
วิสัยคนเป็นพ่อเป็นแม่ หรือเป็นผู้ปกครอง มีลูกมีหลานต้องอบรมเลี้ยงดู หรือมีความหวังผูกติดไว้กับคนรุ่นใหม่ ย่อมต้องรู้สึก "ห่วงใย" และออกไปทางกังวลว่า อนาคตลูกหลานไทยจะเป็นอย่างไรกันหนอ กับบรรยากาศการเมืองไทย ที่มีผู้นำคนใหม่ ...อายุน้อยมากๆ แถมยังเป็นผู้หญิงอีกต่างหาก
ว่ากันตามเป็นจริงแล้ว เรื่องอายุ และเพศสภาพ อาจจะไม่ได้สร้างความเดือดเนื้อร้อนใจสักเท่ากับ ประวัติความเป็นมา และเทือกเถาเหล่ากอของว่าที่นายกรัฐมนตรีคนที่ 31 ของประเทศไทย
คลุมเครือ ขมุกขมัว มองดูไม่โปร่งใสตั้งแต่นาทีแรกที่อาสาเข้ามาอยู่บนถนนการเมืองก็ว่าได้ เพราะย้อนหลังไปเมื่อปี 2547 มีเรื่องราวอื้อฉาว "ข้อสอบเอนทรานซ์รั่ว" และในปีนั้น นักเรียนที่อยู่ในช่วงเวลาสมัครสอบด้วยมีชื่อ "แพทองธาร ชินวัตร"
ปมปริศนาความไม่เสมอภาค และความอยุติธรรมทางการศึกษาในปี พ.ศ.2547 ยังคงเป็นเรื่องปิดกันให้แซ่ด ไม่พ้นความรู้สึกและความเชื่อที่บอกว่า ..แข่งอะไรแข่งได้ แข่งบุญแข่งวาสนานั้นไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คนมีอันจะกินในสังคมไทย มักจะมีโอกาสมากกว่าคนเดินดินกินข้าวแกง
ก็น่าจะไม่ใช่เรื่องห่างไกลความเป็นจริง เพราะครูบาอาจารย์ในมหาวิทยาลัยทุกวันนี้ ก็ตระหนักรู้ว่า เด็กที่มีโอกาสเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงลำดับต้นๆ ของประเทศนั้น ส่วนใหญ่แล้วคือคนที่มีฐานะพอประมาณ อย่างน้อยที่สุดก็ต้องมีเงินจ่ายค่าติว ค่าเรียนพิเศษ เพื่อเตรียมตัวเข้าคณะที่อยากจะเรียน
ถือว่าแตกต่างจากสมัยมนุษย์ป้ามากมาย เพราะเราจะเรียนพิเศษเฉพาะวิชาที่เราคิดว่าเราไปไม่ไหว ที่เหลือเราก็จะเตรียมตัวเอง โดยซื้อหนังสือแบบฝึกหัดมาทดสอบอย่างจริงจัง แต่เด็กทุกวันนี้ จะเรียนทุกวิชาที่หวังผลที่จะเข้ามหาวิทยาลัยให้ได้ ทำให้การเรียนในห้องเรียนหมดความหมาย เพราะทุกคนหวังที่จะไปเอาเคล็ดวิชาทำข้อสอบ แทนการเล่าเรียน
การหล่อหลอมนักเรียนเพื่อการสอบ กับการให้การศึกษาเพื่อเป็นอาวุธในการใช้ชีวิตในอนาคต ย่อมแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ดังนั้น จึงไม่แปลกใจเลยที่เราจะเห็นเด็กในวันนี้คิดว่า ใช้วิธีไหนก็ได้ขอให้ผ่าน ขอให้ชนะ ขอให้เก่ง ขอให้รวย ก็พอ
ทัศนคติเด็กแบบนี้ น่าเป็นห่วงไหมล่ะ ...ยิ่งเราจะมีผู้นำแบบเดียวกัน ที่ขอชนะไว้ก่อน ถูกผิด เอาเปรียบชาวบ้าน..ทำไมต้องแคร์!!..มันน่าห่วงแทนลูกหลานจริงๆ นะ.
"ป้าเอง"
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ไม่ใช่เวลา..จับผิด!!
ความทุกข์ของคนที่จังหวัดสงขลา ไม่ว่าจะมากจะน้อยแล้วแต่เขตอำเภอ และพื้นที่แต่ละแห่ง ล้วนไม่ได้แตกต่างกันสักเท่าไร เพราะชีวิตประจำวันที่เคยเดินทางสัญจร ไปไหนมาไหนตามอำเภอใจนั้น ถูกจำกัดโดยปริยาย ซึ่งหมายความว่า ต่างได้รับผลกระทบกันถ้วนหน้า
“น้ำใจของคนไทย" ความงดงามที่ทำให้สังคมน่าอยู่
ประโยคนี้ใครไม่เห็นด้วย..ยกมือขึ้น!! ถ้าใครยังมองไม่เห็น แค่หรี่ตาข้างเดียวก็ได้ แล้วมองเหตุการณ์น้ำท่วมภาคใต้ในช่วงนี้ รับรองว่าจะเห็นแจ่มแจ้งถึงพลังแห่งความช่วยเหลือจากทุกทิศทางหลั่งไหลไปไม่ขาดสาย
ความเป็น..จีน..ที่เปลี่ยนไป
เวลาที่คิดจะไปเที่ยวเมืองจีน สิ่งแรกที่คิดถึงจนเป็นความกังวลของมนุษย์ป้าเอง เห็นจะไม่พ้นเรื่องของ "ห้องสุขา" ที่เรียกขานตามภาษาถิ่นของเขาว่า "สีโส่วเจียน" เพราะเอกลักษณ์อันไม่อาจลืมเลือนของที่นั่นคือ ความสะอาดที่ยากจะหาเจอ
60อัป..ใครทำได้ก็ทำไป
ประเด็นขยายอายุเกษียณจาก 60 เป็น 65 ปี กำลังเป็นเรื่องฮอตในสังคมไทยอยู่ตอนนี้
เรื่องของ..มิวเซียม
เมื่อเดือนที่แล้วมีโอกาสไปเที่ยวมิวเซียม ที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรียค่ะ ได้ความรู้และอรรถรสของการชมสถานที่สำคัญและน่าจดจำ ไม่ว่าจะเป็น Kunsthistorisches Museum Wien (พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ศิลปะเวียนนา) ที่ได้ชื่อว่าสะสมสมบัติของชาติไว้มากที่สุดแห่งหนึ่ง หรือจะเป็นร้านกาแฟที่้ได้ชื่อว่าสวยที่สุดในโลกแห่งหนึ่ง
เรื่องตลกเรื่องนี้ได้ที่หนึ่งของโลก
ในงานปาร์ตี้รวมดารา มีคุณลุงแก่ๆ ท่านหนึ่งขึ้นเวทีมาด้วยไม้เท้า แล้วก็นั่งลงที่เก้าอี้ พิธีกรถามว่า "คุณลุงยังไปหาหมอบ่อยๆ อยู่ไหมครับ?"


