
เล็งมาสักระยะแล้วครับ
วางแผนมาตั้งแต่รัฐบาลเศรษฐา จะเข้าไปครอบงำแบงก์ชาติ
เดิมทีคิดจะปลด "เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ" ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยคนปัจจุบัน ออกจากตำแหน่ง
แต่เสียงต้านแข็งแรงเกินไป
จำต้องรอให้ ผู้ว่าเศรษฐพุฒิ หมดวาระลง เดือนกันยายนปีหน้า
ระหว่างนี้จึงเดินเกมปูทาง ครอบงำผู้ว่าแบงก์ชาติคนใหม่ เป็นคนที่รัฐบาลสั่งได้
ทันทีที่ปรากฏชื่อ "กิตติรัตน์ ณ ระนอง" เต็งหนึ่ง ประธานบอร์ดแบงก์ชาติคนใหม่ ความกังวลเรื่องรัฐบาลแทรกแซงแบงก์ชาติ ก็เข้าใกล้ความจริงเข้าไปทุกที
เดิมทีจะเคาะชื่อบุคคลมาเป็น ประธานบอร์ดแบงก์ชาติคนใหม่ ตั้งแต่วานนี้ (๘ ตุลาคม) แต่ที่ประชุมบอร์ดสรรหาฯ สั่งให้ฝ่ายเลขานุการไปหาข้อมูลเพิ่มจาก ๓ ชื่อที่ส่งมา
รวมทั้ง "กิตติรัตน์ ณ ระนอง" ด้วย
นัดถกอีกที ๑๖ ตุลาคม
คณะกรรมการสรรหาประธานบอร์ด และกรรมการในบอร์ดแบงก์ชาติชุดใหม่ มีใครบ้าง
๑.นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ อดีตปลัดกระทรวงการคลัง
๒.นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร อดีตปลัดกระทรวงพาณิชย์
๓.นายวิฑูรย์ สิมะโชคดี อดีตปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม
๔.นายวรวิทย์ จำปีรัตน์ อดีตผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ
๕.นายอัชพร จารุจินดา อดีตเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
๖.นายปกรณ์ มาลากุล ณ อยุธยา อดีตเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)
๗.นายสุทธิพล ทวีชัยการ อดีตเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.)
จุดแรกที่ต้องจับตามองคือ คณะกรรมการสรรหาฯ ชุดนี้ ไม่มีอดีตผู้ว่าแบงก์ชาติ ซึ่งผิดปกติไปจาก คณะกรรมการสรรหาฯ ชุดก่อนๆ นี้
รัฐมนตรีคลัง คือคนที่ตั้งคณะกรรมการสรรหาฯ กำลังคิดอะไรอยู่
การคัดเลือกประธานบอร์ดแบงก์ชาติครั้งนี้ ผู้ที่ถูกเสนอชื่อทั้งหมด ๙ คน
แบ่งเป็นสัดส่วนของ ธปท. ๖ คน
กระทรวงการคลังอีก ๓ คน
หนึ่งในรายชื่อที่กระทรวงการคลังเสนอคือ "กิตติรัตน์ ณ ระนอง" อดีตรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง คนของระบอบทักษิณ
กำลังดำเนินไปตามแผนการที่วางไว้ใช่หรือไม่
๑๖ ตุลาคม หาก "กิตติรัตน์ ณ ระนอง" ได้รับเลือกเป็นประธานบอร์ดแบงก์ชาติ สิ่งที่จะตามมาคือ สมดุลที่จะสูญเสียไป
การเงินการคลังของประเทศจะตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของรัฐบาลอย่างเบ็ดเสร็จ
คนแบงก์ชาติถึงได้กังวลเรื่องนี้ว่าสุดท้ายจะนำไปสู่หายนะ
"ธาริษา วัฒนเกส" อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย โพสต์ข้อความเตือนอย่างตรงไปตรงมา
"...ในขณะนี้มีแต่จิตสำนึกของคณะกรรมการสรรหาประธานธนาคารแห่งประเทศไทยเท่านั้นที่จะยับยั้ง
หายนะทางเศรษฐกิจ
ที่ผ่านมารัฐบาลได้แสดงความไม่พอใจอย่างชัดเจนต่อธนาคารแห่งประเทศไทย ทั้งในเรื่องไม่ลดดอกเบี้ย และการคัดค้านนโยบายการแจกเงินหนึ่งหมื่นบาท เป็นต้น
ล่าสุดก็มีการคาดหมายว่ารัฐบาลจะส่งคนของตนเข้าไปเป็นประธานคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งวัตถุประสงค์ก็เพื่อจะได้สามารถใช้ ธปท.เป็นเครื่องมือในการสนองนโยบายของรัฐบาล
ซึ่งหากภาพนี้เกิดขึ้น หายนะของเศรษฐกิจไทยก็จะตามมาอย่างแน่นอน เหมือนที่เราเห็นในต่างประเทศที่รัฐบาลเข้าไปแทรกแซงในธนาคารกลาง การกระทำดังกล่าวทำให้ความเชื่อมั่นของต่างประเทศต่อระบบเศรษฐกิจสั่นคลอน
เพราะธนาคารกลางที่ถูกแทรกแซงจะไม่สามารถมีบทบาทในการดูแลเสถียรภาพทางเศรษฐกิจในระยะยาว เศรษฐกิจจึงเสี่ยงที่จะเสียหายจากนโยบายที่เน้นการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้นเพียงอย่างเดียว
ในกรณีของประเทศไทยนโยบายแจกเงิน ๑๐,๐๐๐ บาท ซึ่งจะเป็นภาระทางการคลังอย่างมหาศาล ก็ได้สร้างความเสี่ยงที่ประเทศจะถูกลดอันดับความน่าเชื่อถืออยู่แล้ว
หาก ธนาคารแห่งประเทศไทยถูกแทรกแซงจนขาดความเป็นอิสระ ความเสี่ยงของการ ถูกลดอันดับความน่าเชื่อถือจากนานาประเทศก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้นอีก
ผลเสียต่อธุรกิจและเศรษฐกิจ ย่อมตามมาอย่างแน่นอน
วงการเศรษฐกิจของไทยได้ชี้ให้เห็นถึงผลเสียหายอันใหญ่หลวงของการแทรกแซงธนาคารแห่งประเทศไทย แต่รัฐบาลก็ไม่ต้องการรับฟังคำเตือนเหล่านี้
ในขณะนี้ จึงมีเพียงแต่จิตสำนึกของคณะกรรมการสรรหาประธานธนาคารแห่งประเทศไทยเท่านั้น ที่มีความสำคัญอย่างยิ่งยวดในการยับยั้งไม่ให้เกิดหายนะทางเศรษฐกิจนี้
อันที่จริง กฎหมายของธนาคารแห่งประเทศไทยก็ได้คำนึงถึงความเสี่ยงของการที่กรรมการสรรหาจะถูกแทรกแซงจากทางการเมืองหากกรรมการยังอยู่ในตำแหน่งหน้าที่ทางราชการ กฎหมายจึงได้ กำหนดให้กรรมการสรรหาเป็นอดีตข้าราชการระดับสูงของหน่วยงานสำคัญทางเศรษฐกิจที่เกษียณอายุแล้วทั้งสิ้น เพื่อจะได้ปลอดภัยจากการถูกแทรกแซง
ที่ผ่านมาคณะกรรมการสรรหาตำแหน่งสำคัญๆ ของธนาคารแห่งประเทศไทยก็ได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเป็นอิสระไม่ยอมรับการแทรกแซง ผู้ที่ได้รับการสรรหาจึงเป็นผู้ที่มีความเหมาะสมที่เข้าใจบทบาทของธนาคารกลาง และสามารถปฏิบัติหน้าที่อย่างเหมาะสม เป็นที่ยอมรับของสังคม
ดิฉันจึงได้แต่คาดหวังว่าคณะกรรมการสรรหาในครั้งนี้จะสามารถทำหน้าที่ที่สำคัญนี้ด้วยหลักการเดียวกัน คงไม่มีท่านใดอยากจะถูกจารึกในประวัติศาสตร์ว่าท่านเป็นคนหนึ่งที่ต้องรับผิดชอบในการทำให้เศรษฐกิจไทยพลิกผันไปสู่ก้าวแรกของความหายนะ..."
ก็ต้องถามใจทั้ง ๗ คนข้างต้นว่า จะยึดผลประโยชน์ของประเทศเป็นสำคัญ หรือตอบสนองความต้องการของฝ่ายการเมือง
หากประตูบานแรกถูกเปิด ประธานบอร์ดแบงก์ชาติเป็นคนของรัฐบาล ประตูบานถัดไป การสรรหาผู้ว่าแบงก์ชาติ มาแทน "ผู้ว่าเศรษฐพุฒิ" ยิ่งน่ากังวลกว่าหลายเท่าตัว
แล้วจะรู้ว่าหายนะทางเศรษฐกิจอยู่ใกล้แค่เอื้่อม.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สมการเลี้ยงหลาน
โค้งแรกเลือกตั้งก็มันหยดแล้วครับ... เปิดหน้าเปิดตากันไปเกือบครบแล้ว ไม่ว่าจะเป็นว่าที่แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ว่าที่ผู้สมัคร สส.ปาร์ตี้ลิสต์ และผู้สมัคร สส.ระบบเขต
'เจ้าช่อมาลี'
มันจะอะไรกันนักกันหนา... อ่านข่าวดรามา ช่อมาลีดอกฟ้า พูดเรื่องขอให้ทหารบอกแผนการรบ อ่านเพลินจนหลุดไปอยู่ในสงครามตอนไหนก็ไม่รู้
แบบนี้เป็นใจให้ไทย
เริ่มเห็นเค้า... มีสัญญาณบางอย่างบ่งบอกว่างานนี้ “เขมร” จะซวยหนัก! หลังจาก “ตาเฒ่าทรัมป์” ขู่จะดำเนินการเอาผิดกับผู้กระทำผิดตามความจำเป็น อ้างว่าเพื่อยุติการสังหารและสร้างสันติภาพที่ยั่งยืนระหว่างไทย-กัมพูชา ไปตั้งแต่วันที่ ๑๔ ธันวาคม
รบไทยในมุมเขมร
อะไรคือเหตุให้การสู้รบระหว่างไทยกับกัมพูชาปะทุขึ้นมาอีกรอบ
'สีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว'
เลือกตั้งเที่ยวนี้ น่าจะมีคนสอบได้เป็น สส.เข้าสภาเกิน ๑ พันคน
เผด็จการสีส้ม
เป็นไงครับ... มีเทาไม่มีเรา ศาลพิพากษาจำคุก ๒ ปี อดีต สส.ลักแกง ใช้ สด.๔๓ ปลอม บัดซบ!

