
นอกจากบทบาทรัฐมนตรีคุมงานด้านสาธารณสุข งานที่มีความสำคัญยิ่งในยุคโควิด-19 นี้
“หมอหนู”- อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ยังมีอีกบทบาทหนึ่งที่ทุกคนยังต้องจดจำ ในภารกิจ “หัวใจติดปีก” ที่หมอหนูทำหน้าที่ “กัปตันเครื่องบิน” ขับเครื่องบินส่วนตัวพาทีมแพทย์และพยาบาลไปรับอวัยวะหัวใจที่ได้รับการบริจาคกลับมามอบให้แก่ผู้ป่วยที่รอรับอวัยวะเหล่านี้เพื่อต่อชีวิต
ซึ่ง “หมอหนู” จะทำภารกิจติดปีกทุกครั้งที่โอกาส โดยมีคุณหมอเพื่อนสนิท อย่าง นพ.พัชร อ่องจริตศัลยศาสตร์หัวใจและทรวงอก ที่นำทีมแพทย์และพยาบาลทำภารกิจจนสำเร็จลุล่วงในทุกครั้ง สร้างความสุข ความอิ่มเอมหัวใจ และได้บุญในการต่อชีวิตคน
และจากการร่วมทำความดีในหลายๆครั้ง ล่าสุดก็มีเรื่องให้ “หมอหนู” ได้ตื้นตันหัวใจถึงกับแอบปาดน้ำตาเมื่อมีหญิงคนหนึ่งเข้ามาทักทาย บอกว่าเป็นแม่ของลูกชายที่เคยบริจาคหัวใจ และ “หมอหนู” เป็นคนบินมารับด้วยตัวเอง พร้อมพูดคุยสอบถามหมอหนูด้วยว่าหัวใจของลูกชายเป็นอย่างไรบ้าง
ทำ “หมอหนู” ตื่นเต้น ดีใจ และต้องแอบมาปาดน้ำตาด้วยความตื้นตัน หลังจากเห็นแววตาที่มีความสุขของคนที่เป็นแม่ ที่ได้ทราบว่าหัวใจของลูกชายที่บริจาคไปนั้นยังแข็งแรงดี
โดย “หมอหนู” ได้ถ่ายทอดเรื่องราวที่น่าประทับใจนี้ผ่านเฟซบุ๊กด้วยว่า “เดินอยู่ริมบาทวิถีที่ต่างจังหวัด ก็มีผู้หญิงที่ขายน้ำเต้าหู้อยู่ในร้านเดินออกมาทักว่าเคยเจอกันเมื่อหลายปีก่อน ก็เลยถามว่าเคยเจอกันด้วยเรื่องอะไร พี่สาวคนนี้ก็เลยบอกว่าเป็นแม่ของคนที่บริจาคหัวใจแล้วคุณบินมารับเอาหัวใจลูกชายบินไปกรุงเทพ ก็รู้สึกตื่นเต้นดีใจบอกเขาไปว่าป่านนี้เป็นเทวดาไล่จีบนางฟ้าอยู่บนสวรรค์แล้ว ไม่ต้องไปห่วงเขาเลย
พี่เขายังมีน้ำใจถามว่าแล้วหัวใจลูกเขาเวิร์คอยู่มั้ย ได้อธิบายไปว่าเวิร์คอย่างดี ไม่เคยได้รับรายงานว่ามีปัญหาเลย คนไข้ที่คุณหมอพัชร อ่องจริต เปลี่ยนหัวใจให้ยังแข็งแรงดีทุกคน หัวใจของลูกพี่ยังเต้นอยู่ในโลกนี้ถึงแม้เขาไปเป็นเทวดาบนสวรรค์แล้ว ได้เห็นแววตาของคนที่เป็นแม่มีความสุขมาก ขึ้นรถมาก็ปาดน้ำตาด้วยความตื้นตัน…ขอบคุณหมอพัชรเพื่อนเลิฟที่มอบโอกาสให้ได้ทำสิ่งดีๆ ขอบคุณมากๆ” พร้อมติดแฮ้ชแท็ก #หัวใจติดปีก
หลังจากฟังเรื่องราวแล้ว เชื่อว่าหลายคนคงตื้นตันใจไปกับ “หมอหนู” ด้วยผลลัพธ์ของการทำความดี ที่ได้กลับมาเป็นความสุขในหัวใจตลอดไป
บรรจง.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
กัดไม่ปล่อย
ไม่ปล่อยผ่านเด็ดขาด!! หลัง “หัวหน้าตุ๋ย” พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ และอดีตรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ที่เคยกำกับดูแลเรื่องน้ำมันและพลังงานของประเทศไทย และทิ้งผลงานการตรากฎหมายต่างๆ ด้านพลังงาน เพื่อคนไทยไว้ในรัฐบาลที่ผ่านมา
'ไผ่' มา 'ไอซ์' ไป
การเลือกตั้งครั้งนี้คึกคัก หลายพรรคเนื้อหอม มีนักการเมืองทยอยมาสมัครไม่ขาดสาย หนึ่งในนั้นคือพรรคกล้าธรรมของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรค ที่ราวกับมีแม่เหล็กดึงดูดบรรดา สส.
‘เซนส์’ ที่ดี
นอกจาก “นายกฯ หนู” อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีคนที่ 32 จะเป็นคนเหนือโพล ดวงดี และจังหวะตัดสินใจทางการเมืองดีแล้ว
'เสือกระดาษ' ยามสงคราม
สถานการณ์ชายแดนไทย-เขมรยังคงเดือดขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่เดือน ก.ค. 68 ที่ปะทะกันแถวปราสาทตาเมือนธม จนเลือดตกยางออก พลเรือนไทยเจ็บตายระนาว โรงพยาบาลโดนถล่ม แต่ทำไม คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.)
“พบกันในสนามอ่างทอง”
ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ก่อนที่จะมีการยุบสภา ในที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา เพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในวันที่ 10 และ 11 ธ.ค.ที่ผ่านมา
สู้เต็มที่
เตรียมพร้อมเข้าสู่สนามเลือกตั้งกันทุกพรรคในเวลานี้ ภายหลังรัฐบาลประกาศยุบสภา ซึ่งหนึ่งในพรรคที่พร้อมสู้ศึกเลือกตั้งมากคือ พรรครวมไทยสร้างชาติ ของนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค ที่ก่อนหน้านี้ได้ร่อนแถลงการณ์ทันที โดยมองว่าการยุบสภาไม่ส่งผลดีต่อการแก้ไขปัญหาหลายสถานการณ์ที่รุมเร้าประเทศ

