
ประเทศไทยปีนี้แม้จะมีอุณหภูมิที่หนาวเย็นยาวนานกว่าทุกๆ ปี ทำให้หลายบ้านประหยัดค่าไฟไปได้จากการงดเปิดแอร์ แต่สิ่งที่พ่วงมาด้วยในช่วงที่มีอากาศหนาวเย็น ที่สะสมมาจากกิจกรรมทางสังคมของมนุษย์ก็คือ มลพิษ แน่นอนว่ามีหลายสื่อได้อธิบายเรื่องหน้าหนาวกับฝุ่น PM ไว้หลายที่แล้ว เราจึงไม่จำเป็นต้องมากล่าวซ้ำ แต่ก็มักจะเป็นแบบนี้ทุกๆ ปี ที่หน้าหนาวในประเทศไทยจะเกิดการสะสมของ “ฝุ่น” และสามารถส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตและสุขภาพเราได้
การแก้ไขปัญหาที่ยืดเยื้อนี้ได้เกิดขึ้นจากหลายหน่วยงานแล้ว และมีหลากหลายโครงการ เริ่มต้นจากต้นทางไปจนถึงปลายทาง และเมื่อปี 2567 ต่อเนื่องมาปี 2568 ก็เป็นอีกหนึ่งช่วงที่การเอาจริงเอาจังเรื่องการแก้ปัญหามลพิษเห็นเป็นรูปธรรมมากขึ้น เห็นได้จากหน่วยงานอื่นๆ ไม่ใช่เพียงภาครัฐอย่างเดียว โดยในช่วงที่ผ่านมา ที่สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ก็ได้ดำเนินโครงการต่อเนื่องจากช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 67 คือ โครงการ “คลินิกรถ ลดฝุ่น PM 2.5” โดยได้ร่วมกับกรุงเทพมหานคร ซึ่ง ส.อ.ท. โดยกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และบริษัทสมาชิก เดินหน้าโครงการดังกล่าวมาแล้วรอบนี้เป็นครั้งที่ 6
ซึ่งเป็นการสนับสนุนการตรวจสอบสภาพเครื่องยนต์และการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง โดยค่ายรถยนต์ร่วมใจให้ส่วนลดค่าบำรุงรักษาเพื่อลดควันดำ สำหรับประชาชนที่ใช้รถยนต์เครื่องยนต์ดีเซลและเบนซินในพื้นที่ทั่วประเทศ สูงสุดนาน 6 เดือน ตั้งแต่เดือน ต.ค.67 จนถึงสิ้นเดือน ก.พ.68 โดยจะมีศูนย์บริการจากค่ายรถยนต์พร้อมให้บริการกว่า 1,463 แห่ง โดย นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ส.อ.ท.ตระหนักถึงปัญหาฝุ่น PM 2.5 มาโดยตลอด ดังนั้นภายใต้นโยบาย One FTI จึงได้มีการส่งเสริมให้ภาคอุตสาหกรรมมุ่งสู่อุตสาหกรรมสีเขียว หรือ Go Green ให้ครบวงจรการดำเนินธุรกิจ ตลอดห่วงโซ่อุปทาน
ตั้งแต่ ลดการรับซื้อวัตถุดิบการเกษตรที่มาจากการเผา ให้ความร่วมมือในการเฝ้าตรวจวัดมลพิษทางอากาศที่ปล่อยออกจากกระบวนการผลิต และควบคุมกิจกรรมต่างๆ ภายในโรงงานที่เป็นแหล่งกำเนิดฝุ่น บำรุงรักษาเครื่องจักรและรถยนต์ขนส่งพนักงาน และผลักดันให้สมาชิกโรงงานอุตสาหกรรมดำเนินงานตามแนวทางโรงงานอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ (Eco Factory) ซึ่งเป็นมาตรการเพื่อสิ่งแวดล้อม และส่งเสริมให้ธุรกิจใช้พลังงานหมุนเวียนในองค์กร ซึ่งจะเป็นกลไกลเชิงรุกในการป้องกันปัญหาฝุ่นละอองและมลพิษจากภาคอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืน
นอกเหนือจากภาคการผลิตที่กล่าวมาข้างต้น ส.อ.ท.ให้ความสำคัญกับปัญหา PM 2.5 จากภาคขนส่ง โดยเฉพาะในพื้นที่ กทม.ที่มีสัดส่วนกว่า 50% ซึ่งมาจากรถยนต์บรรทุกที่ขนส่งสินค้า และรถโดยสารประจำทางที่ขาดการตรวจสภาพและดูแลเครื่องยนต์ให้มีความพร้อมในการใช้งาน ด้วยเหตุนี้ ส.อ.ท.จึงได้ให้สมาชิกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ดำเนินโครงการคลินิกรถ ลดฝุ่น PM 2.5 ซึ่งดำเนินมาเป็นครั้งที่ 6 แล้ว ผ่านการให้ส่วนลดกับผู้ใช้รถยนต์เข้าศูนย์บริการ เพื่อบำรุงรักษาเครื่องยนต์ ซึ่งจะช่วยลดผลกระทบจากปัญหาฝุ่น PM 2.5
ด้านนางสาวยุพิน บุญศิริจันทร์ ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ ส.อ.ท. กล่าวว่า จากที่ ส.อ.ท. โดยกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์และภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมดำเนิน “โครงการคลินิกรถ ลดฝุ่น PM 2.5” 5 ครั้งที่ผ่านมานั้น ภาคเอกชนได้ร่วมกันให้ส่วนลดในการตรวจเช็กสภาพเครื่องยนต์และการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง สำหรับรถยนต์ดีเซลที่หมดระยะเวลาการรับประกันกว่า 600,000 คัน ซึ่งสามารถคำนวณออกมาเป็นจำนวนเงินที่บริษัทสมาชิกสนับสนุนงบประมาณการดำเนินโครงการมากกว่า 115 ล้านบาท”
สำหรับการดำเนินโครงการบำรุงรักษารถ ลดฝุ่น PM 2.5 ครั้งที่ 6 ในปีนี้ มีสมาชิกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ 9 บริษัทสนับสนุนส่วนลดสำหรับค่าบำรุงรักษาเพื่อลดควันดำ อาทิ การตรวจสอบสภาพฟรี ส่วนลดน้ำมันเครื่อง ค่าแรง และค่าอะไหล่ที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องและการตรวจสอบสภาพเครื่องยนต์ สำหรับรถยนต์เครื่องยนต์ดีเซลและเบนซินเก่าในพื้นที่ทั่วประเทศ ตั้งแต่เดือน ต.ค.67 จนถึงเดือน ก.พ.68 ซึ่งมีบางบริษัทดำเนินโครงการจนถึงเดือน มี.ค.68 โดยจะมีศูนย์บริการจากค่ายรถยนต์เข้าร่วมกว่า 1,463 แห่งในช่วงเวลา 6 เดือน สำหรับประชาชนที่สนใจสามารถประสานและขอข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์บริการของค่ายรถยนต์ที่เข้าร่วมโครงการ.
ณัฐวัฒน์ หาญกล้า
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
สูงวัยใช้เน็ตโตพุ่งกว่า3เท่า
เทคโนโลยีได้เข้ามามีบทบาทอย่างมากในชีวิตของผู้คน เรียกได้ว่าทุกเพศทุกวัยก็ไลฟ์สไตล์ที่มีโลกดิลิทัลเข้ามาเกี่ยวข้อง ก่อนหน้าหลายคนอาจจะมองว่าสูงวัยอาจจะไม่ทันโลก ตามเทรนด์ไม่ทัน
เร่งสปีดSMEไทยด้วยนวัตกรรม
เอสเอ็มอีไทยถือเป็นกำลังสำคัญของระบบเศรษฐกิจประเทศ แต่ในขณะเดียวกันกลับต้องเผชิญความท้าทายรอบด้าน ทั้งต้นทุนที่สูงขึ้น การแข่งขันที่รุนแรง และข้อจำกัดในการเข้าถึงเทคโนโลยีและองค์ความรู้ ซึ่ง กริชผกา บุญเฟื่อง ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ
ผนึกพลังพัฒนากำลังคน
ท่ามกลางแรงกดดันจากเศรษฐกิจโลก เทคโนโลยีที่เปลี่ยนเร็ว และการแข่งขันด้านต้นทุนที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ คำถามสำคัญของอุตสาหกรรมไทยไม่ใช่เพียง “จะผลิตอย่างไรให้ได้มากขึ้น” แต่คือ “จะสร้างคนและองค์ความรู้แบบใดให้ยืนระยะในเวทีสากลได้จริง”
ปีใหม่เป้าลดอุบัติเหตุ 5%
ช่วงเทศกาลปีใหม่ถือเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขที่ประชาชนจำนวนมากออกเดินทางกลับภูมิลำเนาและท่องเที่ยว ส่งผลให้ปริมาณการใช้รถใช้ถนนเพิ่มสูงขึ้นเป็นเท่าตัว และมักตามมาด้วยความเสี่ยงด้านอุบัติเหตุทางถนน
เมื่อสุขภาพคือความลักชัวรีแบบใหม่
ในยุคที่ผู้คนต่างก็ให้ความสำคัญกับเรื่องสุขภาพ ทำให้เทรนด์นี้ยังคงมาแรงต่อเนื่อง ซึ่งก็มีข้อมูลที่น่าสนใจจากวิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล (CMMU) กับข้อมูลสุดอินไซต์ “ภูมิทัศน์การดูแลสุขภาพของคนไทย” รับเทรนด์เศรษฐกิจอายุยืน
องค์กรต้องกล้าเปลี่ยนผ่าน
ท่ามกลางความผันผวนของเศรษฐกิจโลกและแรงกดดันด้านความยั่งยืนที่เข้มข้นขึ้น ทำให้ภาคธุรกิจต้องปรับตัวรองรับกับการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ซึ่ง สมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย (TMA)

