
“ไทยโพสต์ อิสรภาพแห่งความคิด” หลังตามตูดพรรคส้มอยู่นาน แต่พอเปลี่ยนผู้นำทัพจาก “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” มาเป็น “เท้ง” ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ พรรคประชาชน เล่นเอากระทบต่อความนิยม สะท้อนผ่านผลนิด้าโพล ที่หล่นไปเป็นที่ 3 ขณะที่ อุ๊งอิ๊งค์-แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ได้ขึ้นเป็นที่ 1 เป็นโอกาสให้คนของรัฐบาลออกมาตีปี๊บทันที
เทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.พรรคประชาธิปัตย์ วิเคราะห์เรื่องนี้ ภายใต้หัวข้อระบุว่า ทำไม “อุ๊งอิ๊งค์” โดดเด่นกว่า “เท้ง” โดยมีรายละเอียดว่า ผลปรากฏว่า อันดับ 1 ร้อยละ 31.35 เป็น นางสาวแพทองธาร (อุ๊งอิ๊งค์) ชินวัตร (พรรคเพื่อไทย) อันดับ 2 ร้อยละ 23.50 ยังหาคนที่เหมาะสมไม่ได้ อันดับ 3 ร้อยละ 22.90 เป็น นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ (พรรคประชาชน) อันดับ 4 ร้อยละ 8.65 เป็น นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค (พรรครวมไทยสร้างชาติ) อันดับ 5 ร้อยละ 4.80 เป็นคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ (พรรคไทยสร้างไทย)
แต่ผลการสำรวจความนิยมของพรรคการเมือง พบว่า อันดับ 1 ร้อยละ 34.25 เป็น พรรคประชาชน อันดับ 2 ร้อยละ 27.15 เป็น พรรคเพื่อไทย อันดับ 3 ร้อยละ 15.10 ยังหาพรรคการเมืองที่เหมาะสมไม่ได้ อันดับ 4 ร้อยละ 9.95 เป็น พรรครวมไทยสร้างชาติ อันดับ 5 ร้อยละ 4.40 เป็น พรรคประชาธิปัตย์
จะเห็นได้ว่าคะแนนนิยมตัวบุคคล นางสาวแพทองธาร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย มีคะแนนอันดับ 1 ชนะนายณัฐพงษ์ หัวหน้าพรรคประชาชน ที่อยู่อันดับ 3 และยังมีคะแนนเสียงที่ยังหาคนเหมาะสมไม่ได้ 23.50% ซึ่งจะเป็นตัวแปรสำคัญ ทั้งนางสาวแพทองธารและนายณัฐพงษ์สามารถช่วงชิงได้ แต่ถ้านายณัฐพงษ์พัฒนาตัวเองให้เร็วขึ้น น่าจะมีโอกาสช่วงชิงคะแนนกลุ่มนี้ได้มากกว่า
แต่ถ้าดูผลการสำรวจเกี่ยวกับพรรคการเมือง พบว่าความนิยมของพรรคประชาชน เหนือกว่าพรรคเพื่อไทย ถ้าถามว่าทำไมคะแนนนิยมตัวบุคคลและพรรคการเมืองไม่มีความสัมพันธ์กัน
ผมอยากจะวิเคราะห์ว่า การที่คะแนนของนางสาวแพทองธารโดดเด่นขึ้นมา เพราะความเป็นนายกรัฐมนตรีส่วนหนึ่ง แต่ส่วนสำคัญก็คือไม่มีตัวบุคคลโดดเด่นพอที่จะเทียบเคียงกับนางสาวแพทองธารได้ เพราะนายณัฐพงษ์ ซึ่งเป็นหัวหน้าพรรคประชาชนคนใหม่ ก็ยังไม่มีบทบาทโดดเด่นและภาพลักษณ์ยังไม่เป็นที่นิยมของประชาชน ถ้าเปรียบเทียบกับนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ซึ่งดูจากผลการสำรวจสวนดุสิตพบว่า นายพิธามีคะแนนนิยม 38.43% สูงกว่านายณัฐพงษ์ที่ได้ 34.10%
ในส่วนของพรรคการเมืองนั้น พรรคประชาชนยังมีคะแนนนิยมชนะพรรคเพื่อไทยเหมือนเดิม เพราะจุดยืนและอุดมการณ์พรรคได้สืบทอดมาจากพรรคก้าวไกล ไม่เปลี่ยนแปลง จึงทำให้คะแนนนิยมยังไม่เปลี่ยนแปลงไปด้วยเช่นกัน
สิ่งที่พรรคประชาชนจะต้องพิจารณาและปรับปรุงแก้ไขนั่นก็คือ บทบาทของนายณัฐพงษ์ หัวหน้าพรรคคนใหม่ ให้เป็นที่ยอมรับและเป็นที่นิยมของประชาชน บทบาททางการเมืองต้องโดดเด่นกว่านี้ ซึ่งถ้าจะเปรียบเทียบกับบทบาทของคนในพรรคประชาชน เห็นว่านายณัฐพงษ์ ยังโดดเด่นน้อยกว่านายพิธา นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล หรือนายพริษฐ์ วัชรสินธุ ด้วยซ้ำไป
จึงเป็นปัญหาสำคัญที่พรรคประชาชนจะต้องขบคิดว่าจะทำอย่างไร ให้บทบาทของหัวหน้าพรรคโดดเด่นควบคู่กับคะแนนนิยมของพรรคในทิศทางเดียวกัน
หลังผวาปมจริยธรรมเรื่องตั้ง ครม. ลามข้าราชการการเมือง โดยวันที่ 1 ต.ค. จะเริ่มทยอยแต่งตั้ง อาทิ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี 5 คน 1.นายชัยเกษม นิติสิริ 2.นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ 3.นายเทวัญ ลิปตพัลลภ 4.นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร 5.นายจักรพงษ์ แสงมณี นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกฯ เสนอดำรงตำแหน่งโฆษกประจำสำนักนายกฯรัฐมนตรี
ส่วนของรองโฆษกประจำสำนักนายกฯ สัดส่วนพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ยังเสนอชื่อเดิมนายคารม พลพรกลาง อดีตรองโฆษกประจำสำนักนายกฯ ส่วนของพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ยังคงเสนอชื่อ น.ส.ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ อดีตผู้สมัคร สส.กทม. นั่งเป็นรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นต้น ส่วนตำแหน่งอื่นๆ ก็ทยอยหลังจากนี้ ตามโควตาของแต่ละพรรค เพื่อให้การทำงานของแต่ละหน่วยงานเต็มประสิทธิภาพ และยังเป็นการตอบแทนคนทำงานแต่ไม่ได้เป็น สส.
คางดำ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
บันทึกหน้า 4
น้ำลด การเมืองผุด! หลังเพลาไปช่วงมหาวิปโยคใต้ เวลานี้กลับมาร้อนฉ่าอีกรอบ ช่วงเย็นพุธที่ผ่านมา คล้อยหลัง "นายกฯ อนุทิน" แถลงโชว์ถอนรากสแกมเมอร์เขมรยึดทรัพย์หมื่นล้าน
บันทึกหน้า 4
ต้องยอมรับว่าแม้ “มหาอุทกภัยในภาคใต้” เริ่มคลี่คลายเข้าสู่จุดการเยียวยา-ฟื้นฟูแล้วก็ตามที แต่ยอดผู้เสียชีวิตและความเสียหายก็ยังไม่นิ่งเสียทีเดียว แต่อย่างไรยอดผู้เสียชีวิตก็คงไม่ถึงพันศพตามที่ “พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล” อดีต รอง ผบ.ตร. วาดหวังแน่ๆ แล้ว
บันทึกหน้า 4
หลังวิกฤตน้ำท่วม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา คลี่คลาย น้ำตาก็ท่วมเมือง เมื่อชาวหาดใหญ่เห็นสภาพบ้านเรือนของตัวเองกลายเป็นซากปรักหักพัง ทรัพย์สินที่สร้างมาพังพาบไปกับกระแสน้ำแทบสิ้นเนื้อประดาตัว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ร่วมประชาสัมพันธ์กิจกรรมความร่วมมือ “รวมใจไทย ฟื้นแดนใต้” ซึ่งรัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์เป็นแกนกลางในการประสานงานร่วมกับภาคเอกชนและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
บันทึกหน้า 4
ภายใต้วิกฤตหาดใหญ่ครั้งนี้ ผู้นำรัฐบาลอย่าง อนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ และ รมว.มหาดไทย ถูกเรียกร้องให้แสดงความรับผิดชอบ แม้ต้นตอของปัญหาไม่ได้มาจากเขาคนเดียว
บันทึกหน้า 4
ขึ้นต้นเดือนสุดท้ายของปี บรรยากาศสังคมไทยยังคงซึมๆ เศร้าๆ อยู่กับเหตุและเภทภัยที่พี่น้องชาวใต้กำลังเผชิญ "น้ำลดตอผุด" ถูกขุดขึ้นมาเป็นรายวัน เหมือนมีใครบางคนกำลังช่วงชิงสถานการณ์หวัง "ตีกิน" สร้างดรามา แต่งคอนเทนต์ไล่ล่าเอาคะแนนนิยมคืนจากรัฐบาลที่นำโดยพรรคภูมิใจไทย
บันทึกหน้า 4
น้ำใจไทยไม่เคยเหือดแห้ง ถนนทุกสายจากทั่วประเทศมุ่งสู่ใต้ โดยเฉพาะ "มหาวิปโยคหาดใหญ่" ไม่ใช่แค่ทั้งเมืองจมบาดาล ทรัพย์สินเสียหาย แต่รวมถึงชีวิตที่ประเมินค่าไม่ได้ ซึ่งมีการอัปเดตตัวเลขช่วงเย็น 27 พ.ย.


