
นับถอยหลังอีกไม่ถึง 10 วัน "ตำรวจ" ที่ครบเกษียณอายุราชการประจำปี 2567 จำนวน 4323 นาย ก็ต้องอำลาชีวิตราชการ
ถอดเครื่องแบบ "ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์" ออกไปเป็น "ราษฎรเต็มขั้น"
ปีนี้ "กรมปทุมวัน" ระดับ "นายพล" ครบเกษียณอายุราชการ 30 กันยายน 2567 ทั้งสิ้น 76 นาย ซึ่ง 1 ในนั้นมี ผบ.ต่อ-พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติหรอ ผบ.ตร. ร่วมอยู่ด้วย
ถือเป็นการอำลาตำแหน่ง อำลาเครื่องแบบ"ตำรวจ" อย่างสมเกียรติทุกนาย
โดยเฉพาะ "ผบ.ต่อ" ที่กว่าจะได้เกษียณอายุราชการในเครื่องแบบสีกากี ในตำแหน่ง "ผบ.ตร." ก็ต้องใช้ความอดทน ใช้ความพยายามอย่างหนัก เหมือนสำนวนที่ว่า
"การได้แชมป์ว่ายากแล้ว การรักษาแชมป์ยากยิ่งกว่า"
ห้วงเวลา 1 ปี บนเก้าอี้ "ผบ.ตร." ของ "ผบ.ต่อ" ต้องยอมรับว่าไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เหมือนช่วงขึ้นลิฟท์ ทุกอย่างก้าวเต็มไปด้วยขวากหนาม เต็มไปด้วยปัญหา มีความขัดแย้งเกิดขึ้นภายใน "สำนักงานตำรวจแห่งชาติ" จน "ผบ.ต่อ." ถูกคำสั่งเด้งไปประจำสำนักนายกฯ
ยิ่งอยู่ยิ่งนาน ยิ่งอยู่ยิ่งทำให้มีข่าวลือมากมาย ถึงขนาดหลายคนมองกันว่าโอกาสที่ ผบ.ต่อ จะไม่ได้กลับเข้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติอีกครั้ง
มีโอกาสเกษียณอายุราชการตำแหน่ง "ผบ.ตร. นอกรั้วปทุมวันสูงมาก
กระทั่งผ่านไป 3-4 เดือน นายกฯเศรษฐาขณะนั้นก็เซ็นคำสั่งให้ "ผบ.ต่.อ" กลับเข้ารั่วปทุมวันอีกครั้ง แต่ทุกอย่างก็ใช่ว่าจะจบ เรื่องร้องเรียน ผบ.ต่อ เกี่ยวกับการพัวพันเว็บพนันก็ตามหลอน ตามขุดมากระแซะตลอด จนมีข่าวลือการกลับมาครั้งนี้ของ "ผบ.ต่อ" เพื่อ "ลาออก" จากตำแหน่ง
ลดแรงกดดัน ลดแรงเสียดทาน!!!
แม้ "ผบ.ต่อ" จะออกมาปฎิเสธเสียงแข็งไม่มีความคิด "ลาออก" แต่กระแสข่าวดังกล่าวก็ไม่จางหายไป
จนเข้าสู่เดือนกันยายน เดือนสุดท้ายในชีวิตราชการทุกย่างถึงชัดเจนว่า ผบ.ต่อ. จะนั่งเก้าอี้ "ผบ.ตร." ไปจนถึงวันเกษียณอายุราชการ
ในวันจันทร์ที่ 30 กันยายน 2567 "สำนักงานตำรวจแห่งชาติ" จะมีพิธีรับ-ส่งมอบหน้าที่ ผบ.ตร. ระหว่างผบ.ต่อกับ ผบ.ตร.คนใหม่ เวลา 15.00 น. ห้องศรียานนท์ ชั้น 2 อาคาร 1 ตร.
โดย ผบ.ต่อ พร้อม ผบ.ตร.คนใหม่ ขึ้นแท่นรับความเคารพ และเดินตรวจแถวกองเกียรติยศ จากนั้น
จะไปวางพานพุ่มประดับดอกไม้สักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ ร.4 และไปถวายความเคารพพระบรมรูปหล่อ ร.9 รวมทั้งไปยังห้องศรียานนท์ ทำพิธีลงนามในเอกสารการรับ-ส่งมอบหน้าที่ มอบตราประจำตำแหน่ง ผบ.ตร.
และธงประจำตำแหน่ง ให้กับ ผบ.ตร.คนใหม่
ช่วงสุดท้ายจะมีการตั้งแถวจากตำรวจเพื่อมอบดอกไม้แสดงความเคารพ ท่ามกลางเสียงปรบมือ การทำความเคารพของกองรักษาการณ์ ผบ.ต่อ ขึ้นรถที่หน้าอาคาร เดินทางออกจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
เป็นการอำลาชีวิตราชการตำรวจ และอำลาตำแหน่ง "ผบ.ตร." อย่างสง่างามสมเกียรติ
ส่วนคดีความ การร้องเรียนเรื่องต่างๆ ก็ไปแก้ต่าง ไปแก้ตัว หลังจากนี้ต่อไป.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
หรือทิ้งทวน?
ดูเหมือนสำนวนไทยที่ว่า "ขึ้นต้นเป็นลำไม้ไผ่ พอเหลาลงไปกลายเป็นบ้องกัญชา" กำลังถูกนำมาค่อนแคะ เหน็บแนม การแต่งตั้งโยกย้าย "ตำรวจ" ทั้งในระดับ "นายพล" และระดับ "นายพัน" ที่ผ่านมา
ตำรวจไม่เลวไปหมด
ใครจะว่า ใครจะกล่าวหา "ตำรวจ" เป็นองค์กรอาชญากรรม คนพูด คนกล่าวหาก็รู้อยู่แก่ใจ เพราะตัวเองก็เคยอาศัยชายคา อาศัยร่มเงาองค์กร "ตำรวจ" มาเกือบครึ่งค่อนชีวิต
'200 สีกากี' หนาว!
มาพร้อมกับอากาศเย็นๆ ปลายเดือนพฤศจิกายน อาการ "หนาวสะท้าน" ในแวดวง "สีกากี" ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อการแต่งตั้ง "นายพัน" วาระประจำปี 2568
ขยายเก้าอี้ 'นายพัน'
หากไม่มีเรื่อง "สาวไส้ให้กากิน" อย่างกรณี "ตำรวจ" แฉ "ตำรวจ" บางกลุ่ม บางพวก บางคน เข้าไปเกี่ยวข้องกับการรับผลประโยชน์ เกี่ยวข้องกับการรับส่วย
องค์กรอาชญากรรมหรือ?
เห็นด้วยกับท่าที ผบ.ตร.-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ที่ไม่ออกมาตอบโต้ ออกมาโต้เถียง กับข้อกล่าวหาของ "อดีตตำรวจใหญ่" ที่บอกผ่านสื่อว่า "สำนักงานตำรวจแห่งชาติ" เป็นองค์กรอาชญากรรมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย!!!
ตั้ง 'นายพล-นายพัน'
น่าจะต้องบันทึกเป็นประวัติศาสตร์ "กรมปทุมวัน" อีกครั้ง การแต่งตั้ง "สีกากี" จะมีทั้ง "นายพล" และ "นายพัน" เกิดขึ้นภายในเดือนเดียว

