
ถูกต้องแล้วอย่าไปฝืน อย่าไปศรีธนญชัย การแต่งตั้ง "ผบ.ตร." คนที่ 15 ปล่อยไปตามล็อก ตามกฎ ตามระเบียบ ตามข้อบังคับ ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะได้ไม่เหนื่อย ไม่ต้องมีปัญหาวุ่นวาย
บิ๊กต่าย-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร ขึ้นดำรงตำแหน่ง "ผบ.ตร." เป็นผู้นำองค์กรสีกากี 2 ปี ตามอายุราชการเกษียณปี 2569
ถือเป็นระยะเวลาที่เหมาะสม 2 ปีเพียงพอในการพัฒนาหน่วย พัฒนาองค์กร กอบกู้ศักดิ์ศรี "ตำรวจ" สะสางภาพพจน์เหม็นโฉ่ให้ดีขึ้นได้ ไม่มากก็น้อย เพียงแต่ขึ้นอยู่กับการติดกระดุมเม็ดแรกของ "บิ๊กต่าย" ถ้ากระดุมเม็ดแรกผิด กระดุมเม็ดต่อๆไปก็ผิดหมด
การแต่งตั้ง "นายพล" ตำแหน่ง รองผบ.ตร.และจตช. ลงมาถึง ผบก. วาระประจำปี 2567 คือจุดเริ่มต้นสำคัญในการกำหนดทิศทาง "กรมปทุมวัน"
แม้วงประชุม ก.ตร.จะอนุมัติขยายระยะเวลาการแต่งตั้ง "นายพล" วาระประจำปี ออกไปถึง 15 ธ.ค.2567 หรืออีกกว่า 2 เดือน แต่หากไล่เรียงไทม์ไลน์การแต่งตั้งก็ต้องบอกว่าไม่ได้เนิ่นนาน ไม่ได้เชื่องช้า แค่พอประชุม ก.ตร. แต่งตั้ง "ผบ.ตร." เสร็จสิ้น บิ๊กต่าย ได้รับความชัดเจนในการดำรงตำแหน่งพิทักษ์ 1 ก็เซ็นประกาศลำดับอาวุโสข้าราชการตำรวจระดับ ผู้ช่วย ผบ.ตร. และ รอง จตช. ลงมาถึง รอง ผบก.วาระประจำปี 2567
เปรียบเหมือนเสียงระฆังส่งสัญญาณการจัดทำบัญชีแต่งตั้ง "นายพล" อย่างเป็นทางการ ตามนัยมาตรา 78 แห่ง พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 เพื่อให้การคัดเลือกแต่งตั้งข้าราชการตำรวจเป็นไปตาม กฎ ก.ตร.ว่าด้วยการแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ พ.ศ.2567 ข้อ 8
เปิดโอกาสให้ "ตำรวจ" หากเห็นว่าข้อมูลในการจัดทำลำดับอาวุโสไม่ถูกต้อง สามารถยื่นเรื่องต่อ ดร. ผ่านกองทะเบียนพล เพื่อพิจารณาทบทวนภายใน 15 วัน
กระบวนการแต่งตั้ง "นายพล" เริ่มขับเคลื่อน ตรวจลำดับอาวุโสไปถึงสิ้นเดือนต.ค.จากนั้นพอเข้าสู่เดือนพ.ย.ก็อยู่ในขั้นตอน "ผบ.ตร." ออกกฎ ออกคำสั่งในการจัดทำบัญีแต่งตั้ง บอร์ดกองบังคับการ บอร์ดกองบัญชาการ บอร์ดสำนักงงานตำรวจแห่งชาติ ก็ประชุมกลั่นกรองรายชื่อกันตามลำดับชั้น ก่อนประชุม ก.ตร. พิจารณารายชื่อแต่งตั้ง เบ็ดเสร็จก็ใช้เวลาเป็นเดือน
เข้าสู่เดือนธ.ค.ก็น่าจะได้เห็นทัพใหญ่ "กรมปทุมวัน " ยุคบิ๊กต่าย
ตอนนี้หลายตำแหน่ง หลายเก้าอี้ เริ่มน่าจับตา โดยเฉพาะ 3 เก้าอี้เกรดเอ มีรายชื่อ "ตำรวจ" เข้าชิง
"ผบช.น." แทน พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ขยับขึ้น ผู้ช่วย ผบ.ตร. มีชื่อ พล.ต.ท.สันติ ชัยนิรามัย จตร.,เบียดกับ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผบช.น.
"ผบช.สอท." แทน พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ที่ลาออกก่อนเกษียณราชการ มีชื่อพล.ต.ต.มณฑล บัวจีบ รองผบช.ส. เบียดกับพล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร.
"ผบช.สตม." แทนพล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ขยับขึ้น ผู้ช่วย ผบ.ตร. มีชื่อพล.ต.ต.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ รองผบช.สตม.เบียดกับพล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผบช.สกพ.
แค่ 3 เก้าอี้หลัก ก็ลุ้นสนุกแล้ว ยังไม่รวมเก้าอี้อื่นที่ต้องบอกว่า ณ ชั่วโมงนี้
"กรมปทุมวัน" ฝุ่นตลบ!!!
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
หรือทิ้งทวน?
ดูเหมือนสำนวนไทยที่ว่า "ขึ้นต้นเป็นลำไม้ไผ่ พอเหลาลงไปกลายเป็นบ้องกัญชา" กำลังถูกนำมาค่อนแคะ เหน็บแนม การแต่งตั้งโยกย้าย "ตำรวจ" ทั้งในระดับ "นายพล" และระดับ "นายพัน" ที่ผ่านมา
ตำรวจไม่เลวไปหมด
ใครจะว่า ใครจะกล่าวหา "ตำรวจ" เป็นองค์กรอาชญากรรม คนพูด คนกล่าวหาก็รู้อยู่แก่ใจ เพราะตัวเองก็เคยอาศัยชายคา อาศัยร่มเงาองค์กร "ตำรวจ" มาเกือบครึ่งค่อนชีวิต
'200 สีกากี' หนาว!
มาพร้อมกับอากาศเย็นๆ ปลายเดือนพฤศจิกายน อาการ "หนาวสะท้าน" ในแวดวง "สีกากี" ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อการแต่งตั้ง "นายพัน" วาระประจำปี 2568
ขยายเก้าอี้ 'นายพัน'
หากไม่มีเรื่อง "สาวไส้ให้กากิน" อย่างกรณี "ตำรวจ" แฉ "ตำรวจ" บางกลุ่ม บางพวก บางคน เข้าไปเกี่ยวข้องกับการรับผลประโยชน์ เกี่ยวข้องกับการรับส่วย
องค์กรอาชญากรรมหรือ?
เห็นด้วยกับท่าที ผบ.ตร.-พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ที่ไม่ออกมาตอบโต้ ออกมาโต้เถียง กับข้อกล่าวหาของ "อดีตตำรวจใหญ่" ที่บอกผ่านสื่อว่า "สำนักงานตำรวจแห่งชาติ" เป็นองค์กรอาชญากรรมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย!!!
ตั้ง 'นายพล-นายพัน'
น่าจะต้องบันทึกเป็นประวัติศาสตร์ "กรมปทุมวัน" อีกครั้ง การแต่งตั้ง "สีกากี" จะมีทั้ง "นายพล" และ "นายพัน" เกิดขึ้นภายในเดือนเดียว

