ปรับตัวเร็ว

แม้จะรับราชการตำรวจมาตลอดชีวิต แต่คอนเนกชันการเมืองของ บิ๊กต๊ะ-พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย อดีตผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ที่ปัจจุบันสวมหัวโขน โฆษกพรรคพลังประชารัฐ กว้างขวาง

รู้จักบิ๊กการเมืองหลายพรรค ไม่ว่าจะพรรคขนาดเล็ก พรรคขนาดกลาง และพรรคขนาดใหญ่ แต่ละพรรคพร้อมอ้าแขนต้อนรับหากอดีตบิ๊กสีกากีจะกระโจนลงสนามการเมือง

แต่สุดท้าย บิ๊กต๊ะ เลือกซบพรรคพลังประชารัฐของ ลุงป้อม-พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ทั้งที่อยู่ในช่วงขาลง จะถูกเขี่ยพ้นพรรคร่วมรัฐบาลอยู่ทนโท่

พอเข้ามา ลุงป้อม ไว้ใจในฝีมือ จัดการมอบหมายให้เป็นโฆษกพรรคทันที คอยทำหน้าที่ชี้แจงแถลงไข ตลอดจนตอบโต้ทางการเมือง

เรื่องแถลง ชี้แจง อธิบาย ไม่ใช่งานยาก เพราะสมัย บิ๊กต๊ะ รับราชการเป็นตำรวจเคยทำหน้าที่โทรโข่งมาแล้ว จึงสบายไร้ปัญหา

แต่โจทย์ใหญ่น่าจะอยู่ที่การตอบโต้ประเด็นการเมือง เพราะ บิ๊กต๊ะ เป็นอดีตข้าราชการ เพิ่งเกษียณหยกๆ จะกล้าทำหรือไม่ เพราะใหม่มากในทางการเมือง

อีกอย่างมีคอนเนกชันมากมาย การไปตอบโต้หรือปะทะ อาจจะเป็นการสร้างศัตรูทางการเมืองโดยไม่จำเป็น ทั้งที่ลงเล่นเป็นปีแรก

แต่พอเอาเข้าจริง กลายเป็นงานหมูๆ ของ บิ๊กต๊ะ ไปเลย นอกจากการแถลงที่ชัดถ้อยชัดคำแล้ว ไม่เยิ่นเย้อ แถมประเด็นยังแหลมคม

ไม่ได้เป็นประเภทตีหัวหมาด่าแม่เจ๊ก แต่ตอบโต้โดยมีหลักมีผล เป็นมวยสากล ไม่ใช่มวยวัด หลายครั้งสวนแต่ละหมัดกลับไปที่ฝ่ายตรงข้ามเจ็บจี๊ด

อย่างล่าสุด ประเด็นดิไอคอน บิ๊กต๊ะ เปิดปฏิบัติการฉายตัวย่อนักการเมืองที่พัวพันดิไอคอน ชนิดที่ว่า คนฟังรู้ว่าใคร แต่เล่นงานทางกฎหมายไม่ได้

แม้ฝ่ายตรงข้ามจะตอบโต้ว่า เป็นโฆษกหน้าใหม่ ต้องเรียนรู้อีกเยอะ แต่ดูแล้ว บิ๊กต๊ะ ไม่กลัว ใหม่แล้วไง ในเมื่อคนมันมีของ!.

ฌ.เฌอ

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

กัดไม่ปล่อย

ไม่ปล่อยผ่านเด็ดขาด!! หลัง “หัวหน้าตุ๋ย” พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ และอดีตรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ที่เคยกำกับดูแลเรื่องน้ำมันและพลังงานของประเทศไทย และทิ้งผลงานการตรากฎหมายต่างๆ ด้านพลังงาน เพื่อคนไทยไว้ในรัฐบาลที่ผ่านมา

'ไผ่' มา 'ไอซ์' ไป

การเลือกตั้งครั้งนี้คึกคัก หลายพรรคเนื้อหอม มีนักการเมืองทยอยมาสมัครไม่ขาดสาย หนึ่งในนั้นคือพรรคกล้าธรรมของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรค ที่ราวกับมีแม่เหล็กดึงดูดบรรดา สส.

‘เซนส์’ ที่ดี

นอกจาก “นายกฯ หนู” อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีคนที่ 32 จะเป็นคนเหนือโพล ดวงดี และจังหวะตัดสินใจทางการเมืองดีแล้ว

'เสือกระดาษ' ยามสงคราม

สถานการณ์ชายแดนไทย-เขมรยังคงเดือดขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่เดือน ก.ค. 68 ที่ปะทะกันแถวปราสาทตาเมือนธม จนเลือดตกยางออก พลเรือนไทยเจ็บตายระนาว โรงพยาบาลโดนถล่ม แต่ทำไม คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.)

“พบกันในสนามอ่างทอง”

ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ก่อนที่จะมีการยุบสภา ในที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา เพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในวันที่ 10 และ 11 ธ.ค.ที่ผ่านมา

สู้เต็มที่

เตรียมพร้อมเข้าสู่สนามเลือกตั้งกันทุกพรรคในเวลานี้ ภายหลังรัฐบาลประกาศยุบสภา ซึ่งหนึ่งในพรรคที่พร้อมสู้ศึกเลือกตั้งมากคือ พรรครวมไทยสร้างชาติ ของนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค ที่ก่อนหน้านี้ได้ร่อนแถลงการณ์ทันที โดยมองว่าการยุบสภาไม่ส่งผลดีต่อการแก้ไขปัญหาหลายสถานการณ์ที่รุมเร้าประเทศ