เสียดายเวลา

คิดถึงลุงตู่..

เปล่านะ..ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับภาพคนเส้นเอ็นเปื่อยยุ่ยฉีกขาด ไปออกรอบตีกอล์ฟกับรัฐมนตรี สส. นักธุรกิจที่เขาใหญ่นั่นหรอก!

และอารมณ์นี้ก็หาใช่อารมณ์ของผม หากแต่เป็นของใครก็ไม่รู้ ที่ได้ถ่ายทอดออกมาเป็นบทเพลงจนดังสนั่นในติ๊กต๊อก ซึ่งฟังแล้วก็ไพเราะ-จับใจดี..

“คิดถึงลุงตู่..คนที่อยู่ยืนหยัดเพื่อเรา..สร้างผลงานมากมาย..ให้คนไทยยิ้มได้ ให้ชีวิตเป็นราชพลี..คิดถึงลุงตู่ อะอาอะอ่า..คิดถึงลุงตู่ อะอาอะอ่า”

สั้นๆ แต่ทำเอาหลายคนอิน และพานคิดถึง “ลุงตู่” ขึ้นมาฉับพลัน ส่วนภาพกลางสนามกอล์ฟนั้น หลายท่านก็ได้บรรยายความรู้สึกกันไปตามรสนิยม

แต่ที่ตรงใจผมก็เห็นจะเป็นคำบรรยายของคุณเทพไท เสนพงศ์ ที่โพสต์.. “ผมได้มีโอกาสไปทำบุญวันเข้าพรรษา ที่วัดชลประทานรังสฤษดิ์ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี

ได้พบกับแฟนคลับ แฟนเพลงและคอการเมืองหลายคน ได้พูดคุยกันถึงสถานการณ์บ้านเมืองที่เป็นอยู่ในขณะนี้

ซึ่งคนส่วนหนึ่งเคยร่วมการชุมนุมกับกลุ่ม กปปส.ในการขับไล่ ทำลายล้างระบอบทักษิณมา ตั้งแต่ยุครัฐบาลทักษิณจนถึงยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์

ได้เสียสละทั้งเงินทองและเวลา ในการร่วมการเดินขบวนต่อสู้ในครั้งนั้น

ตอนนี้สถานการณ์บ้านเมืองเปลี่ยนไป เห็นคุณทักษิณกลับประเทศไทยอย่างเท่ๆ ไม่ติดคุกแม้แต่วันเดียว และคุณยิ่งลักษณ์ก็จะเดินทางกลับประเทศไทยมาเช่นเดียวกัน

ทำให้คนเหล่านี้รู้สึกเจ็บปวดและเคียดแค้นอยู่ในใจ แต่ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะบ้านเมืองตอนนี้อยู่ภายใต้การควบคุมของระบอบทักษิณอย่างสมบูรณ์แบบแล้ว

เขาจึงตั้งคำถามแบบรัวๆ กับผมว่า ทำไมต้องปล่อยให้ทักษิณกลับประเทศไทยแบบเท่ๆ ใครอนุญาตให้ทักษิณกลับมาและกลับมาได้อย่างไร ไม่มีใครทำอะไรทักษิณได้เลยหรือ

แกนนำมวลชนที่เคยต่อสู้กับระบอบทักษิณหายหน้าไปไหนหมด ทำไมไม่ออกมาแสดงความเห็นต่อสู้คัดค้านบ้าง

ทำไมพรรคการเมืองที่อยู่กับพวกคนละขั้วกับคุณทักษิณ มาจับมือจูบปากตั้งรัฐบาลได้ ทำไมปล่อยให้ทักษิณลอยหน้าลอยตาเหยียบย่ำน้ำใจหัวใจคนไทยอย่างนี้

ผมคิดว่าความเจ็บปวดของมวลชนในครั้งนี้ ไม่ได้มีเฉพาะมวลชนกลุ่ม กปปส.หรือคนเสื้อเหลือง แต่มวลชนกลุ่ม นปช. หรือคนเสื้อแดง ก็เจ็บปวดเหมือนกัน

แต่อาจจะเจ็บปวดน้อยกว่า เพราะคุณทักษิณและพรรคเพื่อไทยที่ฝ่ายตัวเชียร์ ได้เข้ายึดกุมอำนาจรัฐ เป็นแกนนำรัฐบาลและเป็นนายกรัฐมนตรีด้วย

ในขณะที่มวลชนคนเสื้อเหลือง กลุ่ม กปปส.นั่งดูตาปริบๆ เมื่อเห็นคุณทักษิณออกมาเคลื่อนไหวเย้ยฟ้าท้าดินแบบนี้

โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาพของคุณทักษิณไปพักผ่อนที่เขาใหญ่ และตีกอล์ฟกับแกนนำนักการเมือง และกลุ่มทุนใหญ่ด้านพลังงาน

ท่ามกลางการห้อมล้อมของข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ในบ้านเมือง มันยิ่งเพิ่มความเจ็บปวด และคับแค้นในหัวใจ มีหลายคนร้องเพลงด้วยความเจ็บปวดในใจว่า

“ความคับแค้นครั้งนี้ จงแปรเปลี่ยนเป็นพลัง ให้กล้าแกร่ง ดุจดังพายุโหม เราจะลุกขึ้นสู้ เราจะยอมสู้ตาย แม้ชีวาจะวาย เราก็ยอมพลี”

ผมเชื่อว่าถ้าความเจ็บปวด ความคับแค้นของประชาชนที่มีขีดจำกัด เมื่อได้สะสมมากขึ้น สักวันหนึ่งก็จะระเบิดออกมา

เราอาจจะได้เห็นความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองกันอีกครั้งหนึ่ง”

ตรงใจ..เพราะผมเองนั่งคุยกับใครต่อใครก็ได้แต่ปรารภ ที่ผ่านมายอมเสียเงิน เสียเลือด เสียเหงื่อ เสียเวลา เมื่อเป็นอย่างงี้ก็ให้นึกถึงเพลงคุณธานินทร์..

เสียดายก็เพียงเวลาผ่านมา ปลูกผักปลูกหญ้าขาย ยังได้เงิน!.

สันต์ สะตอแมน

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ประชาธิปไตยจอมปลอม

“หาดใหญ่ยังห่างไกลความปกติ.. ขยะเป็นล้านตันไม่ใช่เรื่องที่จัดการง่าย และเรายังลุยต่อกับอีกหลายหน่วยงานในทุกๆ วันค่ะ”

ร่างทรงชาวบ้าน

ว้าวว..ลูกชาย “เจ๊แดง” นั่งแคนดิเดตนายกฯ เบอร์ 1 เพื่อไทย! เสียงเพื่อนบนโต๊ะกินข้าวคนหนึ่งอุทานลั่น ทำเอาเพื่อนๆ ร่วมโต๊ะหันมองหน้าด้วยความพร้อมเพรียง ก่อนที่อีกคนจะเอ่ยถาม..

‘ขอเวลาอีกไม่นาน’!

คั่นสงครามด้วยข่าวบันเทิง!.. เริ่มที่เจ้าพ่อโหนกระแส “คุณหนุ่ม-กรรชัย กำเนิดพลอย” โพสต์ถึงใครก็ไม่รู้.. “ก่อนจะดูถูกคนอื่น ล้างมือล้างตีนตัวเองก่อนดีมั้ย ตีนยังดำอยู่เลย”

‘เด็กเสียนิสัย’?

“สงคราม” ..สนุกแต่เฉพาะในหนังฮอลลีวูด.. นอกจาก “ของจริง” ไม่ใช่เรื่องเล่น-เรื่องสนุก หรือเรื่องที่จะคุยโม้ โอ้อวด เพราะสนามสงคราม คือ “สนามแห่งความเป็น-ความตาย” ของชีวิต (จริง) เหล่าทหารกล้า!

‘ดิสนีย์แลนด์’..ฝันเก้อ?

แก้วตา...หันมาฟังพี่จะบอก เจ้าจงตั้งใจฟังไว้ให้ดี.. คืองี้..เหตุที่คณะกรรมการบริหารพรรคประชาชน และคณะกรรมการคัดสรรผู้สมัคร มีมติไม่ส่งคุณธิษะณา ชุณหะวัณ หรือ “แก้วตา” ลงสมัคร สส.กรุงเทพฯ ต่อนั้น..

เหลือไว้ความทรงจำ

สงครามมาพร้อมกับ “ซีเกมส์” แต่ด้วย “ซีเกมส์” เป็นการแข่งขันกีฬาของมวลมนุษยชาติที่จัดกันมาต่อเนื่องจนถึงครั้งที่ 33 ในปีนี้-2568