร” ที่ได้รับรางวัลเกียรติคุณแห่งความสำเร็จเลย!

หรือจะคุณมานพ อุดมเดช ที่หลังจากได้เสียภรรยาสุดที่รักไปเมื่อสักสี่ซ้าห้าเดือนก่อน จากที่อยู่แบบหงอยเหงาตามลำพังสองตายาย..

ตอนนี้ ยิ่งเหงาหนักเข้าไปอีกเมื่ออยู่คนเดียว ยังดีหน่อยที่พอจะมีหมามีแมวคอยเป็นเพื่อน หรือบางครั้งก็มีงูเหลือมโผล่มาให้ตื่นเต้น หัวใจสูบฉีดด้วย

แต่งานนี้ คุณมานพจำใจต้องออกจากคฤหาสน์ แกบอกว่าต้องมาให้กำลังใจ “เสือเตี้ย” (คุณสนานจิตต์ บางสพาน) แกหน่อย

เพราะเพิ่งรับไม้ต่อจากคุณนคร วีระประวัติ เป็น “ประธาน” ชมรมวิจารณ์บันเทิงคนใหม่!

เห็นยืนคุยอยู่กับคุณสมเดช สันติประชา ผู้กำกับรุ่นครูที่รุ่นราวคราวเดียวกันน่าจะเหลือแค่ไม่กี่คนแล้ว ผมเดินปรี่เข้าไปทัก..

“สวัสดีพี่ทั้งสอง โทษทีที่ขัดจังหวะ” คุณมานพยิ้มรับไหว้ พลางว่า “ไม่มีไรแค่คุยกันเรื่องหลานม่าน่ะ”

“เออ..แล้วเป็นไงได้ข่าวว่า หลานม่า ทำอาเซียนน้ำตาแตกจริงเหรอ แล้วมองยังไง ขอคอมเมนต์หน่อย?" ผมสบช่อง

“โถ! ไม่ต้องคอมเมนต์แล้วแหละ ป่านนี้รายได้รวมทั้งอาเซียน ไม่ 2,000 ล้านบาทไปแล้วรึ ถ้าเข้าจีนนะประเทศเดียวเงินหมื่นล้านรออยู่”

“ถึงเหรอ?” ผมขอความมั่นใจ “มีหรือไม่ถึง”.. “อะไรที่ทำให้หนังเรื่องนี้ประสบความสำเร็จขนาดนั้น?”

ผู้กำกับมือรางวัลร่าย.. “หลานม่าเนี่ยมันมีประเด็นที่กินใจและดูง่าย ทั้งเนื้อเรื่องทั้งการนำเสนอเป็นอะไรอย่างศัพท์ฝรั่งว่าคือ คอนเวนชันนัล ดีพิกชัน

การพรรณนาตามจารีตประเพณีหรือธรรมเนียมปฏิบัติ ไม่ต้องสวิงสวาย แล้วเรื่องมันก็จริง คนดูไทยเชื้อสายจีนที่ยังเข้มจารีต ย่อมเคยมีประสบการณ์เรื่องในครอบครัว

ลูกชายคนโตสำคัญกว่าลูกผู้หญิง แต่จริงๆ ประเพณีไทยลูกผู้หญิงก็ถูกคุมพอกันกับจีน ถ้าจะว่าไป เพราะลูกผู้หญิงมีโอกาสนำความเสื่อมเสียมาสู่วงศ์ตระกูล

เหมือนคำพูดที่ว่า เหมือนมีส้วมหน้าบ้าน แต่งงานไปก็ไปเป็นพร็อพเพอร์ตี้ทรัพย์สินของตระกูลอื่นไปแล้ว

ย้อนหลังไป 70 ปีที่แล้ว หญิงไทยเรื่องความรักเนี่ย ถูกคลุมถุงชนทั้งนั้นแหละ ผมก็เป็นผลผลิตของจารีตคลุมถุงชน หลานอาม่า มันมีประเด็นให้คนดูได้กลับไปขบคิดได้หลายหัวข้อ

หัวใจของเรื่อง คนสร้างเขาเอาเรื่องความสัมพันธ์ในครอบครัวคนไทยเชื้อสายจีนมาเป็นแกน หนังเรื่องนี้ดูแล้วยังนำไปขบคิดต่ออีกหลายวัน มันไม่จบในใจคนดู

 บางคนอาจไม่เห็นด้วยกับอาม่าเรื่องแบ่งมรดก บางคนก็เห็นด้วย บางคนก็ตีความไปในด้านความรักที่อาม่ามีให้ลูกให้หลาน เป็นความรักที่ไม่ต้องบอกออกมา

ครอบครัวสมัยใหม่ขาดแคลนจารีต คนรุ่นใหม่รังเกียจจารีต ยกย่องอิสระเสรีภาพ แต่ในเวลาเดียวกันก็ใจแคบต่อจารีตประเพณี

 สรรเสริญที่ฝรั่งว่า ฟรีวิลล์ หรือเจตจำนงเสรี จนสังคมโลกปั่นป่วนไปหมด โดยเฉพาะศีลธรรมครอบครัวเละเทะ

ไม่มีมหาวิทยาลัยสักแห่งเดียวในประเทศไทยที่สอนเรื่องศีลธรรมจรรยาครอบครัว สอนอย่างอื่นสอนได้

เรื่องสถาบันครอบครัวสอนไม่เป็นทั้งที่มันเป็นสถาบันที่สำคัญที่สุดของมนุษย์”

ครับ..ต้องเข้าใจโฮมอะโลนที่วันๆ ไม่ค่อยได้พูดจาสุงสิงกับใคร จึงเลยปล่อยให้คุณมานพพูดซะน้ำไหลไฟดับ ก่อนที่ผมจะเบรกด้วยคำถาม..

“เศรษฐาอยู่หรือไป” ..คุณมานพร้อง “อ้าว ก็ท่านไปนานแล้วนี่”..“ไม่ใช่เศรษฐา ศิระฉายา ผมหมายถึงเศรษฐานายกฯ น่ะ”..

“ไปแน่..ไปต่างประเทศกับต่างจังหวัด”!.

 

 

สันต์ สะตอแมน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

‘พีระพันธุ์’ เปลี่ยนไป

“ผมพร้อมมานานแล้วที่จะเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆ อย่างจริงจัง ใครที่ทนกับสิ่งยั่วยุไม่ได้ หรือเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว เชิญออกไป ใครพร้อมเป็นลูกน้องนายทุน เชิญออกไป

ใครที่เดือดร้อน?

แรกเห็น-แรกอ่าน.. ก็..คิดเอาว่าเป็นใครก็ไม่รู้เขียน เพราะไม่เชื่อว่าจะเป็นถ้อยคำจาก “เสก โลโซ” ร็อกเกอร์คนดัง ซึ่งผู้อ่านหลายท่านก็น่าจะได้ผ่านตา

ระวังจะโดนย้อนศร

เรื่องนี้ต้องขยาย.. ผมหมายถึง “ยอดคนตาย” จากมหาอุทกภัยหาดใหญ่น่ะ เพราะหลังจาก นพ.ศักดา อัลภาชน์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข แถลง..

ต่างฝ่ายต่างโกง?

ดารา-นักแสดงถูกเบี้ยวค่าตัว! ความจริงก็ใช่ว่าเพิ่งมาเกิดเอายุคปัจจุบัน-ตอนนี้..สมัยนู้นนน ในยุคพระเอก-นางเอกคู่ขวัญ “มิตร ชัยบัญชา-เพชรา เชาวราษฎร์” และ “สมบัติ เมทะนี-อรัญญา นามวงศ์”..

ความคิดหลุดโลก?

แค่นายกฯ อนุทินหยอดมุก.. “อยากนามสกุล ‘หลีกภัย’ แต่เจอเข้าไป 4 ภัย ทั้งภัยเศรษฐกิจ ภัยความมั่นคง ภัยสังคม และภัยธรรมชาติ”

‘ตลก’ไม่ทิ้งกัน!

“เต็มที่แล้ว เต็มที่จริงๆ ผมทำดีที่สุดแล้ว” นี่.. “นายกแป้น” คุณณรงค์พร ณ พัทลุง นายกเทศมนตรีเทศบาลนครหาดใหญ่ ได้บอกผู้สื่อข่าว หลังจากที่ประกาศก่อนหน้าว่า..