บันทึกหน้า 4

ไทยโพสต์ อิสรภาพแห่งความคิด ควันหลงการเลือกตั้งนายก อบจ. เมื่อวันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา มีการถกเถียงกันว่า นายทักษิณ ชินวัตร สิ้นมนตร์ขลังหรือไม่ โดยพรรคเพื่อไทย (พท.) ส่งผู้สมัครนายก อบจ. 16 จังหวัด ได้รับชัยชนะ 10 ที่นั่ง ก็ถือว่าได้เกินครึ่ง หากมองจากสิ่งที่ทักษิณได้จากสนามการเลือกตั้งครั้งนี้ถือว่าคุ้มค่า เพราะตนเองห่างหายไป 17 ปี กลับมาขึ้นเวทีคราวนี้ยังมีมวลชนแฟนคลับกลับมาเป็นกองเชียร์หนาแน่น สามารถกระชับอำนาจในพื้นที่ได้มากขึ้น บนเวทีปราศรัยก็พูดแต่เรื่องตัวเองมากกว่าเรื่องท้องถิ่น ได้อธิบายช่วงเวลาที่หายไป 17 ปีว่าถูกคณะรัฐประหารรังแก แล้วทำให้เศรษฐกิจแย่กว่าเดิม ตบหน้า กลุ่มอนุรักษนิยม ฉาดใหญ่!

ที่ยึดอำนาจตนเองไปแล้วยังนำกลับมาใช้งานอีก และได้แก้ตัวว่ารวยมาก่อน ไม่ได้ทุจริต โดยไม่สนใจพระบรมราชโองการอภัยลดโทษ ที่ระบุว่า "ยอมรับผิดในการกระทำ มีความสำนึกในความผิด" ยืนกรานว่าตัวเองไม่ได้ทำผิด ส่วนที่ยังมีประชาชนเลือก อดีตนายกฯ หนีคดีทุจริต นั้น ก็เป็นการโจษของสังคมไทยว่าเรามาถึงจุดนี้ได้อย่างไร?...0

ส่วน พรรคประชาชน (ปชน.) ส่งผู้สมัครชิงเก้าอี้นายก อบจ. 17 จังหวัด ได้มาแค่ 1 ที่นั่ง คือ จ.ลำพูน ถือว่าพลาดเป้าอย่างมาก ทั้งนี้นักวิชาการที่เป็นกองเชียร์บางคนวิเคราะห์ว่าจะได้ถึง 7-8 เก้าอี้ ที่ จ.ลำพูน นายวีระเดช ภู่พิสิฐ หรือ "โกเฮง” เอาชนะ นายอนุสรณ์ วงศ์วรรณ บ้านใหญ่ลำพูน ก็เป็น บ้านใหญ่ ด้วยกัน ไม่ใช่กระแสพรรคส้มโดยตรง อย่างไรก็ตาม หากวิเคราะห์ถึงคะแนนเสียงแล้ว จังหวัดที่แพ้หลายแห่งได้อันดับ 2 คะแนนห่างกันไม่มาก เช่น เชียงใหม่ นครนายก สมุทรปราการ ตราด และสมุทรสงคราม ที่สำคัญ พรรคส้ม ใช้เงินในการหาเสียงน้อยมากเมื่อเทียบกับ พรรคสีแดง และเครือข่าย พรรคสีน้ำเงิน จนเกิดวาทกรรมว่า ชนะศึก แพ้สงคราม ส่วนที่ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรค ปชน. อ้างว่าพรรคยังรณรงค์ในการให้ประชาชนออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งไม่มากพอ โดยมีผู้มาใช้สิทธิเพียง 58.45% ก็เป็นเหตุผลหนึ่ง แต่ที่สำคัญคือปัญหาภายใน พรรคส้ม ที่สมาชิกบางคนไม่ลงรอยกัน ขาดความเป็นเอกภาพ การจัดทัพเลือกตั้งจึงไม่มีประสิทธิภาพ เลือกตั้้งครั้งต่อไปหากจัดทัพแข็งแกร่ง พรรคส้ม ยังเป็นพรรคการเมืองที่ท้าทาย บ้านใหญ่ และ กลุ่มอนุรักษนิยม เพราะกาลเวลาก็ยังเป็นของพรรคส้ม!...0

ถกเถียงกันมาหลายวัน เพิ่งมีความชัดเจนสำหรับปัญหาการตัดไฟฟ้าที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ส่งให้ เมืองบาป-แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ตามแนวชายแดนไทย-เมียนมา โดย น.ส.แพทองธาร  ชินวัตร นายกฯ สั่งการให้ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม เรียกประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) และมีมติตัดไฟ-ตัดน้ำมัน-อินเทอร์เน็ต 5 จุดแล้ว ส่วนที่มีปัญหาโยนกันไปมากับ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย ในฐานะที่กำกับดูแล กฟภ.นั้น สะท้อนถึงภาวะผู้นำของผู้นำรัฐบาล และไม่มีการบูรณาการระหว่างหน่วยงาน นายภูมิธรรมยกระเบียบ กฟภ.มาอ้างว่า กฟภ.มีอำนาจตัดไฟได้เลยก็จริง แต่ กฟภ.ก็ต้องได้ข้อมูลจากหน่วยงานฝ่ายความมั่นคง ซึ่งได้ทำหนังสือไปสอบถามหลายหน่วยงานแล้ว แต่ไม่มีคำตอบ นายหลิว จงอี้ ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงและสาธารณะ สาธารณรัฐประชาชนจีน ต้องมากดกันหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทย ถึงได้ตื่นตัวกัน...0

ศ.ดร.ปิ่นแก้ว เหลืองอร่ามศรี อาจารย์คณะสังคมศาสตร์ ม.เชียงใหม่ ชำแหละเบื้องหลังได้ตรงจุดว่า "สะท้อนผลประโยชน์มหาศาล และความสัมพันธ์ต่างตอบแทนในเขตชายแดนที่ ทุนจีนเทา BGF และหน่วยงานรัฐไทยมีต่อกันอย่างแนบแน่น การทุบหม้อข้าวของ BGF ด้วยการตัดไฟแก๊งสแกมเมอร์จีน ย่อมส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์เชิงอุปถัมภ์ที่เคยมีมา ส่วยและความเกรงใจต่อจีนเทา แก๊งสแกมเมอร์จีน ต้องถือว่าเป็นลูกค้ารายใหญ่และเป็นลูกค้าชั้นดี ที่จ่ายส่วยเต็มเม็ดเต็มหน่วยมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา จ่ายทุกหน่วยงาน และจ่ายรอบวง ไม่ใช่แค่ให้กับกองกำลัง BGF แต่ให้กับหน่วยงานไทยที่ดูแลชายแดนด้วย" เช่นเดียวกับ นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ระบุว่า “แก๊งคอลเซ็นเตอร์จะไม่มีทางเติบโตได้ขนาดนี้ ถ้าไม่ได้คนที่คอร์รัปชันที่อยู่ในวงการราชการ" และว่ากันว่า ส่วยจาก กลุ่มจีนสีเทา เว็บพนันออนไลน์ ก็จัดส่งให้ก๊วนที่กำลังผลักดัน กาสิโนและพนันออนไลน์ถูกกฎหมาย ด้วย นำไปแจกในสนามเลือกตั้งนายก อบจ.ที่ผ่านมาแบบไม่อั้น!...0.

 

แซมซาย

เพิ่มเพื่อน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

บันทึกหน้า 4

น้ำลด การเมืองผุด! หลังเพลาไปช่วงมหาวิปโยคใต้ เวลานี้กลับมาร้อนฉ่าอีกรอบ ช่วงเย็นพุธที่ผ่านมา คล้อยหลัง "นายกฯ อนุทิน" แถลงโชว์ถอนรากสแกมเมอร์เขมรยึดทรัพย์หมื่นล้าน

บันทึกหน้า 4

ต้องยอมรับว่าแม้ “มหาอุทกภัยในภาคใต้” เริ่มคลี่คลายเข้าสู่จุดการเยียวยา-ฟื้นฟูแล้วก็ตามที แต่ยอดผู้เสียชีวิตและความเสียหายก็ยังไม่นิ่งเสียทีเดียว แต่อย่างไรยอดผู้เสียชีวิตก็คงไม่ถึงพันศพตามที่ “พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล” อดีต รอง ผบ.ตร. วาดหวังแน่ๆ แล้ว

บันทึกหน้า 4

หลังวิกฤตน้ำท่วม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา คลี่คลาย น้ำตาก็ท่วมเมือง เมื่อชาวหาดใหญ่เห็นสภาพบ้านเรือนของตัวเองกลายเป็นซากปรักหักพัง ทรัพย์สินที่สร้างมาพังพาบไปกับกระแสน้ำแทบสิ้นเนื้อประดาตัว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ร่วมประชาสัมพันธ์กิจกรรมความร่วมมือ “รวมใจไทย ฟื้นแดนใต้” ซึ่งรัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์เป็นแกนกลางในการประสานงานร่วมกับภาคเอกชนและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

บันทึกหน้า 4

ภายใต้วิกฤตหาดใหญ่ครั้งนี้ ผู้นำรัฐบาลอย่าง อนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ และ รมว.มหาดไทย ถูกเรียกร้องให้แสดงความรับผิดชอบ แม้ต้นตอของปัญหาไม่ได้มาจากเขาคนเดียว

บันทึกหน้า 4

ขึ้นต้นเดือนสุดท้ายของปี บรรยากาศสังคมไทยยังคงซึมๆ เศร้าๆ อยู่กับเหตุและเภทภัยที่พี่น้องชาวใต้กำลังเผชิญ "น้ำลดตอผุด" ถูกขุดขึ้นมาเป็นรายวัน เหมือนมีใครบางคนกำลังช่วงชิงสถานการณ์หวัง "ตีกิน" สร้างดรามา แต่งคอนเทนต์ไล่ล่าเอาคะแนนนิยมคืนจากรัฐบาลที่นำโดยพรรคภูมิใจไทย

บันทึกหน้า 4

น้ำใจไทยไม่เคยเหือดแห้ง ถนนทุกสายจากทั่วประเทศมุ่งสู่ใต้ โดยเฉพาะ "มหาวิปโยคหาดใหญ่" ไม่ใช่แค่ทั้งเมืองจมบาดาล ทรัพย์สินเสียหาย แต่รวมถึงชีวิตที่ประเมินค่าไม่ได้ ซึ่งมีการอัปเดตตัวเลขช่วงเย็น 27 พ.ย.