
ในที่สุด “แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรีคนที่ 31 ก็สืบสันดาน “อาปู” ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีคนที่ 28 จนได้ ในเรื่องโป๊ะแตกว่าด้วยการสัมภาษณ์ ซึ่งกรณี “นายกฯ แคตวอล์ก” นั้นแม้จะมีหลายครั้งหลายครา แต่ดูเหมือนเป็นการผิดจากกรณีอ่านผิดอ่านถูกเสียเป็นส่วนใหญ่ แต่กรณีที่เกิดขึ้นของ “นายกฯ อิ๊งค์” นั้น ต้องบอกว่า สะท้อนชัดถึงความไม่รู้และไม่ทำการบ้านอย่างชัดเจน โดยเฉพาะเรื่อง “ค่าเงินบาท” ที่แข็งค่าขึ้นแล้วแถลงว่าดีต่อการส่งออก และแม้ต่อมาจะมีการแถลงแก้ต่างอีกครั้งแต่ก็ต้องบอกว่าไม่ทันแล้ว เพราะอย่าลืมว่าคำพูดของนายกฯ และผู้นำประเทศนั้น ไม่ใช่ตาสีตาสาที่จะพูดกลับไปกลับมา ...๐
ที่สำคัญดูเหมือน “แพทองธาร” ก็ยังไม่ยอมรับความผิดพลาดของตัวเองในความไม่รู้อีกต่างหาก เพราะก่อนที่จะมีการแถลงรอบสองก็ขึ้นต้นทันทีว่า “เมื่อสักครู่ตอนแถลงข่าวมีหลายคำถามทำให้เข้าใจผิด พูดไปฟังแล้วสับสนเอง” ซึ่งก่อนหน้านี้ในเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราว่าด้วยเรื่องการแก้ไขมาตรฐานทางจริยธรรมของนักการเมือง เมื่อถูกถามเรื่องดังกล่าว “อุ๊งอิ๊งค์” ก็บอกว่าสื่อมวลชนถามยั่วยุ และขอร้องสื่อว่าอย่าถามแบบนี้ พิโธ่! ก็คนประกาศปาวๆ ว่าด้วยการแก้ไขดังกล่าวและเอาแน่นั้น ก็หน้าสลอนยืนประกบอยู่ข้างหลัง ไม่ว่าจะเป็น “ภูมิธรรม เวชยชัย” รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม รวมถึง “ชูศักดิ์ ศิรินิล” รมต.ประจำสำนักนายกฯ ก็ให้ข่าวเองว่าร่างเสร็จแล้ว แต่พอโดนจี้ถามกลับบอกยั่วยุ ไม่ต่างจากเรื่องเงินบาทก็บอกว่ามีหลายคำถามเลยเข้าใจผิด ...๐
งานนี้จึงไม่แปลกที่ “นายกฯ อิ๊งค์” จะถูกโลกโซเชียลอำกันวายป่วงถึงความรู้ความสามารถในเรื่องบ้านเมืองและเศรษฐกิจ โดยเฉพาะ “ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล” ประธานกรรมการด้านวิชาการ พรรคพลังประชารัฐ และอดีตขุนคลัง ถึงกับต้องโพสต์สอนเรื่องค่าเงินให้นายกรัฐมนตรีเหมือนเป็นเด็กเรียนเศรษฐศาสตร์ 101 กันเลยทีเดียว ไม่นับ “นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม” ประธานพรรคไทยภักดี ที่โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า “เราควรสงสารใครดี ระหว่างประชาชน คนผลักดัน หรือตัวอุ๊งอิ๊งค์” ...๐
พูดถึงเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญในหมวดจริยธรรมนักการเมืองแล้ว ไม่เอ่ยถึง “โต้โผ” ใหญ่อย่างพรรคประชาชนไม่ได้ ซึ่งแม้มีเพียง 12 มาตรา แต่ต้องบอกว่ายิ่งกว่าสุดซอย เพราะมันทะลุซอยกันเลยทีเดียว แต่ทำขำไม่ออกคือ แม้ปากพร่ำบอกว่าเป็นเรื่องสำคัญระดับนับเบอร์วัน แต่ “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” ประธานคณะก้าวหน้า ที่มีสถานะไม่ต่างจาก “ทักษิณ ชินวัตร” ต่อพรรคเพื่อไทย ก็บอกว่าไม่ได้ติดตาม ไม่รู้รายละเอียด ต้องไปถาม “พริษฐ์ วัชรสินธุ” และ “ปิยบุตร แสงกนกกุล” กัน ...๐
ส่วน “ณัฐวุฒิ บัวประทุม” สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ก็กล่าวในท่วงทำนองเดียวกันว่า ต้องถาม “ไอติม” ที่เป็นผู้เสนอร่าง พระเจ้าจอร์จ! นี่พรรคเดียวกันแท้ๆ ยังตอบไม่ได้ แล้วที่น่าสนใจเข้าไปอีกคือ “ณัฐวุฒิ” เซ็นเข้าชื่อด้วยหรือไม่อย่างไร เพราะหากเซ็นด้วยมันก็สะท้อนว่าไม่ได้ศึกษาหรือดูรายละเอียดในร่างกฎหมายที่เสนอเลยเหรอ แล้วที่ แถลงแต่ละครั้งแต่ละทีว่าเป็นการแก้ไขเพื่อประโยชน์ต่อประชาชนนั้น เป็นการท่องแบบนกแก้วนกขุนทองหรือไม่อย่างไร เพราะไม่สามารถตอบรายละเอียดได้ ...๐
แล้วที่บอกว่า “ทะลุซอย” นั้น แม้มีเพียง 12 มาตรา แต่ต้องเรียกว่า “พรรคเพื่อไทย” ของบิ๊กอ้วนยังอายม้วนเลยทีเดียว เพราะเล่นเสนอ ตัดเหี้ยนกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับคำว่าจริยธรรมและซื่อสัตย์สุจริตออก 10 มาตรา รวมทั้งยังริบดาบอำนาจของ “คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ” หรือ ป.ป.ช. รวมทั้งยังมีการแก้ไขโทษร่ำรวยผิดปกติและทุจริตต่อหน้าที่ โดยให้ตัดสิทธิสมัครเลือกตั้งสูงสุด 5 ปี และยังให้ปลดล็อกสิทธิเลือกตั้ง ก็ไม่รู้ว่า 12 มาตราดังกล่าวที่ “ณัฐวุฒิ” เจื้อยแจ้วเป็นนกแก้วนกขุนทองว่าเป็นประโยชน์ของประชาชนนั้นอยู่ในข้อไหน มาตราใด เพราะเห็นชัดๆ ว่าเป็น การปลุกผีนักการเมืองสีเทา และนักกินเมืองให้กลับมาโลดแล่นในสนามการเมืองมากกว่า แบบนี้หรือเป็นแนวคิดของ “นักการเมืองรุ่นใหม่” มิน่า “บิ๊กอ้วน” ถึงกับยกนิ้วเชียร์เรื่องการแก้ไขกฎหมายจริยธรรมของพรรค ปชน.อยู่เนืองๆ ...๐
ทิ้งท้ายด้วยข่าวดีของนักการเมืองทั้งหลาย โดยเฉพาะบรรดาสมาชิกพรรคเพื่อไทยที่พลาดหวังจากเก้าอี้รัฐมนตรี เพราะล่าสุด “ณัฐฏ์จารี อนันตศิลป์” เลขาธิการคณะรัฐมนตรี บอกแล้วว่าอยู่ระหว่างการตรวจสอบคุณสมบัติข้าราชการการเมือง ซึ่งสัปดาห์หน้าอาจเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้ ที่สำคัญยังเป็นล็อตใหญ่เสียด้วย งานนี้ก็ถึงเวลาแจกเค้กและสมนาคุณทั้งเงินทั้งตำแหน่งให้กับผู้ตกเก้าอี้ดนตรีรัฐมนตรีกันแล้ว ...๐
ท.ศักดิ์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
บันทึกหน้า 4
น้ำลด การเมืองผุด! หลังเพลาไปช่วงมหาวิปโยคใต้ เวลานี้กลับมาร้อนฉ่าอีกรอบ ช่วงเย็นพุธที่ผ่านมา คล้อยหลัง "นายกฯ อนุทิน" แถลงโชว์ถอนรากสแกมเมอร์เขมรยึดทรัพย์หมื่นล้าน
บันทึกหน้า 4
ต้องยอมรับว่าแม้ “มหาอุทกภัยในภาคใต้” เริ่มคลี่คลายเข้าสู่จุดการเยียวยา-ฟื้นฟูแล้วก็ตามที แต่ยอดผู้เสียชีวิตและความเสียหายก็ยังไม่นิ่งเสียทีเดียว แต่อย่างไรยอดผู้เสียชีวิตก็คงไม่ถึงพันศพตามที่ “พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล” อดีต รอง ผบ.ตร. วาดหวังแน่ๆ แล้ว
บันทึกหน้า 4
หลังวิกฤตน้ำท่วม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา คลี่คลาย น้ำตาก็ท่วมเมือง เมื่อชาวหาดใหญ่เห็นสภาพบ้านเรือนของตัวเองกลายเป็นซากปรักหักพัง ทรัพย์สินที่สร้างมาพังพาบไปกับกระแสน้ำแทบสิ้นเนื้อประดาตัว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ร่วมประชาสัมพันธ์กิจกรรมความร่วมมือ “รวมใจไทย ฟื้นแดนใต้” ซึ่งรัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์เป็นแกนกลางในการประสานงานร่วมกับภาคเอกชนและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
บันทึกหน้า 4
ภายใต้วิกฤตหาดใหญ่ครั้งนี้ ผู้นำรัฐบาลอย่าง อนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ และ รมว.มหาดไทย ถูกเรียกร้องให้แสดงความรับผิดชอบ แม้ต้นตอของปัญหาไม่ได้มาจากเขาคนเดียว
บันทึกหน้า 4
ขึ้นต้นเดือนสุดท้ายของปี บรรยากาศสังคมไทยยังคงซึมๆ เศร้าๆ อยู่กับเหตุและเภทภัยที่พี่น้องชาวใต้กำลังเผชิญ "น้ำลดตอผุด" ถูกขุดขึ้นมาเป็นรายวัน เหมือนมีใครบางคนกำลังช่วงชิงสถานการณ์หวัง "ตีกิน" สร้างดรามา แต่งคอนเทนต์ไล่ล่าเอาคะแนนนิยมคืนจากรัฐบาลที่นำโดยพรรคภูมิใจไทย
บันทึกหน้า 4
น้ำใจไทยไม่เคยเหือดแห้ง ถนนทุกสายจากทั่วประเทศมุ่งสู่ใต้ โดยเฉพาะ "มหาวิปโยคหาดใหญ่" ไม่ใช่แค่ทั้งเมืองจมบาดาล ทรัพย์สินเสียหาย แต่รวมถึงชีวิตที่ประเมินค่าไม่ได้ ซึ่งมีการอัปเดตตัวเลขช่วงเย็น 27 พ.ย.

