
ไทยโพสต์ อิสรภาพแห่งความคิด...มาตามเรื่องร้อนในสังคมการเมืองไทยตอนนี้แบบเต็มๆ นั่นก็คือ หลังคณะรัฐมนตรีเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรฯ เมื่อวันจันทร์ที่ 13 ม.ค.ที่ผ่านมา ที่มีสาระสำคัญคือ การให้มีการเปิด "กาสิโน” พบว่ายังคงทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ ตามมาอย่างหนักหน่วง..สังศิต พิริยะรังสรรค์ อดีตสมาชิกวุฒิสภา-นักวิชาการที่ศึกษาติดตามเรื่องเศรษฐกิจนอกกฎหมาย-ธุรกิจใต้ดิน มาหลายสิบปี ตั้งแต่สมัยเป็น ผอ.ศูนย์ศึกษาเศรษฐศาสตร์การเมือง คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาฯ และทำวิจัยเรื่องการเปิดกาสิโนในประเทศไทย
มองว่า แรงจูงใจของรัฐบาลในการให้มีการเปิดกาสิโนก็คือ จะเป็นแหล่งรายได้ที่เป็นเม็ดเงินเป็นเรื่องหลักมากกว่าสิ่งอื่น แต่สิ่งที่รัฐบาลต้องระมัดระวัง มีสามเรื่องคือ หนึ่ง เรื่องการมีผลประโยชน์ทับซ้อน เพราะหากรัฐบาลเข้าไปมีผลประโยชน์เกี่ยวข้องกับกาสิโน จะทำให้ระบบการเมือง ข้าราชการและสังคมเสียหายอย่างรุนแรง สอง การจะให้ไปเปิดกาสิโนที่ไหน ต้องฟังเสียงประชาชนในพื้นที่ด้วย ที่จะให้เปิดกัน 10 แห่ง ไม่ว่าจะเปิดที่ไหน ต้องฟังเสียงประชาชนในพื้นที่ว่าเขาอยากได้กาสิโนไปเปิดหรือไม่ อย่างภูเก็ต ที่ตอนนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับพรีเมียมของโลก ประชาชนที่ภูเก็ตไม่ต้องการกาสิโน แต่รัฐบาลก็บอกจะให้ไปเปิด หากรัฐบาลไม่ฟังเสียงประชาชน จะเกิดความขัดแย้งในสังคม เรื่องที่สามคือ การบังคับใช้กฎหมาย เพราะก่อนที่จะทำกาสิโน ต้องปฏิรูปตำรวจให้สุจริตก่อน เพราะทุกวันนี้บ่อนการพนันที่ผิดกฎหมาย ตำรวจก็ปราบไม่ได้ เอาชนะไม่ได้ บ่อนการพนันเทียบกับกาสิโนไม่ได้เลย ขนาดเงินแค่นั้นยังปราบไม่ได้ แล้วมาเป็นกาสิโนจะทำให้บังคับใช้กฎหมายโดยถูกต้องได้อย่างไร จะกลายเป็นแหล่งที่เงินสีเทาหรือเงินสีดำ เข้ามาฟอกผ่านกาสิโนได้..ก็ เป็นคำเตือน ข้อเสนอแนะที่รัฐบาลควรรับฟัง
และที่หลายคนอยากรู้ก็คือ ท่าทีของพรรคฝ่ายค้าน "พรรคประชาชน” มองเรื่องนี้อย่างไร หนุนหรือค้าน ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน-ผู้นำฝ่ายค้าน แสดงท่าทีไว้ว่า ที่กังวลใจคือผลกระทบที่จะเกิดขึ้นทางสังคม และสิ่งที่รัฐบาลอาจจะยังไม่ได้ให้ความชัดเจนมากคือ ถึงแม้บ่อนการพนันจะมีแค่ 10% จากโครงการทั้งหมด แต่สิ่งที่เรากังวลคือผลกระทบที่ตามมา ข้อเสนอของเราตั้งแต่สมัยพรรคก้าวไกลคือต้องมีการตรวจสอบเรื่องฐานรายได้ ต้องอยู่ในระบบภาษีเงินได้ เรายังไม่เห็นว่ารัฐบาลมีมาตรการป้องกันอะไร รวมถึงข้อกังวลหนึ่งก็คือเรื่องทุนจีนสีเทา ส่วนเรื่องทุนจดทะเบียนสำหรับผู้ประกอบการ 10,000 ล้านบาท จะทำให้เอื้อต่อนายทุนหรือไม่ ประเด็นสำคัญคือเรื่องความโปร่งใสและเงื่อนไขในการให้สัมปทาน ไม่ว่าจะเป็นทุนจดทะเบียนที่ดูสูงมาก รวมถึงกระบวนการผู้ได้รับการคัดเลือกผู้ได้รับสัมปทานด้วยเช่นเดียวกัน เราไม่ได้คัดค้านกาสิโน บ่อนการพนันที่ถูกกฎหมาย เราเชื่อว่าถ้าเราสามารถจัดการ ภาครัฐสามารถบริหารได้อย่างดี ก็สามารถแก้ไขปัญหาสังคมได้ส่วนหนึ่ง แต่วัตถุประสงค์จริงๆ ที่บอกว่าเป็น Man-made Destination ใช้เรื่องการส่งเสริมการท่องเที่ยว แต่กลับเอาเรื่องนี้มาครอบเพื่อจะผลักดันบ่อนกาสิโน อันนี้เป็นประเด็นที่เราตั้งข้อสงสัย สิ่งที่เราอยากได้ความชัดเจนก็คือเรื่องมาตรการที่จะป้องกันปัญหาสังคมและความโปร่งใสในการให้สัมปทาน ... สรุปก็คือ พรรคประชาชนไม่คัดค้านกาสิโน แต่ขอให้ทำทุกอย่างให้ตรงไปตรงมานั่นเอง
ปิดท้ายที่ทัศนะของภาคประชาสังคม-เอ็นจีโอที่ติดตามเรื่องนี้มาตลอด ธนากร คมกฤส เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์หยุดพนัน ตั้งข้อสังเกตเรื่องเงื่อนไขของบริษัทที่จะได้รับใบอนุญาตให้ทำ “เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์”ที่ต้องเป็นบริษัทที่จดทะเบียนในประเทศไทยที่มีทุนชำระแล้วไม่ต่ำกว่าหนึ่งหมื่นล้านบาทว่า กลุ่มที่จะเข้ามาทำธุรกิจนี้ด้วยอาจจะมีทุนการเมืองเข้ามาจับมือด้วย กับกลุ่มทุนไทยและทุนต่างชาติ กลายเป็นทุนสามฝ่ายในการทำสถานบันเทิงครบวงจรคือ ทุนไทย-ทุนต่างชาติ-ทุนกลุ่มการเมือง โดยผลการศึกษาของกลุ่มนักวิชาการพบว่า โมเดลนี้เกิดขึ้นแทบทุกประเทศในประเทศเพื่อนบ้านเรา อย่างกาสิโนตามชายแดนประเทศไทย ก็พบว่ากลุ่มที่ทำกาสิโนก็จะมีสามกลุ่มทุนหลักคือ กลุ่มทุนการเมืองในประเทศ-กลุ่มทุนต่างชาติที่ทำกาสิโน และกลุ่มทุนธุรกิจท้องถิ่น ที่คือสูตรสำเร็จของการเปิดกาสิโน..ประเด็นเรื่องกาสิโนตอนนี้จึงกลายเป็นประเด็นร้อนทางการเมือง-สังคม ที่ต้องติดตามกันยาวๆ.
"พายุหมุน”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
บันทึกหน้า 4
น้ำลด การเมืองผุด! หลังเพลาไปช่วงมหาวิปโยคใต้ เวลานี้กลับมาร้อนฉ่าอีกรอบ ช่วงเย็นพุธที่ผ่านมา คล้อยหลัง "นายกฯ อนุทิน" แถลงโชว์ถอนรากสแกมเมอร์เขมรยึดทรัพย์หมื่นล้าน
บันทึกหน้า 4
ต้องยอมรับว่าแม้ “มหาอุทกภัยในภาคใต้” เริ่มคลี่คลายเข้าสู่จุดการเยียวยา-ฟื้นฟูแล้วก็ตามที แต่ยอดผู้เสียชีวิตและความเสียหายก็ยังไม่นิ่งเสียทีเดียว แต่อย่างไรยอดผู้เสียชีวิตก็คงไม่ถึงพันศพตามที่ “พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล” อดีต รอง ผบ.ตร. วาดหวังแน่ๆ แล้ว
บันทึกหน้า 4
หลังวิกฤตน้ำท่วม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา คลี่คลาย น้ำตาก็ท่วมเมือง เมื่อชาวหาดใหญ่เห็นสภาพบ้านเรือนของตัวเองกลายเป็นซากปรักหักพัง ทรัพย์สินที่สร้างมาพังพาบไปกับกระแสน้ำแทบสิ้นเนื้อประดาตัว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ร่วมประชาสัมพันธ์กิจกรรมความร่วมมือ “รวมใจไทย ฟื้นแดนใต้” ซึ่งรัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์เป็นแกนกลางในการประสานงานร่วมกับภาคเอกชนและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
บันทึกหน้า 4
ภายใต้วิกฤตหาดใหญ่ครั้งนี้ ผู้นำรัฐบาลอย่าง อนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ และ รมว.มหาดไทย ถูกเรียกร้องให้แสดงความรับผิดชอบ แม้ต้นตอของปัญหาไม่ได้มาจากเขาคนเดียว
บันทึกหน้า 4
ขึ้นต้นเดือนสุดท้ายของปี บรรยากาศสังคมไทยยังคงซึมๆ เศร้าๆ อยู่กับเหตุและเภทภัยที่พี่น้องชาวใต้กำลังเผชิญ "น้ำลดตอผุด" ถูกขุดขึ้นมาเป็นรายวัน เหมือนมีใครบางคนกำลังช่วงชิงสถานการณ์หวัง "ตีกิน" สร้างดรามา แต่งคอนเทนต์ไล่ล่าเอาคะแนนนิยมคืนจากรัฐบาลที่นำโดยพรรคภูมิใจไทย
บันทึกหน้า 4
น้ำใจไทยไม่เคยเหือดแห้ง ถนนทุกสายจากทั่วประเทศมุ่งสู่ใต้ โดยเฉพาะ "มหาวิปโยคหาดใหญ่" ไม่ใช่แค่ทั้งเมืองจมบาดาล ทรัพย์สินเสียหาย แต่รวมถึงชีวิตที่ประเมินค่าไม่ได้ ซึ่งมีการอัปเดตตัวเลขช่วงเย็น 27 พ.ย.


